สตาร์ทรถไม่ติดเนื่องจากแบทเตอรี (ไฟ) หมด จำเป็นต้องขอ "พ่วงแบทฯ" จากรถคันอื่น วิธีการต่อพ่วงไม่ยาก แต่ต้องเรียนรู้และระมัดระวัง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ มีวิธีพ่วงแบทเตอรีอย่างถูกต้องมาฝาก
แบทเตอรี มีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี แต่ต้องดูแลให้อยู่ในสภาพปกติตลอดเวลา ตรวจดูและเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับ MAX ให้น้ำกรดท่วมแผ่นธาตุตะกั่วขึ้นไปประมาณ 1 เซนติเมตร และต้องใช้น้ำกลั่นเท่านั้นในการเติม
ห้ามต่ออุปกรณ์เสริมเช่น ไฟฉุกเฉิน โดยใช้ขั้วลบของแบทเตอรีเป็นกราวน์ด (GROUND) ให้ใช้วิธีการต่อสายกราวน์ด ลงตัวถังรถแทน
1. สายพ่วงแบทเตอรี (แนะนำให้เป็นอุปกรณ์ประจำรถ)
2. สตาร์ทเครื่อง คันที่มีประจุไฟเต็ม
3. คีบสายพ่วงแบทเตอรีเส้นสีแดง กับขั้วบวกของแบทเตอรีที่หมด และนำปลายอีกด้านหนึ่ง (สีแดง) คีบกับขั้วบวกของแบทเตอรีประจุเต็ม
4. คีบสายพ่วงแบทเตอรีสายสีดำ กับขั้วลบของแบทเตอรีที่ประจุเต็ม
5. จากนั้นนำปลายสายอีกด้านหนึ่ง (สายสีดำ) คีบชิ้นส่วนที่เป็นตัวถังรถที่แบทเตอรีหมด
6. สตาร์ทเครื่องยนต์ของรถที่แบทเตอรีหมด จนเครื่องยนต์ติด นำสายออก (ขั้นตอน7-8) สตาร์ททิ้งไว้ 30 นาที เพื่อให้แบทเตอรีเก็บประจุไฟไว้
7. ขั้นตอนการถอดสายพ่วง ต้องถอดปลายสายขั้วลบ (สีดำ) บนตัวถังรถที่แบทเตอรีหมดออกก่อน เพื่อตัดวงจร
8. จากนั้นถอดปลายสายสีดำอีกด้านหนึ่งจากขั้วลบ ของรถที่มีประจุไฟเต็มออก
9. ถอดสายสีแดงจากขั้วบวก ในรถที่มีประจุไฟเต็มออก และจึงถอดสายขั้วบวกของรถที่แบทเตอรีหมด เป็นอันเสร็จ
บทความแนะนำ

