รอบรู้เรื่องรถ
ระบบกันสะเทือน เรื่องซับซ้อนที่ต้องเข้าใจ
เนื้อที่หมดพอดีในตอนที่แล้ว เมื่อถึงเรื่อง PRIMARY RIDE และ SECONDARY RIDE ซึ่งผมขอแปลแบบหวังผลให้เข้าใจง่ายว่า "การกันสะเทือนอย่างหยาบ" และ "การกันสะเทือนอย่างละเอียด" ตามลำดับ ทั้ง 2 แบบนี้ปนกันอยู่ในขณะที่เราขับ หรือนั่งโดยสารในรถครับ มากหรือน้อยในสัดส่วนต่างๆ ขึ้นอยู่กับความเร็วของรถ และสภาพของผิวถนนการกันสะเทือนอย่างหยาบ ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ก็คือ การกันสะเทือนของตัวรถจาก "ความไม่เรียบ" ของผิวถนน ที่เรามองเห็นได้ง่าย โดยไม่ต้องอยู่ในระยะใกล้เป็นพิเศษ เช่น หลุม ก้อนหิน กองปูนซีเมนท์ที่คนขับรถผสมคอนกรีทมันชุ่ย ขับออกจากที่ก่อสร้างโดยไม่ล้าง เพราะไม่ต้องกลัวใครมาปรับเงิน หรือลงโทษมัน SPEED BUMP หรือที่คนไทยเรียบกันว่า "ลูกระนาด" คอสะพานที่ทรุด ตอม่อฐานรถไฟฟ้า ที่ "โพล่" มา เพราะอยู่บนเสาเข็มจึงไม่ทรุด แต่ถนนทรุด หรืออาจจะใหญ่กว่านี้ เช่น สะพานขนาดเล็ก ที่เราขับผ่านอย่างเร็วก็เข้าข่ายได้เหมือนกันครับ ลองสมมติในใจดูว่า ถ้าเราไม่มีระบบกันสะเทือนของรถ และตัวเราต้องเคลื่อนที่ขึ้น/ลงในแนวดิ่ง ตามรูปทรงของผิวถนนเหล่านี้ ไม่ไหวแน่ครับ จึงต้องหาอะไรที่เหมาะสม มาคั่นระหว่างล้อ และชุดยึดล้อ กับตัวถังรถ คือ ยอมให้ล้อเคลื่อนที่ตามรูปทรงของผิวถนน แต่ตัวรถไม่ต้อง ซึ่งก็ต้องใช้สิ่งที่ยืดหยุ่นได้ หาง่าย ไม่แพง และทนทาน อายุยืนนาน สปริงจากเหล็กกล้านี่แหละครับเหมาะที่สุดแล้ว ปัญหาอยู่ตรงที่ เราอยากให้มันยุบตัวอย่างเร็ว ถ้าล้อทับสิ่งนูนบนผิวถนน แต่ไม่ต้องการให้มันดีดกลับค่อนข้างเร็ว ตามธรรมชาติของการคายพลังงานกลับจึงต้องหาอะไรมาหน่วง ต้านการคายพลังงานกลับคืนให้ช้าลงเพื่อความสบายของเรา ซึ่งก็คือ แดมเพอร์ หรือ SHOCK ABSORBER ที่ถูกตั้งชื่อไม่ตรงกับหน้าที่มาเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้น สิ่งที่ทำหน้าที่กันสะเทือนอย่างหยาบ ก็คือ สปริง แดมเพอร์ และถ้าเคร่งครัดขึ้นอีกหน่อย ก็ต้องรวม "เหล็กกันโคลง" เข้าไปด้วย เพราะกรณีที่ล้อซ้าย และของผ่านสิ่งกีดขวางต่างรูปทรงกัน เช่น ทับก้อนหิน หรือตกหลุมล้อเดียว มันจะทำหน้าที่เหมือนสปริง แต่ด้วยแรงที่น้อยกว่าสปริง "ตัวจริง" ครับ





ABOUT THE AUTHOR
เ
เจษฎา ตัณฑเศรษฐี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : รอบรู้เรื่องรถ