เมื่อต้องขับรถ

การเข้าพื้นที่ทุรกันดารในแต่ละครั้ง นอกจากตัวรถแล้ว คนขับต้องเตรียมร่างกาย และฝึกฝนทักษะการขับให้พร้อมอยู่เสมอเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ ทริค 4x4 ฉบับนี้ จะแนะวิธีการขับรถในพื้นที่ที่ควรทราบ   การเร่ง การเร่งรอบเครื่องยนต์ทันทีทันใด จะมีผลทำให้ล้อปั่นฟรี ซึ่งในทางดินธรรมดาคงไม่ส่งผลอะไร แต่ถ้าหากปั่นฟรีบนทางทราย หรือทางโคลน จะมีผลให้หน้ายางตะกุยจนเป็นหลุมลึก และติดหล่มในที่สุด หรือบางครั้งล้อที่หมุนฟรีนั้นอาจเกิดการลื่นไถล จนยากแก่การควบคุมทิศทาง การเหยียบคันเร่งที่ถูก ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่างนุ่มนวล ไม่รีบร้อนโดยเด็ดขาด   การเบรค การเหยียบแป้นเบรค ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะหากเหยียบจนล้อลอคตาย จะทำให้ล้อเกิดอาการลื่นไถล จนยากแก่การควบคุมทิศทาง และยังทำให้รถเสียการทรงตัว จนอาจพลิกคว่ำ การเหยียบเบรคที่ดี ต้องเผื่อระยะเบรคไว้ให้มากกว่าปกติ และเหยียบแบบค่อยๆ เพิ่มแรงกดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่ออยู่บนทางทราย หรือโคลน เพื่อให้รถค่อยๆ ชะลอ ไม่ใช่หยุดในทันที   การบังคับพวงมาลัย การโยกสลับพวงมาลัยไป/มาเมื่ออยู่บนทางวิบาก ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง เพราะการโยกพวงมาลัยเป็นเทคนิคการขับเพื่อการสะบัดโคลนที่เกาะอยู่บนหน้ายางให้หลุดออกไปเท่านั้น การโยกพวงมาลัยบนทางวิบาก นอกจากรถจะเสียการทรงตัวแล้ว ยังทำให้หน้ายางเกิดการสึกหรอ และอายุยางสั้นกว่าปกติ การโยกพวงมาลัยเพื่อสะบัดโคลน ต้องทำในขณะที่รถอยู่ในความเร็วไม่สูงเกินกว่า 30 กม./ชม.   ระยะห่าง การเดินทางเป็นคาราวาน ให้ทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้ามากพอสมควร เพื่อให้มีระยะสำหรับการเบรค และยิ่งเวลาปีนทางลาดชัน ต้องให้รถคันหน้าเราไปถึงยอดทางชันให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วค่อยขับตามขึ้นไป เช่นเดียวกันกับการขับลง เพราะไม่เช่นนั้น หากรถคันที่กำลังไต่ขึ้นเกิดหมดแรงเอาดื้อๆ ก่อนถึงยอด อาจต้องถอยหลังลงมาตั้งหลักใหม่   คร่อมร่องตัววี เมื่อพบทางข้างหน้าเป็นร่องรูปตัววี (V) และไม่มีทางเลือก ต้องขับคร่อมร่อง ให้เพื่อนที่นั่งมาด้วย (การเข้าพื้นที่แนะนำว่าไม่ควรไปคนเดียวโดยเด็ดขาด) ลงไปให้สัญญาณมืออยู่ด้านหน้ารถ เพื่อที่จะบอกความสมดุลของน้ำหนักรถซ้าย/ขวา และทันทีที่รู้สึกว่ารถเริ่มเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ให้หักพวงมาลัยไปทางด้านที่เอียงและเร่งรอบเครื่องยนต์เล็กน้อย เพื่อช่วยการถ่ายเทน้ำหนักของรถด้านซ้าย/ขวา ให้เป็นไปอย่างสมดุล