ทั่วไป
-
ศิลปิน : DIXIE CHICKS
อัลบัม : HOME
แนวเพลง : COUNTRY
พาดหัว "ศิลปินแถวหน้าของวงการคันทรี"
สามสาวจากแมรีแลนด์ ผู้ที่ปลุกกระแสดนตรีคันทรีให้โด่งดังอีกครั้ง พวกเธอเริ่มฟอร์มวงมาตั้งแต่ปี 1989
ออกผลงาน THANK HEAVENS FOR DALE EVANS (1992) LITTLE OL COWGIRL (1992) และ SHOULDN T
A TOLD YOU THAT (1993) หลังจากนั้นพวกเธอก็เงียบหายไป จนกระทั่งในปี 1998 กับ
อัลบัม WILD OPEN SPACE ผลงานที่สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการดนตรีแนวคันทรี
ในฐานะที่พวกเธอเป็นศิลปินกลุ่มหญิงแนวคันทรีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ทั้งในด้านชื่อเสียงและยอดขาย
จึงทำให้พวกเธอก้าวกระโดดขึ้นเป็นศิลปินแถวหน้าทันที
ต่อมาในปี 1999 ผลงานชุด FLY ประสบความสำเร็จขึ้นอีกครั้ง สามารถเข้าไปรั้งอันดับ 1 ในบิลล์บอร์ดได้นานถึง 30
สัปดาห์ โดยมีซิงเกิลยอดนิยมอย่างเพลง READY TO RUN และเพลง GOODBYE EARL จากความสำเร็จนี้
ทำให้พวกเธอเป็นศิลปินหญิงแนวคันทรีที่เข้าไปร่วมงาน "VH 1 DIVAS" (2002)
ซึ่งเป็นงานแสดงที่รวมศิลปินหญิงที่มีชื่อเสียงเข้าไว้ด้วยกัน นับว่าเป็นเกียรติกับวงการเพลงคันทรี
ตอนนี้พวกเธอกลับมาอีกครั้งกับผลงานชุดใหม่ล่าสุด HOME ที่ยังคงรากฐานดนตรีแนวคันทรีไว้อย่างครบถ้วน
เปิดอัลบัมด้วยเพลง LONG TIME GONE กับเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเธอ ในอัลบัมชุดนี้เธอหยิบเอาเพลง
LANDSLIDE ของ STEVIE NICKS ศิลปินหญิงรุ่นใหญ่อดีตสมาชิก FLEETWOOD MAC
นำมาทำใหม่ในแบบคันทรีที่พวกเธอถนัด ได้ความไพเราะน่าฟังไปอีกแบบหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีเพลงเด่นๆ อย่างเพลง
MORE LOVE และเพลง TORTURED, TANGLED HEARTS ซึ่งมีความน่าฟังเช่นกัน
งานดนตรีของพวกเธอจะมีกลิ่นอายดนตรีคันทรีมากกว่าศิลปินอย่าง SHANIA TWAIN หรือ FAITH HILL
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบดนตรีแนวคันทรีแล้ว อัลบัมนี้ก็น่าจะโดนใจ หรือแม้ว่าคุณจะไม่ใช่คอเพลงคันทรี
งานชุดนี้ของสามสาวก็มีความน่าฟัง โดยเฉพาะเสียงเครื่องสายที่เป็นสัญลักษณ์ของดนตรีคันทรี
ซึ่งพวกเธอผสมผสานดนตรีออกมาได้ดี ความโด่งดังของอัลบัมชุดนี้คงไม่แพ้สองชุดที่แล้ว ที่สร้างชื่อให้กับ DIXIE
CHICKS
ศิลปิน : LEANN RIMES
อัลบัม :TWISTED ANGEL
แนวเพลง : COUNTRY
พาดหัว "เป็นสาวเต็มตัวแล้วนะ LEANN RIMES"
บนเส้นทางสายดนตรีของเธอเริ่มจริงจังเมื่อเธออายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ซึ่งคล้ายกับศิลปินรุ่นพี่อย่าง TANYA
TUCKER และ BRENDA LEE กับความสำเร็จด้วยการออกผลงานชุดแรก BLUE (1996)
ก็ทำให้เธอทำลายสถิติของวงการเพลงแนวคันทรี เมื่ออัลบัมชุดนี้ของเธอคว้ารางวัลแกรมมีไปครองถึง 2 สาขา
และตามด้วยรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย นับว่าเธอเป็นศิลปินอายุน้อยของวงการคันทรีที่สามารถสร้างปรากฏการณ์นี้ได้
เพลงเด่นที่คุ้นกันดีในบ้านเราคงหนีไม่พ้นเพลง CAN T FIGHT THE MOONLIGHT
ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ซิงเกิลของเธอที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพลงนี้ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง COYOTE UGLY
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะลาโรงไปนานแล้วก็ตาม แต่ยังคงถูกนำมาเปิดกันอย่างต่อเนื่องตามสถานีวิทยุบ้านเรา
จากเด็กสาวตัวเล็กเสียงใหญ่วัย 13 ปี ย่างเข้าสู่วัยสาวเต็มตัว ใครที่ติดตามผลงานของเธอมาตลอด
จะเห็นถึงพัฒนาการด้านการร้องของเธอ ว่ามีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้เธอกลับมาแล้วกับ TWISTED ANGEL ผลงานชุดใหม่ล่าสุดที่เธอมีส่วนร่วมในการทำงานมากขึ้น
เพลงใหม่ที่เธอแต่งขึ้นมีถึง 4 เพลง ซึ่งแสดงถึงการพัฒนาของตัวเธอได้อย่างดี ยิ่งได้โพรดิวเซอร์
และนักแต่งเพลงอย่าง PETER AMATO, DESMOND CHILD และ GREGG PAGANI
ทำให้ผลงานชุดนี้มีความแตกต่างจากผลงานเก่า เพราะแนวดนตรีจะไม่ยึดติดกับแนวคันทรีอย่างเดียว
แต่จะมีกลิ่นอายของอาร์แอนด์บี, บลูส์, พังค์ และเทคโนแดนศ์ มาใส่ไว้ในอัลบัมด้วย
เพลงแรกเปิดแทรคด้วย LIFE GOES ON ฟังแล้วอดนึกถึงเพลง CAN T FIGHT THE MOONLIGHT ไม่ได้
ด้วยสำเนียงในการร้องของเธอ ส่วนเพลง WOUND UP น่าจะเป็นสัญลักษณ์ในเรื่องน้ำเสียงที่มีความชัดเจนของเธอ
ต้องบอกว่าอัลบัมชุดนี้คือการก้าวเข้าสู่วัยสาว
LEANN RIMES ให้ความหมายของอัลบัมชุดนี้ว่า ANGEL คือตัวเธอตอนเป็นเด็กสาวตัวเล็ก
ผู้มีน้ำเสียงใหญ่ที่ทุกคนเฝ้ามอง ส่วน TWISTED คือส่วนหนึ่งของเธอที่เติบโตมาพร้อมกับความเข้มแข็งในวัยสาว
ทั้งหมดก็คงเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงที่หลายคนคาดหวัง ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเธอกับอัลบัมที่ชื่อว่า TWISTED
ANGEL
ศิลปิน : ECHOBOY
อัลบัม : GIRAFFE
แนวเพลง : ELECTRONICA
พาดหัว "รสชาติใหม่กับดนตรีลูกผสม"
เขาได้รับอิทธิพลทางดนตรีในแนวไซคีเดลิค อีเลคทรอนิค (PSYCHEDELIC ELECTRONIC)
มาจากศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง BOB DYLAN, TELEVISION และ KRAFTWERK ศิลปินจากยุค 70 S
รวมถึงศิลปินร่วมสมัยอย่าง THE CHEMICAL BROTHERS วงชั้นนำจากเกาะอังกฤษ
ดังนั้นงานดนตรีของเขาจะเป็นการผสานดนตรีของยุค 70 S กับยุค 90 S ซึ่งทำให้มีเสน่ห์และร่วมสมัย
ผู้อยู่เบื้องหลัง ECHOBOY ก็คือ RICHARD WARREN อดีตสมาชิกของวง THE HYBIRDS
เคยมีผลงานออกมาได้แค่ชุดเดียวในปี 1998 กับงานที่ใช้ชื่อว่า THE HYBIRDS ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างมาก
แต่ก็น่าเสียดายที่วงนี้ได้ยุบตัวไปแล้ว ดังนั้น RICHARD WARREN หนุ่มจากเมืองนอททิงแฮมบนฝั่งอังกฤษ
ก็ได้ทำการวางโพรเจคท์ทางดนตรี ด้วยความสามารถทางด้านการแต่งเพลงและร้องเพลงแล้ว
เขายังมีฝีมือทางด้านดนตรีอีกด้วย ถ้าดูรายละเอียดจากการทำงานในอัลบัมชุดใหม่นี้
จะเห็นการสร้างสรรค์ทางดนตรี โดยหลักแล้วจะมาจากฝีมือของเขาเป็นส่วนมาก
บางเพลงจะเห็นว่าเขาเหมาการทำงานทางด้านดนตรีเพียงคนเดียว
อัลบัม GIRAFFE ไม่ใช่งานชุดแรกในนามของ ECHOBOY เพราะก่อนหน้านั้นเขาเคยออกอัลบัมเต็ม VOLUME ONE
ในปี 2000 และตามด้วย VOLUME 2 ในปีเดียวกันก่อนจะมาถึงอัลบัมชุดใหม่นี้
ซึ่งทั้งสองอัลบัมนั้นก็ประสบความสำเร็จพอสมควร สำหรับอัลบัมใหม่ได้ FLOOD ศิลปินและโพรดิวเซอร์แนว
อีเลคทรอนิคาชั้นหัวกะทิ โดยพวกเขารวบรวมเพลงจากฝีมือการแต่งของ RICHARD WARREN
ด้วยความชำนาญและความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ผลงานชุดนี้ ไม่ว่าจะในส่วนของแนวดนตรี และการร้อง
สอดประสานกันด้วยดี จนคาดกันว่านี่คือต้นแบบของเพลงพอพในยุคหน้า
ดนตรีทางเลือกใหม่ที่มีการผสมผสานกันระหว่างดนตรีไซคีเดลิค, พอพ และรอค เข้าไว้ด้วยกัน
ผลงานชุดนี้ของเขาไม่ธรรมดา เพลงที่อยากจะให้ฟังคือ GOOD ON TV, HIGH SPEED IN LOVE และเพลง DON T
DESTROY ME การทำงานเพลงเหล่านี้เป็นฝีมือของเขาล้วนๆ โดยเฉพาะเสียงการเดินเบสส์ที่มีเสน่ห์อยู่ในตัว
อัลบัมชุดนี้เหมาะกับคนที่ไม่เคยหยุดนิ่งกับการฟังดนตรี ถือเป็นอีกรสชาติหนึ่งของการฟัง
ศิลปิน : 30 SECONDS TO MARS
อัลบัม : 30 SECONDS TO MARS
แนวเพลง : ROCK
พาดหัว "พลังที่ไร้ขีดจำกัดของดนตรีสายพันธุ์รอค"
คลื่นลูกใหม่ของวงการรอค จากลอสแองเจลิส กับดนตรีสายพันธุ์รอคที่จับเอากรันจ์ยุคใหม่ และโพรเกรสซีฟยุคใหม่
ผสานได้อย่างลงตัว
30 SECONDS TO MARS ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน ซึ่งได้แก่ JARED LETO (ร้องนำและกีตาร์)
สำหรับเขาคนนี้คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีในฐานะนักแสดงก็คล้ายกับ คีนู รีฟ แห่งวง DOGSTARS
ซึ่งก็เป็นนักแสดงชื่อดัง ก่อนหันมาจับงานทางดนตรี สมาชิกคนที่สองคือน้องชายของเขา SHANNON LETO
รับหน้าที่เป็นมือกลอง ส่วนมือกีตาร์รับหน้าที่โดย SOLON BIXLER และสุดท้ายมือเบสส์ MATT WACHTER
พวกเขาร่วมเล่นดนตรีและผูกพันกันมานาน เริ่มจากงานแสดงเล็กๆ จนก้าวเข้ามาเป็นทีม
ด้วยแก่นดนตรีที่ได้รับอิทธิพลจากวงโพรเกรสซีฟรอครุ่นใหญ่อย่าง PINK FLOYD, RUSH และ BRIAN ENO
จึงทำให้ผลงานในภาคดนตรีของพวกเขามีทิศทางชัดเจนกว่าวงน้องใหม่อื่นๆ
อัลบัมแรกของพวกเขาเปิดตัวในชื่อว่า 30 SECONDS TO MARS โดยได้โพรดิวเซอร์ฝีมือระดับอาจารย์อย่าง BOB
EZRIN ซึ่งเคยทำงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคน ไม่ว่าจะเป็นศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง PINK FLOYD, KISS,
AEROSMITH และศิลปินรุ่นหลังอย่าง KULA SHAKER เป็นต้น ดังนั้นการที่พวกเขาจะจับหลักของดนตรีโพรเกรสซีฟ
และกรันจ์ จึงไม่ใช่เรื่องยาก
งานดนตรีของพวกเขานอกจากจะให้อารมณ์ที่ดุเดือดแล้ว ยังมีการใส่เมโลดีใสๆ เข้าไป ทำให้ผลงานมีสีสัน
ซึ่งจะได้ทั้งความร้องแรง และอ่อนโยนอยู่ในตัว
จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมีหลายคนจับตามองศิลปินกลุ่มนี้อย่างมาก
เพราะแค่ผลงานชุดแรกของพวกเขาที่ออกมา ก็สามารถเข้าไปในชาร์ทบิลล์บอร์ดได้แล้ว
บทเพลงในอัลบัมนี้แต่งโดย JARED LETO หนุ่มหล่อของวง
ในปีนี้คงต้องส่งใจลุ้นให้วงหน้าใหม่นี้ได้รางวัลอะไรติดไม้ติดมือกันบ้าง แต่ตอนนี้อยากให้ลองฟังแทรค
CAPRICORN (A BRAND NEW NAME)
เพลงเปิดตัวอัลบัมที่พวกเขาแสดงถึงความชัดเจนของดนตรีในแบบฉบับของ 30 SECONDS TO MARS
ศิลปิน : KELLY ROWLAND
อัลบัม : SIMPLY DEEP
แนวเพลง : POP/R&B
พาดหัว "ก้าวแรกของเธอในฐานะศิลปินเดี่ยว"
KELLY ROWLAND หนึ่งในสมาชิกวง DESTINY S CHILD ศิลปินกลุ่มหญิงแนวอาร์แอนด์บี
ที่มีชื่อเสียงอย่างมากอยู่ในขณะนี้ จะเห็นว่าอัลบัมทุกชุดของ DESTINY S CHILD จะได้รับการตอบรับอย่างมาก
นับตั้งแต่ผลงานชุดแรก DESTINY S CHILD ในปี 1998 ซึ่งในตอนนั้นเคยเขียนถึงพวกเธอว่าเป็นกลุ่มที่น่าจับตามอง
ด้วยแนวดนตรีที่มีความทันสมัย และเสียงร้องที่มีความโดดเด่น จึงทำให้พวกเธอประสบความสำเร็จ
ถ้ายังจำกันได้กับเพลงเด่นของเธอที่มีชื่อว่า SAY MY NAME ส่งผลให้อัลบัมต่อมา ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน
ซึ่งทุกชุดก็จะมีเสียงของสาว KELLY ROWLAND สร้างสีสันให้กับการร้องเสมอ
ตอนนี้เธอออกมาทำงานเดี่ยวกับอัลบัมแรกในชื่อ SIMPLY DEEP คล้ายกับเพื่อนร่วมวง
BEYONC KNOWLES ซึ่งก็มีผลงานออกมาเช่นกัน ในอัลบัมนี้ของเธอได้ร่วมงานกับทีมงานสมัยอยู่ DESTINY S
CHILD และทีมงานโพรดิวศ์ใหม่ที่มีความสามารถในการทำเพลงแบบพอพ และอาร์แอนด์บี
ไม่ว่าจะเป็น RICH HARRISON, ROBERT SMITH, ROB FUSARI และ STEVE KIPNER เป็นต้น
ซึ่งการทำงานเพลงทั้งหมดควบคุมโดย MATHEW KNOWLES
นอกจากนี้ในส่วนของศิลปินรับเชิญ เธอก็ได้ SOLANGE KNOWLES
นามสกุลคงจะคุ้นกันดีเพราะเธอเป็นน้องสาวของ BEYONC KNOWLES แห่งวง DESTINY S CHILD
มาร่วมร้องในเพลง SIMPLY DEEP
แนวเพลงในอัลบัมนี้คงหนีไม่พ้นแนวถนัดของเธอ นั่นก็คือ อาร์แอนด์บี, พอพ และเออร์เบิน (URBAN)
เรียกว่าฟังแล้วก็เหมือนกับงานในแบบ DESTINY S CHILD
จะต่างกันก็ตรงที่การร้องของเธอจะไม่มีการร้องแทรกและร้องสวนเท่านั้น
เพลง STOLE ซิงเกิลแรกน่าจะถูกใจวัยรุ่นด้วยซาวน์ดฟังสบายในแบบอาร์แอนด์บี และมีเนื้อหาเกี่ยวกับวัยรุ่นพอดี
ซึ่งเพลงนี้มีกลิ่นอายของดนตรีรอคผสมด้วย ทำให้อารมณ์เพลงมีความเข้มข้นขึ้น
อัลบัมนี้ยังเพิ่มแทรคพิเศษ คือ เพลง MAKE U WANNA STAY ที่ได้ JOE BUDDEN
มาร้องแรพสร้างสีสันให้กับเพลงนี้มากขึ้น
แม้ว่าอัลบัมนี้จะเป็นงานเดี่ยวของเธอ แต่ก็ไม่ค่อยต่างไปจากการทำงานในฐานะ DESTINY S CHILD สักเท่าไหร่
ซึ่งแฟนเพลงเก่าๆ ของเธอคงจะชื่นชอบ
ศิลปิน : SHAGGY
อัลบัม :LUCKY DAY
แนวเพลง : REGGAE
พาดหัว "เสียงร้องที่สร้างมนต์ขลัง กับสไตล์ดนตรีของตัวเอง"
จากผลงานคัฟเวอร์เพลง OH CAROLINA เป็นผลงานของ THE FOLKES BROTHERS บทเพลงเรกเกในยุคต้นๆ
นับว่าเป็นการนำผลงานเก่าของศิลปินรุ่นแรกๆ มาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จในวงการเพลง
เพราะทุกอย่างต้องบอกว่ามันขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิตของใครของมันจริงๆ บางคนทุ่มเทเวลาแต่งเพลงแทบตาย
ผลงานนั้นกับไม่ได้รับความนิยม แต่พอคนอื่นนำเพลงตัวเองไปร้องกลับโด่งดังชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลย
ส่วน SHAGGY ได้คว้าความสำเร็จจากบทเพลงนี้ ทำให้เขามีชื่อเสียงทั้งในฝั่งอังกฤษ และอเมริกา
รวมถึงในกลุ่มประเทศยุโรป อย่าง สวีเดน ฮอลแลนด์ และเยอรมนี ตลอดจนแถบอเมริกาเหนือ
งานดนตรีของเขาจะมีเอกลักษณ์ที่เรียกว่า DOG-A-MUFFIN ซึ่งเป็นการนำซาวน์ดของดนตรีแจซซ์
ผสมกับจังหวะเรกเกในแบบตะกุกตะกัก ฟังแล้วจะแตกต่างจากงานในแบบเรกเกทั่วไป
ด้วยรูปแบบเฉพาะตัว จึงทำให้เขาโด่งดัง และส่งผลให้งานอย่างอัลบัม BOOMBASIC ในปี 1995
ที่มีเพลงเด่นอย่างเพลง IN THE SUMMERTIME, เพลง MR. BOOMBASTIC, เพลง WHY YOU TREAT ME SO BAD
และเพลง SOMETHING DIFFERENT ได้รับความนิยมตามไปด้วย ก่อนจะส่งผลให้ผลงานต่อๆ มาของเขา
ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
แม้กระทั่งผลงานใหม่ล่าสุด LUCKY DAY ที่ออกมาสร้างสีสันให้กับวงการดนตรีแนวเรกเกอีกครั้ง ด้วยเพลง HEY
SEXY LADY บทเพลงสุดเซกซี่กับเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ตอนนี้กำลังโดนใจแฟนๆ ส่วนเพลง HOOKIE
JOOKIE ฟังแล้วเสียวๆ อย่างไรไม่รู้ สำหรับเพลงนี้ชอบเป็นการส่วนตัวครับ
ด้วยน้ำเสียงที่มีเอกลักษณ์ น่าจะทำให้ผลงานชุดนี้โดดเด่นไม่แพ้ผลงานชุดเก่าๆ ในอดีต
ยิ่งถ้าคุณมีหัวใจของเรกเกอยู่แล้ว ไม่ควรพลาดอัลบัมนี้ ยิ่งถ้าได้ดูมิวสิควีดีโอเพลง HEY SEXY LADY
ทำให้หลับไม่ลงจริงๆ เพราะฟังแล้วชวนให้สยิว
เรื่องโดย : ส. ศิลา
นิตยสาร Carstereo ฉบับเดือน มกราคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/9296