วิถีตลาดรถยนต์
เครื่องหมายบวกกลับมาแล้ว
ไตรมาสแรกของปี 2559 ผ่านพ้นไปแล้ว ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศที่ปรับตัวลดลง 8.2 % เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2558 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตัวเลขยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงมีนาคมของปี 2559 จะเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 51,824 คัน ในเดือนมกราคม ขยับมาเป็น 57,093 คัน ในเดือนกุมภาพันธ์ และสูงถึง 72,646 คัน ในเดือนมีนาคม แต่ต้องไม่ลืมว่ายอดจำหน่ายที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคมเป็นผลมาจากการจัดงานกระตุ้นยอดจำหน่ายงานใหญ่งานแรกของปีที่จัดขึ้นเป็นประจำในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน ซึ่งพอผ่านพ้นเดือนมีนาคมไปแล้วยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศก็จะกลับคืนสู่สภาพการซื้อขายปกติกันต่อไปจนกว่าจะถึงช่วงเวลาการจัดงานกระตุ้นยอดจำหน่ายรายการใหญ่รายการต่อไปในช่วงเดือนสิงหาคม และปิดท้ายที่งานมหกรรมยานยนต์ในช่วงเดือนธันวาคม
ในเดือนเมษายน 2559 นี้ก็เช่นกันยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศหลังจากพุ่งขึ้นสูงปรี๊ดในเดือนมีนาคม ก็กลับคืนสู่สภาวะปกติในเดือนต่อมา นั่นคือ เดือนเมษายน แต่ที่พิเศษแตกต่างไปจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในเดือนเมษายนของปีที่ผ่านมา คือ ยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนเมษายน ปี 2559 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน ปี 2558 เป็นยอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6 % เป็นการปรับตัวขึ้นของยอดจำหน่ายรถยนต์รายเดือนเป็นครั้งแรกของปี 2559 และมีความเป็นไปได้ที่จะต้องรอไปจนถึงช่วงเดือนสิงหาคม หรือธันวาคม จึงจะได้เห็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมาก่อนหน้านี้อีกครั้งหนึ่ง
จากจำนวนตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในเดือนเมษายน ปี 2559 ปรากฏว่ารถยนต์ที่มีผู้สนใจจับจองเป็นเจ้าของสูงสุด ยังคงเป็นรถยนต์จากค่าย โตโยตา ที่รถยนต์โมเดลต่างๆ มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 14,839 คัน คิดเป็นสัดส่วนของส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 27.0 % ตามด้วยรถยนต์จากค่าย อีซูซุ ที่จำหน่ายไปได้ 11,949 คัน ถือครองส่วนแบ่งการตลาด 21.8 % ในเดือนเมษายนนี้ จำหน่ายได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 3 เป็นรถยนต์จากค่าย ฮอนดา ที่มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 9,109 คัน ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 16.6 % อันดับที่ 4 เป็น มิตซูบิชิ จำหน่ายได้รวม 3,649 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 6.6 % และยอดจำหน่ายสูงเป็นอันดับที่ 5 มาซดา คว้าไปจากยอดจำหน่ายรวม 3,443 คัน รับส่วนแบ่งการตลาดไป 6.3 %
เมื่อนำตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนเมษายนนี้ไปรวมกับยอดจำหน่ายที่มีอยู่เดิมในไตรมาสแรกที่ผ่านไป ตลาดรถยนต์ใหม่ในประเทศมียอดจำหน่ายรวมแล้ว 236,467 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2558 ถึง 6.1 % ผู้นำตลาดยังคงเป็นบแรนด์เดิมๆ เหมือนเช่นช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปี 2558 หัวแถวเป็น โตโยตา ยอดจำหน่าย 4 เดือนแรกของปี 65,124 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 27.5 % ตามด้วย อีซูซุ 48,362 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.5 % ฮอนดา 34,137 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.4 % มิตซูบิชิ 20,570 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.7 % และนิสสัน 15,632 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.6 % โดยในจำนวนรถยนต์มหานิยมที่เป็นกลุ่มผู้นำตลาดทั้ง 5 ยี่ห้อนี้ มีเพียง อีซูซุ ที่มียอดจำหน่ายรวมมากสุดเป็นอันดับที่ 2 และมิตซูบิชิ อันดับ 4 ซึ่งตัวเลขยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นเป็นตัวเลขที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าที่เคยทำได้ในปี 2558 โดย อีซูซุ มียอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6 % ส่วนยอดจำหน่ายของ มิตซูบิชิ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 21.2 % นอกนั้นยังเป็นตัวเลขสีแดงอยู่
สำหรับยอดจำหน่ายของรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนเมษายน ปี 2559 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 21,243 คัน เพิ่มขึ้น 10.1 % เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน ปี 2558 และยังคงเป็นพิคอัพ ดี-แมกซ์ ทั้งเครื่องเล็ก 1.9 และเครื่องใหญ่ 3.0 ที่ผนึกกำลังกัน ทำให้ อีซูซุ มียอดจำหน่ายสูงสุดต่อเนื่องต่อไป เดือนเมษายนจำหน่ายไปทั้งสิ้น 9,532 คัน ส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 44.9 % ส่วนคู่ปรับตลอดกาล พิคอัพสายพันธุ์ ไฮลักซ์ รีโว เดือนเมษายน ปี 2559 จำหน่ายได้ 5,615 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 26.4 % ยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 3 ยังคงเป็นพิคอัพพันธุ์แกร่ง เรนเจอร์ ของ ฟอร์ด จำหน่ายไปได้ทั้งสิ้น 1,909 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 9.0 % อันดับ 4 เป็น นาวารา ของ นิสสัน จำหน่ายไป 1,194 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.6 % และทไรทัน ของ มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 1,049 คัน มากเป็นอันดับ 5 ส่วนแบ่งการตลาด 4.9 % รวม 4 เดือนแรกของปี 2559 พิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ จำหน่ายแล้วทั้งสิ้น 96,830 คัน ลดลง 3.2 % เมื่อเทียบกับ 4 เดือนแรกของปี 2558 โดย อีซูซุ โกยยอดจำหน่ายทิ้งห่าง โตโยตา ออกไปมากขึ้นจากช่วงห่างไม่ถึง 1 หมื่นคัน เมื่อสิ้นสุดเดือนมีนาคม เป็น 1 หมื่น 3 พันกว่าคัน เมื่อผ่านเดือนเมษายนนี้ไปโดย อีซูซุ จำหน่ายแล้วรวม 40,734 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 42.1 % ขณะที่ โตโยตา จำหน่ายไปแล้ว 27,709 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 28.6 % ยอดจำหน่ายมากสุดเป็นอันดับที่ 3 ยังอยู่กับ ฟอร์ด โดยมียอดจำหน่ายรวมแล้ว 7,813 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.1 % ตามด้วย มิตซูบิชิ 6,377 คัน และนิสสัน 6,279 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.6 % และ 6.5 % ตามลำดับ
ในส่วนของพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ บอกได้ว่ายากที่จะมีพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อยี่ห้ออื่นใดมาหักล้างความนิยมของพิคอัพ โตโยตา ขับเคลื่อน 4 ล้อได้ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาโกยยอดจำหน่ายได้มากสุดอย่างต่อเนื่องแบบคงเส้นคงวา เห็นได้จากยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด เดือนเมษายน 2,130 คัน (เพิ่มขึ้น 66.5 %) เป็นยอดจำหน่ายรถ โตโยตา ถึง 1,312 คัน หรือเท่ากับ 61.6 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด แชมพ์แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ อันดับที่ 2 เป็นพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อของ อีซูซุ 407 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 19.1 % อันดับ 3 มิตซูบิชิ 189 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.9 % อันดับที่ 4 ฟอร์ด 167 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.8 % อันดับที่ 5 นิสสัน 43 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.0 % รวมยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกกับเดือนเมษายน ตลาดนี้มีการซื้อขายแล้วรวมทั้งสิ้น 9,206 คัน เพิ่มขึ้น 39.0 % โตโยตา นำโด่ง 5,517 คัน ส่วนแบ่งตลาด 59.9 % อีซูซุ 1,514 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.4 % ฟอร์ด 966 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.5 % มิตซูบิชิ 874 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.5 % และนิสสัน 263 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.9 %
สำหรับรถเอสยูวี เป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุดในปีที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงปี 2559 เดือนเมษายนมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 8,020 คัน เทียบกับเดือนเมษายน ปี 2558 เติบโตมากขึ้น 20.6 % เอสยูวีที่ได้รับความนิยมสูงสุดยังคงเป็น 3 พี่น้องของค่าย ฮอนดา ไม่ว่าจะเป็น ซีอาร์-วี, เอชอาร์-วี หรือ บีอาร์-วี มียอดจำหน่ายรวมกัน 2,123 คัน คิดเป็น 26.5 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด โตโยตา ได้รับความนิยมในอันดับที่ 2 มียอดจำหน่าย 1,925 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 24.0 % ตามมาห่างๆ เป็น มิตซูบิชิ 1,293 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.1 % และอีซูซุ 932 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 11.6 % สำหรับ มาซดา ที่มีทั้งพี่ใหญ่ ซีเอกซ์-5 และน้องเล็ก ซีเอกซ์-3 มียอดจำหน่ายรวมอยู่ในอันดับที่ 5 เดือนเมษายนจำหน่ายได้ 713 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.9 % รวม 4 เดือน รถเอสยูวีทุกยี่ห้อจำหน่ายรวมกันได้ 39,100 คัน เพิ่มขึ้น 36.6 % เมื่อเทียบกับ 4 เดือนแรกของปี 2558 ผู้นำยอดจำหน่ายรวมยังคงเป็น โตโยตา แต่ ฮอนดา ก็ทำยอดจำหน่ายไล่กระชั้นเข้ามาแล้ว ต่างกันอยู่เพียง 700 กว่าคันแล้วจาก 900 กว่าคัน เมื่อผ่านเดือนมีนาคมมา โดยยอดจำหน่ายของ โตโยตา อยู่ที่ 10,766 คัน
ส่วนแบ่งการตลาด 27.5 % ฮอนดา ยอดรวมอยู่ที่ 10,045 คัน ส่วนแบ่งตลาด 25.7 % อันดับ 3 มิตซูบิชิ 7,780 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 19.9 % อันดับ 4 มาซดา 3,066 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.8 % อันดับ 5 ฟอร์ด แซง นิสสัน ขึ้นมาแล้วจากยอดจำหน่ายรวม 2,244 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.7 %
รถเอมพีวี เดือนเมษายน 2559 มียอดจำหน่ายเพียง 393 คันเท่านั้น ซึ่งเป็นยอดจำหน่ายที่ลดลงถึง 70.0 % หัวแถวเป็นการแย่งชิงความเป็นหนึ่งกันระหว่าง โตโยตา กับ ฮอนดา แต่ยังเป็น โตโยตา ที่ได้ใจคนนิยมรถยนต์ประเภทนี้ไปมากกว่านิดๆ โดยจำหน่ายได้ 122 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 31.0 % ขณะที่ ฮอนดา ก็ไม่น้อยหน้าจำหน่ายได้ 108 คัน ส่วนแบ่งตลาด 27.5 % อันดับ 3-5 เป็น ซูซูกิ 61 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.5 % นิสสัน 43 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.9 % และเกีย 29 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.4 % ผ่านไป 4 เดือน มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 1,768 คัน ลดลง 68.4 % ในจำนวนนี้เป็น โตโยตา 555 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 31.4 % ฮอนดา 476 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.9 % ซูซูกิ 300 คัน ส่วนแบ่งตลาด 17.0 % นิสสัน 188 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10.6 % และเกีย 100 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 5.7 %
เดือนเมษายน 2559 นี้ยังเป็นเดือนที่ เชฟโรเลต์ เปิดตัว โคโลราโด รุ่นปรับปรุงใหม่ แต่ยังไม่เปิดราคาจำหน่ายออกมา เห็นว่าอีก 2-3 เดือนจึงจะขึ้นโชว์รูมจำหน่ายจริง คงไปเปิดราคาเอาใกล้ๆ เวลาจำหน่ายจริง แต่หากใครสนใจจริงๆ ลองไปเลียบๆ เคียงๆ เอากับพนักงานในโชว์รูม เชฟโรเลต์ อาจพอได้แนวทางประกอบการตัดสินใจครั้งสุดท้ายต่อไป
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/128438