มุมมองนักออกแบบ
เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี-คลาสส์
เริ่มต้นจาก เมร์เซเดส-เบนซ์ คอนเซพท์ คูเป เอสยูวี ที่อวดโฉมครั้งแรกในงาน "มหกรรมยานยนต์ปักกิ่ง 2014" จนถึงของจริงในงาน "มหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ 2015" เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ใช้ชื่อว่า จีแอลอี-คลาสส์ พัฒนาจากพื้นฐานของ เอม-คลาสส์ มีความหรูหราและสะดวกสบายระดับเดียวกับ อี-คลาสส์ โดยมีเป้าหมายเพื่อต่อกรกับคู่แข่งที่ครองตลาดกลุ่มนี้มายาวนานอย่าง บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 6 แต่เรื่องรูปลักษณ์ในสายตาของทีมนักออกแบบจะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม
อภิชาต : เมร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวเป็นทางการ โดยมาแนวเดียวกับ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 6 เรียกว่า จีแอลอี คูเป จากนี้ไปทางค่ายดาวสามแฉกเขาจะมีรถแนวนี้ ทยอยออกมาทีละรุ่น จนครบทุกเซกเมนท์
ภัทรกิติ์ : ผมว่าคันนี้สวยกว่าเอกซ์6 มาก ถือเป็น "มิดไซซ์" ของทางฝั่งสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าฝั่งยุโรปจะเป็น "ฟูลล์ไซซ์"
อภิชาต : ยุคนี้กลุ่มผู้บริโภคมีมากมายหลากหลาย ค่ายรถยนต์ต้องการจับกลุ่มผู้บริโภคให้ได้ทั้งหมด โดยไม่จำกัดว่าคุณบุคลิกแบบนี้จะต้องใช้รถแนวนั้น ปัจจุบันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว กลายเป็นว่าคุณจะใช้คันนี้ในวันหยุด หรือในวันธรรมดา
ฟอร์มูลา : เป็นทางเลือกหลากหลายให้แก่ผู้บริโภค
ภัทรกิติ์ : อันนี้จะเป็นปัญหาในอนาคต เพราะในยุโรปเศรษฐกิจติดลบ รถเซกเมนท์นี้ไม่น่าจะเน้นขายทางยุโรป น่าจะเน้นไปที่โซนตะวันออกกลางมากกว่า ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจชะงักหมด
อภิชาต : รถคันนี้ ถ้าเอามือปิดช่วงล้อ ผมจะนึกถึงรถซีดาน แต่พอเอามาใส่ล้อขนาดใหญ่กับตัวถังยกสูง ทำให้มีความรู้สึกว่ามันดูสปอร์ท แต่เป็นสปอร์ทแบบลุยๆ ถามว่าลุยจริงไหม ตอบเลยว่าไม่ เจ้าของคงนั่งโก้ๆ อยู่แต่ในรถ เพราะไม่ได้เป็นแนว 4WD
ปัญหาของดีไซจ์เนอร์อยู่ที่ต้องออกแบบอย่างไร ถึงจะดูน่าสนใจ โดยเท่าที่เห็น หลายบแรนด์เขาจะมีการทำบริเวณกระจังหน้าให้เป็น "DARK AREA"
ภัทรกิติ์ : รถคันนี้ใต้ไฟหน้าดูปากใหญ่ ซึ่งเป็นช่องรับอากาศ หรือแอร์อินเทค ที่ยิ่งมีขนาดใหญ่มักเป็นการแสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์มีพลังมาก แต่สำหรับคันนี้ ผมมองว่าเป็นวิธีที่ทำให้หน้าดูไม่หนัก ถ้าเห็นเป็นสีตัวถังเยอะๆ จะรู้สึกว่าหัวมันโตมาก เลยต้องมีสีดำเข้ามาช่วยลดปริมาณหน้าตัดให้ดูน้อยลง เพราะฉะนั้นถ้าคุณซื้อรถสีดำ รถคุณจะยิ่งดูหนักมากเลยนะครับ ฉะนั้น ซื้อสีสว่างดีกว่า รถคุณจะดูเบาลงเยอะ
อภิชาต : ถ้าด้านท้าย ก็จะเห็นรูปทรงที่ทำให้ตัวสีดำมันดูสูงขึ้น
ฟอร์มูลา : พยายามทำให้ดูบางลง โดยใช้จิตวิทยาเรื่องสีนั่นเอง ถ้าใช้สีเดียวกันหมด ด้านท้ายคงดูหนามาก
อภิชาต : ลองสังเกตพื้นที่กระจก ถ้าต้องการให้ดูสปอร์ท มันจะดูเตี้ย คนนั่งข้างใน โผล่มาแค่หัวไหล่ ด้านข้างจึงพยายามใช้สีดำด้านเข้ามาช่วย
ภัทรกิติ์ : สำนักตกแต่งส่วนใหญ่มักสวนทางกับความคิดของดีไซจ์เนอร์ เพราะเขาชอบทำมีลิ้นยาวลงมาเป็นสีเดียวกับตัวรถ ทำให้รถดูน่าเกลียด ดูหนาเทอะทะ ซึ่งมันอาจจะเหมาะกับรถเตี้ยๆ แต่พอนำแนวคิดนี้มาใช้รถกลุ่มนี้ อาทิ โพร์เช กาเยนน์ กลับทำให้ดูหนาใหญ่เกินไป
ฟอร์มูลา : ภาพรวมของรูปลักษณ์ภายนอกในสายตาของนักออกแบบเป็นอย่างไร?
ภัทรกิติ์ : เป็นการตอบโต้ตลาดที่ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 6 เหมาอยู่คนเดียวมานานแล้ว ประมาณว่าฉันขอสู้บ้าง
อภิชาต : แต่ผมว่ามันออกช้าไปหน่อยนะ
ภัทรกิติ์ : คู่แข่งเขาออกมา 2 รุ่น แล้วครับ แต่ผมไม่รู้สึกว่าค่ายนี้สายนะ เพราะรุ่นล่าสุดของคู่แข่ง ดูไม่ออกเลยว่าใหม่
ฟอร์มูลา : ถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้
อภิชาต : ผมเห็นด้วย
ภัทรกิติ์ : แม้จะไม่มีอะไรเหมือนกับรถรุ่นเดิมเลย แต่ไม่รู้สึกใหม่ ดังนั้น จีแอลอี-คลาสส์ มีพื้นที่ยืนได้แน่นอน
ฟอร์มูลา : ออพชันของ จีแอลอี-คลาสส์ เรียกว่าจัดเต็มมาเลย อาทิ ล้อขนาด 21 นิ้ว จากโรงงาน
ภัทรกิติ์ : รถยุโรปช่วงหลังออกแบบเรื่องล้อและสัดส่วนของตัวถังได้ลงตัวหมด แทบไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย ถ้าจะเปลี่ยน ก็เพื่อสนองตัณหาของเจ้าของรถมากกว่า
อภิชาต : เจ้าตลาดเซกเมนท์นี้ ต้องยกให้ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 6 แต่ผมกำลังตกหลุมรัก เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี-คลาสส์ โดยเฉพาะแนวเส้นที่วิ่งอยู่ตรงไฟท้าย ถ้าลองปิดส่วนอื่นๆ มันเป็นแนวเส้นของรถสปอร์ทชัดเจนเลย
ภัทรกิติ์ : ไฟท้ายให้ความรู้สึกเหมือน เอส-คลาสส์ คูเป
อภิชาต : ใช่ครับ
ฟอร์มูลา : มันออกแบบมาเจเนอเรชันเดียวกันเลย
อภิชาต : สำหรับภายนอกเรียกว่าคุ้มค่า ถ้าคนที่ชื่นชอบบแรนด์นี้อยู่แล้ว รอดูว่ามาขายบ้านเราไหม
ฟอร์มูลา : มาแน่นอน
ภัทรกิติ์ : เมร์เซเดส-เบนซ์ ในบ้านเราเป็นบแรนด์ลักชัวรีที่ขายดีที่สุด ยอดขายต่อปีมากกว่าหมื่นคัน ในขณะที่คู่แข่งขายได้ประมาณ 8 พันกว่าคัน ส่วนหนึ่งที่ขายได้มาก เพราะการแบ่งซอยรุ่นเยอะ รวมถึงการดีไซจ์นที่ตอบโจทย์ลงตัว เริ่มจาก เอส-คลาสส์ เป็นรุ่นบุกเบิก ตามด้วย อี-คลาสส์ ปรับโฉม ปิดท้ายด้วย ซี-คลาสส์ ออกแบบมาดีมาก ไฟหน้ามีความซับซ้อนในดวงโคม ดูเผินๆ เหมือนกันหมด แต่ความจริงไม่เหมือน ส่วนคู่แข่งเขาอนุรักษนิยมมากเกินไป จนดูเหมือนกันหมดทุกรุ่น
อภิชาต : ผมชอบจังหวะการออกแบบเส้นสายด้านท้าย น่าจะถูกใจถ้าเป็นคนที่ชอบรถสไตล์สปอร์ท โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ชอบขับรถเอง ชอบลุย และชอบรถเปิดหลังคาได้ ตัวนี้แม้เป็นแบบพาโนรามิค ก็ยังน่าจะทดแทนได้อยู่
ภัทรกิติ์ : ผมเชื่อว่า บ้านเราคนติดฟีล์มที่หลังคาแน่นอน แต่ขอให้มีไว้ก่อนเพื่อความเท่ หมวดรูปลักษณ์ภายนอก ผมให้9เต็ม10
อภิชาต : ผมก็ให้ 9 เหมือนกัน
ฟอร์มูลา : เรียกว่าโดนใจทั้งคู่
ภัทรกิติ์ : แต่ภายในห้องโดยสารผมแอบผิดหวัง เพราะมันดูเชยไปหน่อย แผงแดชบอร์ดมีบุคลิกแบบรถรุ่นเก่า รวมถึงหน้าปัดแบบแอนาลอค ถ้าเทียบกับ เอส-คลาสส์ซึ่งออกมาก่อน มันคนละเรื่องกันเลย มีการหยิบพาร์ทรุ่นเก่าๆมาใช้เยอะ ดูแล้วน่าเสียดาย
อภิชาต : แต่เรื่องทริมประณีตมาก เชื่อว่าต้องใช้แรงงานคนแน่นอน
ฟอร์มูลา : รถรุ่นนี้น่าจะเสร็จนานแล้ว แต่ยังไม่เผยโฉมจน ซี-คลาสส์ นำหน้าไปก่อน
อภิชาต : พูดถึงภายในห้องโดยสาร ซี-คลาสส์ ดีกว่าเยอะ ลองคิดเล่นๆ ถ้ารถรุ่นนี้เอาภายในของ ซี-คลาสส์ เข้ามาทุกอย่างก็จบ ลงตัวสุดๆ ห้องโดยสาร ผมให้ 6 คะแนนพอครับ
ภัทรกิติ์ : อยากซ่า แต่ไม่สุด
อภิชาต : มาหยุดที่ภายในนี่แหละ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2558
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/13223