ระเบียงรถใหม่
สืบสานสายพันธุ์รถสปอร์ทยอดดังเมืองผู้ดี
เอ่ยชื่อ แมคลาเรน (McLAREN) คนรักรถส่วนใหญ่คงจะหลับตาเห็นรถที่วิ่งอยู่ในสนามแข่งมากกว่ารถที่วิ่งอยู่ตามท้องถนนทั่วไป ก็สมควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะก่อนจะเริ่มเอาดีกับการผลิตรถขาย ชื่อนี้ผูกพันกับวงการแข่งรถระดับโลกมายาวนาน ประจักษ์พยานยืนยันสรรพคุณ คือ เจ้าของตำแหน่ง FORMULA 1 CONSTRUCTORS' WORLD CHAMPIONSHIP หรือแชมพ์โลกผู้สร้างรถ ฟอร์มูลา 1 ถึง 8 สมัย ในปี 1974, 1984, 1985, 1988, 1989, 1990, 1991 และ 1998 กับการสร้าง FORMULA 1 DRIVER'S WORLD CHAMPIONSHIP ถึง 7 คน คือ เอเมอร์สัน ฟิตติปาลดี (EMERSON FITTIPALDI) ชาวบราซิล เจมส์ ฮันท์ (JAMES HUNT) ชาวอังกฤษ นิคี เลาดา (NIKI LAUDA) ชาวออสเตรีย อแลง พโรสต์ (ALAIN PROST) ชาวฝรั่งเศส อายร์ทัน เซนนา (AYRTON SENNA) ชาวบราซิล มิคา ฮัคคิเนน (MIKA HAKKINEN) ชาวฟินแลนด์ และ ลูอิส แฮมิลทัน (LEWIS HAMILTON) ชาวอังกฤษ
รถแบบแรกที่ค่าย แมคลาเรน ทำขึ้นเพื่อขายไม่ใช่เพื่อแข่งกำเนิดขึ้นในช่วงปี 1968/1969 เป็นรถสปอร์ท แมคลาเรน เอม 6 จีที (McLAREN M6 GT) ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ความจุ 5.7 ลิตร ของ ฟอร์ด มีกำลังสูงสุดประมาณ 370 แรงม้า และสามารถทำความเร็วสูงสุด 265 กม./ชม. ปรากฏว่าผลิตได้เพียง 3 คันก็ล้มเลิกโครงการไปเพราะผู้ก่อตั้งกิจการ คือ บรูศ แมคลาเรน (BRUCE McLAREN) ถึงแก่กรรมอย่างน่าเศร้าในเดือนมิถุนายน 1970 และโลกต้องรออีก 2 ทศวรรษ จึงได้สัมผัสรถแบบแรกที่ค่ายนี้ผลิตขายอย่างจริงๆ จังๆ วิจารณ์กันว่า แม้ต้องรอคอยอย่างยาวนาน แต่ก็เป็นการรอคอยที่คุ้มค่ามาก
รถที่กล่าวข้างต้น คือ แมคลาเรน เอฟ 1 (McRALEN F1) ผลงานชิ้นแรกของ แมคลาเรน คาร์ส์ (McLAREN CARS) บริษัทลูกที่ค่ายนี้ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 1990 ด้วยความเชื่อว่าธุรกิจที่ยั่งยืนของบริษัทไม่สามารถฝากไว้กับกิจการแข่งรถเพียงอย่างเดียว และเป้าหมายของบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นใหม่นี้คือการสร้าง THE BEST SPORTING CAR IN THE WORLD หรือ "รถสปอร์ทที่ดีที่สุดในโลก" นั่นเอง
แมคลาเรน เอฟ 1 เป็นรถสปอร์ท 3 ที่นั่ง ที่มีผู้ขับนั่งอยู่ตรงกลางและมีน้ำหนักตัวแค่ 1,140 กก. เพราะโครงตัวถังและเปลือกตัวถังล้วนทำจากวัสดุสังเคราะห์มวลเบาที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า CARBON COMPOSITE ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องเบนซิน วี 12 สูบ 6.1 ลิตร 627 แรงม้า ที่ค่าย บีเอมดับเบิลยู ผลิตให้ รถคันแรกส่งถึงมือผู้ซื้อด้วยราคา 634,500 ปอนด์ ในปี 1994 และยุติการผลิตเมื่อปี 1998 ด้วยยอดผลิตรวม 107 คัน ในจำนวนนี้เป็น ROAD CAR หรือรถที่วิ่งได้ตามท้องถนนอย่างถูกกฎหมายเพียง 64 คัน ที่เหลือเป็นรถที่ดัดแปลงเป็นรถแข่ง ทุกวันนี้ แมคลาเรน เอฟ 1 จึงเป็นรถสปอร์ทที่หายากและเป็นที่หมายปองของนักสะสม เมื่อปี 2009 มีผู้ประมูลรถแบบนี้คันหนึ่งในราคาที่สูงเป็นสถิติ คือ สูงถึง 2.53 ล้านปอนด์อังกฤษ หรือเท่ากับประมาณ 140 ล้านบาทไทยนั่นเทียว
ความสำเร็จของ แมคลาเรน เอฟ 1 ที่คนรักรถส่วนหนึ่งเชื่อมั่นว่าควรคู่กับสมญานาม "รถสปอร์ทที่ดีที่สุดในโลก" นำมาซึ่งรถสปอร์ทอีก 5 รุ่น คือ รถคูเป เมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลอาร์ แมคลาเรน (MERCEDES-BENZ SLR McLAREN) และรถเปิดประทุน เมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลอาร์ แมคลาเรน โรดสเตอร์ (MERCEDES-BENZ SLR McLAREN ROADSTER) ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือกับค่ายดาวสามแฉก แมคลาเรน เอมพี 4-12 ซี (McLAREN MP4-12C) กับ แมคลาเรน เอมพี 4-12 ซี สไปเดอร์ (McLAREN MP4-12C SPIDER) รถสปอร์ทซูเพอร์คาร์ที่เริ่มจำหน่ายในเมืองผู้ดีเมื่อปี 2011 และ 2012 ตามลำดับ และ แมคลาเรน พี 1 (McLAREN P1) รถไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟที่จำกัดจำนวนผลิตไว้เพียง 375 คัน โดยตั้งค่าตัวไว้สูงลิบถึง 866,000 ปอนด์อังกฤษ หรือเท่ากับประมาณ 47.630 ล้านบาทไทย แต่ก็ยังขายได้ทั้งหมด
ส่วนซูเพอร์คาร์ติดป้ายชื่อ แมคลาเรน 650 เอส คูเป (McLAREN 650S COUPE) และ แมคลาเรน 650 เอสสไปเดอร์ (McLAREN 650S SPIDER) ที่กำลังอวดโฉมอยู่ในขณะนี้ เป็นผลงานชิ้นใหม่เอี่ยมแกะกล่องที่เพิ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกพร้อมๆ กันที่งานมหกรรยานยนต์เจนีวาครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2014 และขณะนี้เริ่มจำหน่ายแล้วโดยติดป้ายค่าตัว 195,250 และ 215,250 ปอนด์ หรือเท่ากับประมาณ 10.740 และ 11.840 ล้านบาทไทยตามลำดับ
เช่นเดียวกับรถหลายรุ่นหลายแบบที่ปรากฏตัวใน "ระเบียงรถใหม่" ผลงานชิ้นล่าสุดนี้ไม่ใช่รถใหม่อย่างที่เรียกขานกันภาษาอังกฤษว่า COMPLETELY NEW หรือที่เรียกกันในบ้านเราว่า "ใหม่หมด" แต่เป็นรถใหม่ที่ดัดแปลงและพัฒนาจากรถรุ่นเดิม คือรถคูเป แมคลาเรน เอมพี-4 12 ซี (McLAREN MP4-12C) กับรถเปิดประทุน แมคลาเรน เอมพี 4-12 ซี สไปเดอร์ (McLAREN MP4-12C SPIDER) ที่กล่าวถึงข้างต้น และผู้ผลิตยืนยันว่าสิ่งที่ทำขึ้นใหม่นั้น มีมากกว่าหนึ่งในสี่ของตัวรถทั้งหมด ส่วนที่มาของชื่อรุ่นคือ 650S ก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไร ตัวเลข 650 คือ กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ซึ่งมีหน่วยเป็นแรงม้า PS ในขณะที่ S ย่อมาจาก SPORT
เป็นรถ 2 โมเดลที่หากไม่นับส่วนหลังคาแล้ว ก็แทบไม่มีอะไรเลยที่แตกต่างกัน หน้าตาเหมือนกันรูปทรงองค์เอวเหมือนกันขนาดตัวถังก็โตเท่ากัน คือ ยาว 4.512 ม. และกว้าง 2.093 ม. เท่ากัน แต่ความสูงต่างกันนิดหน่อย คือ ตัวถังคูเปสูง 1.199 ม. ตัวถังเปิดประทุนสูง 1.203 ม. ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศซึ่งบ่งบอกความลื่นลม ตัวถังเปิดประทุนมีค่า 0.36 ส่วนตัวถังคูเปยังหาข้อมูลไม่ได้แต่เชื่อว่าคงเป็นตัวเลขเดียวกัน น้ำหนักตัวเปล่าค่อนข้างเบาเหมือนรถแบบอื่นๆ ของค่ายนี้เพราะชิ้นส่วนตัวถังล้วนทำจากอลูมิเนียมและวัสดุสังเคราะห์มวลเบาที่มีคาร์บอนเป็นส่วนผสมสำคัญ ตัวเลขของตัวถังคูเป คือ 1,330 กก. (เบากว่ารถซึ่งเป็นที่มา 6 กก.) ส่วนตัวถังเปิดประทุนหนักกว่านิดหนึ่ง คือ 1,370 กก. ที่เพิ่มขึ้นมา 40 กก. เป็นผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงหลังคา เป็นหลังคาเปิดประทุนชนิดแข็งที่ออกแบบเป็น 2 ชิ้น บังคับเปิด/ปิดด้วยการกดปุ่มเพียงกดเดียว การเปิดหรือปิดแต่ละครั้งใช้เวลาไม่ถึง 17 วินาที และสามารถทำได้เมื่อรถหยุด หรือขณะวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม.
ทั้ง 2 โมเดลติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกันกับรถซึ่งเป็นที่มา คือ เครื่องยนต์วางกลางลำตามยาว/ทวินเทอร์โบเบนซิน DOHC วี 8 สูบ ความจุ 3,799 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 478 กิโลวัตต์/650 แรงม้า ที่ 7,250 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 678 นิวตัน-เมตร/69.2 กก.-ม. ที่ 6,000 รตน. และถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
สมรรถนะความเร็วตามข้อมูลของผู้ผลิตให้ตัวเลขที่ใกล้เคียงกันมาก นั่นคือ ตัวถังคูเป อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.0 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ทำได้ใน 8.4 วินาที อัตราเร่ง 0-300 กม./ชม. ทำได้ใน 25.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม. ส่วนตัวถังเปิดประทุน ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 3.0 วินาที 8.6 วินาที 26.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 329 กม./ชม. ที่น่าสนใจ คือ ทั้ง 2 มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 11.7 ลิตร/100 กม. หรือ 8.5 กม./ลิตรเท่ากัน และอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากปลายท่อไอเสียก็ไม่ดุเดือดจนเกินทน คือ อยู่ที่ระดับ 275 กรัม/กม.
McLAREN 650S COUPE
* ซูเพอร์คาร์ค่าตัว 195,250 ปอนด์
* ตัวถังคูเป 4.512x2.093x1.199 ม.
* เครื่องทวินเทอร์โบ วี 8 สูบ 650 แรงม้า
* อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.0 วินาที
* ความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม.
McLAREN 650S SPIDER
* ซูเพอร์คาร์ค่าตัว 215,250 ปอนด์
* ตัวถังเปิดประทุน 4.512x2.093x1.203 ม.
* เครื่องทวินเทอร์โบ วี 8 สูบ 650 แรงม้า
* อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.0 วินาที
* ความเร็วสูงสุด 329 กม./ชม.
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา/บริษัทผู้ผลิต
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/16528