แตรรถยนต์ ต้องพร้อมใช้งานเสมอ ถ้าบีบแล้วไม่ดัง หรือเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน ต้องเปลี่ยนสถานเดียว DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ มีวิธีเปลี่ยนแตรรถยนต์มาฝาก
การใช้แตรเป็นเรื่องที่ง่าย แต่จะใช้อย่างไรให้ไม่เสียมารยาทนั้นยากกว่า จำเป็นต้องเอาใจใส่กับเรื่องนี้เช่นกัน เพราะมันสามารถ "สื่ออารมณ์" ของผู้ขับได้ชัดเจน ขึ้นอยู่กับ จังหวะและน้ำหนักการกด
การกดแตรเต็มแรง และเสียงดังยาว ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือในระยะกระชั้นชิด ที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง และสื่ออารมณ์ไม่พอใจ เช่น โดนรถปาดหน้ากะทันหัน
กดแตรเต็มแรง เป็นจังหวะสั้นๆ 1-2 ครั้ง สื่ออารมณ์ถึงการเตือน ที่ไม่ได้อยู่ในระยะกระชั้นชิด พอที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้ทัน เช่น เตือนรถที่กำลังเบี่ยงเลน
กดแตรเบาๆ เป็นจังหวะ 1-2 ครั้ง แสดงถึงการทักทาย และขอบคุณ
แตรรถยนต์มี 2 แบบ คือ แตรลม เมื่อก่อนนิยมติดตั้งในรถบรรทุกและเรือ เพราะมีเสียงดังกังวาน ไปได้ไกล ในชุดแตรลมประกอบไปด้วย มอเตอร์ปั๊มลม ปากแตร รีเลย์ หลักการทำงานเมื่อกดปุ่มแตรจะส่งกระแสไฟไปยังมอเตอร์ปั๊มลม เพื่อปั๊มแรงลมผ่านปากแตร ทำให้มีเสียงดัง
ส่วนแตรไฟฟ้า เป็นที่นิยมในปัจจุบัน และโรงงานผลิตมักติดตั้งแตรชนิดนี้กับรถรุ่นใหม่เกือบทุกรุ่น เพราะมีราคาไม่แพง หลักการทำงานของแตรไฟฟ้าเมื่อกดปุ่มแตรบนพวงมาลัยรถยนต์ กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านขดลวด และขดลวดจะมีอำนาจเป็นแม่เหล็กคอยดูดระหว่างแผ่นไดอแฟรม ที่เป็นแผ่นเหล็กลักษณะพิเศษทั้ง 2 แผ่น ทำให้สั่นและบิดตัว จนเกิดเสียงดัง
หากเสียงแตรผิดเพี้ยนไป หรือเสียงไม่ค่อยดัง ให้ลองปรับเสียงแตรดูก่อนที่จะเปลี่ยนอันใหม่ โดยให้สังเกตตรงที่หน้าแตร จะมีนอทเล็กๆ 1 ตัว โผล่ขึ้นมาจากผิวแตร สามารถใช้ไขควงหมุนปรับเสียงได้ตามต้องการ
1. ประแจเบอร์ 10
2. แตรไฟฟ้า 1 คู่
3. มีดคัทเตอร์
4. เทปกาวพันสายไฟ
5. สายไฟ 2 เส้น (สายกราวน์ด)
2. ใช้ประแจเบอร์ 10 ขันนอท เพื่อถอดแตรอันเก่า
3. ใช้มีดคัทเตอร์ควั่นสายไฟ (สายกราวน์ด) ส่วนปลายทั้ง 2 ข้าง
4. นำสายไฟ พันกับขั้วของแตร 1 ข้าง พันเทปกาวให้เรียบร้อย
5. นำปลายสายไฟอีกด้านหนึ่ง พันกับนอทที่ยึดติดกับตัวถัง
6. นำปลั๊กแตร เสียบกับขั้วอีกด้านหนึ่งของขั้วแตร (ครบ 2 ขั้ว) ติดตั้งแตรเข้าไปในตำแหน่งเดิม
7. ใช้ประแจขันนอทให้แน่นเหมือนเดิม
8. ทดลองกดแตรหลายๆ ครั้ง และติดตั้งอีก 1 ข้าง ตามขั้นตอนเดิม เป็นอันเสร็จ
บทความแนะนำ

