โดนัลด์ ทรัมพ์ สาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อ 20 มกราคมที่แล้ว นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของอเมริกันชน เพราะ ทรัมพ์ ได้รับเสียงต่อต้านตั้งแต่วันหาเสียงจนถึงวันสาบานตนตามจารีตทรัมพ์ เป็นผู้นำประเทศอีกคนในโลกใบนี้ ที่ได้ชื่อว่า พูดจาเป็นขวานผ่าซาก พูดจาโผงผางไม่เกรงใจ ไม่สนใจคนที่ได้ยินจะเกิดความรู้สึกสถานใด ผู้นำโผงผางก่อนหน้า ทรัมพ์ น่าจะเป็นประธานาธิบดี โรดรีโก ดูเตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ดูเตร์เต เป็นนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา นานกว่า 20 ปี โผงผางมาแต่ครั้งนั้น โดยเฉพาะการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดแบบไม่เกรงใจสิทธิมนุษยชน ทรัมพ์ ชนะเลือกตั้งเพราะอเมริกันชน หลงใหล “ความเปลี่ยนแปลง” กอ-ขอ-คอ-งอ แบบ ฮิลลารี คลินทัน เบื่อเต็มที โผงผางตามก้นเอเชียสักทีจะเป็นไร ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเห็นได้จากชัยชนะของ บารัค โอบามา ก็มาจากคำว่า “CHANGE” นโยบายหาเสียงหลักของ ทรัมพ์ คือ “สหรัฐอเมริกาต้องมาก่อน” มาก่อนในที่นี้หมายถึงทุกด้าน ทุกเรื่อง ที่สำคัญ คือ การเมือง และเศรษฐกิจ พูดจาแบบไม่เกรงใจประเทศใดในโลกใบนี้โดยเฉพาะ เมกซิโก กับจีน เมื่อ ทรัมพ์ ชนะการเลือกตั้ง โลกทั้งใบก็ต้องหยุดมองสหรัฐอเมริกา แต่เราไม่เชื่อว่า พฤติกรรมในฐานะประธานาธิบดีของ ทรัมพ์ คงไม่ง่ายเหมือนการพูดจาแบบโผงผาง โดยเฉพาะเมื่อการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ พระอินทร์ที่ไหนจะยอมให้สหรัฐอเมริกาเขมือบผลประโยชน์ อังกฤษกับรัสเซีย มีบทบาทที่เกี่ยวข้องกับความโผงผางของ ทรัมพ์ เมืองผู้ดีแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ไม่เอาอียู ส่วนรัสเซียถ้าหสรัฐอเมริกาจูบปากด้วย จีนก็วังเวง เวลานี้ จีนกับเมกซิโกถูกเล่นงานด้วยกำแพงภาษี ไม่ใช่กำแพงกั้นเขตแดนเมกซิโกกับสหรัฐอเมริกา เพราะ ทรัมพ์ ต้องการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจในประเทศของตน หากเป็นผลเมื่อไรก็ไม่แน่ว่า นโยบายการค้าเสรีของโลกอาจจะกลับมา อีกไม่นาน ดูเตร์เต ก็จะเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ครบรอบ 1 ปี หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 30 มิถุนายน 2559 ระยะแรกก็โผงผางตามบุคลิก พูดจาไม่เกรงใจ โอบามา ไม่สนใจสหประชาชาติ สุดท้ายก็เงียบ ทรัมพ์ เป็นนักธุรกิจขนาดยักษ์ ไม่ได้มาจากตำแหน่งนายกเทศบาลเมือง หลายนโยบายของสหรัฐอเมริกา จึงยังเป็นภาพที่คาดเดาได้ยาก แม้จะต้องผ่านการรับรองจากรัฐสภา แต่ประธานาธิบดี ทรัมพ์ ย่อมมีพฤติกรรมต่างกว่าวันหาเสียง การเคลื่อนไหวของประธานาธิบดี ทรัมพ์ วันนี้ ยังไม่มีผลเสียหายกับเศรษฐกิจของไทย ซึ่งมีการค้ากับสหรัฐอเมริกาเพียงเล็กน้อย ยิ่งเวลานี้เป็นสังคมอาเซียน การค้ากับอาเซียนด้วยกันน่าจะเป็นผลบวกมากกว่า ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค TPP ไทยก็เลยค้าขายแบบโล้สำเภาทอง อยู่แถวๆ ทะเลจีนใต้ ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน โดยไม่ลืมไต้หวันกับฟิลิปปินส์ กลางปีระกานี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ น่าจะรู้สึกตัว โลกทั้งใบ ไม่ใช่ของนายคนเดียว...!