ฟอร์ด เอดจ์ (FORD EDGE) เอสยูวีขนาดกลาง 5 ที่นั่ง ทางผู้ผลิตให้คำจำกัดความใหม่ ว่าเป็นการยกระดับความอเนกประสงค์ ซึ่งเกิดจากการพัฒนาตัวรถขนานใหญ่ในทุกๆ ด้าน และก็ทำได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ รูปทรงเต็มไปด้วยความโฉบเฉี่ยวแฝงไว้ด้วยความสปอร์ท ให้ความทนทานในการใช้งานสูง ติดตั้งเทคโนโลยีที่จะช่วยตอบสนองการขับขี่ และเพิ่มความปลอดภัยเข้ามามากมายโครงสร้างตัวรถทำจากโลหะทนต่อแรงบิดสูง แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ผสมผสานกับการปรับระบบรองรับใหม่ ด้านหลังแบบมัลทิ-ลิงค์ มีส่วนช่วยอย่างมากให้ตัวรถมีการบิดตัวน้อยลง เพิ่มเสถียรภาพในการยึดเกาะถนนที่ความเร็วสูง ไม่ว่าบนทางตรงหรือทางโค้ง การขับขี่บนพื้นถนนที่ไม่ราบเรียบทำได้ดีทีเดียว การเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกทำได้ดี กระจังด้านหน้าสามารถปรับ เปิด/ปิดโดยอัตโนมัติตามความต้องการในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เพื่อลดการต้านลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระมีขนาดใหญ่ กว้างขวาง ตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพสูง ไม่มีแนวคิดที่จะมีที่นั่งแถวที่ 3 พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถจุได้ 39.2 ลูกบาศก์ฟุต เพิ่มขึ้นจากตัวเดิม 7 ลูกบาศก์ฟุต พื้นที่เหนือศีรษะสูงเพิ่มขึ้น 1 นิ้ว พื้นที่วางขาด้านหน้า/หลัง ยาวขึ้น 1 และ 1.9 นิ้ว ตามลำดับ มีอุปกรณ์พิเศษให้เลือกเพิ่มเติมมากมาย อาทิเช่น ระบบพวงมาลัยแบบ ADAPTIVE STEERING ที่จะคอยปรับลดระยะรัศมีการหมุนพวงมาลัยให้ลดลงตามความเร็วที่ใช้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ที่สายเข็มขัดนิรภัยติดตั้งถุงลมซึ่งสามารถพองตัวออกมาได้ เพื่อลดอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทกได้มากกว่าเข็มขัดนิรภัยแบบเดิมถึง 5 เท่า ระบบควบคุมความเร็วคงที่โดยอัตโนมัติแบบ ADAPTIVE ที่มีระบบช่วยเบรค โดยมีเรดาห์ตรวจจับวัตถุด้านหน้า และสามารถลดความเร็วลงเพื่อความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ พร้อมกล้องแบบ 180 องศา ที่จะช่วยในการจอดรถ และเซนเซอร์ด้านข้าง ฟอร์ด เอดจ์ ใหม่ มีเครื่องยนต์ 3 รุ่นให้เลือกใช้ เครื่องยนต์ทุกตัวจะใช้งานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ SELECT SHIFT ที่มีอัตราทดแตกต่างกันไป เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อีโคบูสต์ เทอร์โบ ทวินสกรอลล์ พละกำลัง 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 38.0 กก.-ม. มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ มีพละกำลังในการลากจูงถึง 1,589 กก. เครื่องยนต์แบบ วี 6 สูบ ขนาด 2.7 ลิตร อีโคบูสต์ เทอร์โบ เป็นตัวเดียวกับที่วางอยู่ในรถกระบะ ฟอร์ด เอฟ-150 ให้กำลังถึง 315 แรงม้า แรงบิดสูงสุดทำได้ 48.3 กก.-ม. มาพร้อมวงล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว ตัวสุดท้ายเป็นเครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตร วี 6 สูบ ไม่มีเทอร์โบ ให้กำลัง 280 แรงม้า แรงบิดทำได้ 34.6 กก.-ม. เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร อีโคบูสต์ เทอร์โบ ตัวใหม่ ให้การตอบสนองการขับขี่ที่ดี อัตราเร่งทำได้รวดเร็วทันใจ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 10.20 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน EPA (ในเมือง/ไฮเวย์ 8.50/12.75 กม./ลิตร) ในเมืองกินน้ำมันมากกว่า ฟอร์ด เอดจ์ ตัวเดิม 0.43 กม./ลิตร ส่วนในรุ่นออลล์วีลดไรฟ จะใช้เชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 9.78 กม./ลิตร ในขณะที่ เครื่องยนต์ 2.7 ลิตร วี 6 สูบ ทวินเทอร์โบ และ วี 6 สูบ 3.5 ลิตร ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าทำได้โดยเฉลี่ย 8.93 กม./ลิตร ส่วนรุ่น 2.0 ลิตร ออลล์วีลดไรฟ ทำได้เฉลี่ย 8.50 กม./ลิตร ฟอร์ด เอดจ์ ใหม่ จะเป็นเอสยูวีที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งด้านความแข็งแกร่ง ทนทาน ระบบความปลอดภัยทั้งก่อนและหลังการเกิดอุบัติเหตุ เนื้อที่ในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย เพิ่มพละกำลังและสมรรถนะในการขับขี่ ส่วนในเรื่องการยึดเกาะถนนและควบคุมบังคับ เป็นจุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามในรถรุ่นนี้ คุณรู้หรือไม่ ? ฟอร์ด เอดจ์ มีความยาวของตัวรถ 188.1 นิ้ว เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว 4 นิ้ว ฐานล้อขนาด 112.2 นิ้ว ยาวขึ้น 1 นิ้ว โครงสร้างตัวถังใช้ร่วมกับ ฟอร์ด ซีดาน รุ่น ฟิวชัน ฟอร์ด เอดจ์ ถูกส่งออกไปทำตลาดทั่วโลกมากกว่า 100 ประเทศ
บทความแนะนำ