นับเป็นรถตลาดที่ทรงพลังที่สุดและวิ่งได้เร็วที่สุดในประวัติอันยาวนานถึง 7 ทศวรรษของค่ายนี้ (หากไม่นับรถ FERRARI LAFERRARI ซึ่งเป็นรถไฮบริดที่ผลิตในจำนวนจำกัด) และไม่ใช่รถที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งคัน แต่เป็นการนำรถสปอร์ทม้าลำพองที่เริ่มการจำหน่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2012 พร้อมกับป้ายชื่อ แฟร์รารี เอฟ 12 แบร์ลิเนตตา (FERRARI F12 BERLINETTA) มาปรับปรุงและยกระดับอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า UPGRADED VERSION และก่อนหน้านี้เคยมีข่าวตามสื่อต่างๆ ว่าจะใช้ชื่อ แฟร์รารี เอฟ 12 เอม (FERRARI F12M) แต่ภายหลังเกิดเปลี่ยนใจมาใช้รหัส 812 และชื่อท้าย SUPERFAST ซึ่งน่าจะแปลเป็นไทยตามยุคตามสมัยที่ดูไม่สุภาพเสียเลยได้ว่า เร็วโคตรๆ
ตัวถัง 2 ประตูคูเป ยาว 4.657 ม. กว้าง 1.971 ม. และสูง 1.276 ม. ที่ออกแบบให้นั่งได้เพียง 2 คน มีขนาดผิดเพี้ยนไปเพียงเล็กน้อยจากรถซึ่งเป็นต้นตอ ที่ยาว 4.618 ม. กว้าง 1.942 ม. และสูง 1.273 ม. แต่มีรายละเอียดของตัวถังภายนอกอยู่มากมายที่เห็นได้ชัดว่าทำขึ้นใหม่ทั้งหมด ตัวอย่าง คือ แผงกระจังหน้ากับคู่ดวงโคมไฟหน้า LED ที่ออกแบบขึ้นใหม่ และเส้นสายตรงสีข้างทั้ง 2 ด้านที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
เครื่องยนต์กลไกก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน เครื่องเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 12 สูบ 65 องศา 6,262 ซีซี 544 กิโลวัตต์/740 แรงม้า บลอคถูกยกทิ้ง แล้วแทนที่ด้วยเครื่องยนต์แบบเดียวกันที่ขยายความจุเป็น 6,496 ซีซี เป็นเครื่องยนต์ที่ค่ายม้าลำพองเพิ่งออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ ให้กำลังสูงสุดที่สูงถึง 588 กิโลวัตต์/800 แรงม้า ให้แรงบิดที่สูงถึง 718 นิวตัน-เมตร/73.3 กก.-ม. และมีค่าอัตราส่วนกำลังต่อขนาดความจุที่สูงถึง 123 แรงม้า/ลิตร อันเป็นตัวเลขที่ไม่เคยมีเครื่องยนต์วางหน้าในรถตลาดแบบใดเคยทำได้ หรือแม้เพียงเข้าใกล้ ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้ายังคงเป็นเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะเช่นเดิม
ตามตัวเลขของผู้ผลิต ม้าลำพองตัวนี้ใช้เวลาเพียง 2.9 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ความเร็วสูงสุดไม่ระบุตัวเลขที่แน่นอน บอกแต่เพียงว่าเร็วกว่า 340 กม./ชม. ที่หนักหน่อยก็คืออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่สูงถึง 14.9 ลิตร/100 กม. หรือ 6.7 กม./ลิตร โดยเฉลี่ย ส่วนอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากปลายท่อไอเสียก็สูงถึง 340 กรัม/กม.

