ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33" คาดว่า ตลาดรถยนต์ในปีนี้จะติดลบเพียง 6-7 % เท่านั้น ขณะที่หลายฝ่ายประเมินว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงประมาณ 10 % จากยอดรวมเมื่อปี 2558"ภาพรวมของอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้รับผลกระทบพอสมควรจากการปรับโครงสร้างภาษีที่เริ่มใช้เมื่อวันที่ 1 มค. 59 ทำให้ราคารถปรับเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคเลยเร่งซื้อไปเมื่อปลายปีที่แล้วหลายหมื่นคัน" "ช่วงไตรมาส 2 และ 3 ยังอยู่ในช่วงฤดูร้อนและฝน ส่งผลให้ตลาดเงียบเหงา แต่ในช่วงไตรมาส 4 คาดว่าตลาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากมีตัวบอกเหตุว่าตลาดจะฟื้นตัว เพราะรถจากโครงการรถคันแรก ที่มีเงื่อนไขต้องครอบครองรถไม่น้อยกว่า 5 ปี จะสิ้นสุดในเดือน ตค. ปีนี้ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในโครงการรถคันแรก จะเห็นว่ามียอดที่โตขึ้นถึง 6 แสนกว่าคัน โดยในจำนวนนี้คาดว่าจะนำรถกลับเข้าสู่ระบบ ขายแล้วซื้อรถใหม่ หรือซื้อรถใหม่เพิ่มขึ้นอีก ไม่น้อยกว่า 20 % บริษัทรถยนต์ก็จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีกมาก" "นอกจากนี้ การอนุมัติงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐในเรื่องการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะนำเงินเข้าระบบ ทำให้ผู้บริโภคมีเงินจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อที่อยู่อาศัย รถยนต์ และการใช้จ่ายส่วนตัว" "ภาพรวมความต้องการรถยนต์ในประเทศไทย มองว่ารถประเภทครอสส์โอเวอร์ หรือ เอสยูวี ที่ตอนนี้แบ่งออกเป็น 3 ตลาด คือ ครอสส์โอเวอร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา เอสยูวี ระบบขับเคลื่อนพาร์ทไทม์ ลุยมากขึ้น พีพีวี มีพื้นฐานมาจากรถพิคอัพ ที่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์เหมือนกับรถ เอสยูวี จะได้รับความนิยมมากขึ้น" "โดยเฉพาะรถครอสส์โอเวอร์ ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ ที่คนไทยเริ่มหันมานิยม เนื่องจากเป็นรถที่มีอรรถประโยชน์หลากหลาย ทั้งลุยหนัก ลุยพอสมควร และใช้ในเมือง" "ส่วนพีพีวี เป็นรถทีได้เปรียบเนื่องจากมีพื้นฐานจากรถพิคอัพ แต่ปีนี้มีราคาเพิ่มขึ้นจากการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ นอกจากนี้ผู้ผลิตรถยนต์หันมาผลิตรถครอสส์โอเวอร์กันมากขึ้น เห็นได้จากรถที่เปิดตัวใหม่ในขณะนี้จะเน้นไปทางครอสส์โอเวอร์ บางบริษัทเปิดตัว 1-2 รุ่น มีหลายแบบ หลายขนาดให้เลือก" "สำหรับมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ หรือบิกไบค์ ตลาดเติบโตมาก ทำให้มีการแข่งขันสูงขึ้น จากช่วงแรกที่มีบริษัทในประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ปัจจุบันบริษัทแม่เข้ามาทำตลาดเอง หรือบางบแรนด์ขยายตลาดโดยผลิตในประเทศ ทำให้มีราคาที่สามารถจับต้องได้" "แต่สิ่งที่สำคัญ คือ รัฐบาลต้องกำหนดให้คนที่จะขับบิกไบค์ หรือรถที่มีขนาดใหญ่กว่า 125 ซีซี สอบใบขับขี่แยกเฉพาะ เพราะที่ผ่านมามีอุบัติเหตุของบิกไบค์ที่คนขับยังไม่พร้อม ไม่สามารถควบคุมบังคับรถได้เกิดขึ้นมาก" "อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาร่วมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33" จะมีรถหลากหลายบแรนด์มาสร้างความคึกคักให้โซนมอเตอร์ไซค์อย่างแน่นอน" ขวัญชัย กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบัน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33" มีพื้นที่จัดงานแสดงในชาลเลนเจอร์ 1-3 รวม 60,000 ตรม. พื้นที่ภายนอกอีก 20,000-30,000 ตรม. ซึ่งเพียงพอกับความต้องการ ถึงแม้พื้นที่จัดแสดงรถยนต์จะขยายเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่อุปกรณ์เกี่ยวเนื่องลดลงก็ตาม การพิจารณาขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นต้องรอการก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างฮอลล์ 1-8 กับชาลเลนเจอร์แล้วเสร็จ พร้อมดูสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมว่ามีความเหมาะสมเพียงใด