ทั่วไป
ไม่ต่ำกว่าสิบชั่วโมง บน เอสยูวี คันใหญ่ พุ่งทะยานผ่านโค้งไปพร้อมกับหัวใจอันเต็มเปี่ยมด้วยความตื่นเต้น ที่สุดก็เดินทางมาถึงแม่ฮ่องสอน เมืองเล็ก แต่ยิ่งใหญ่ในความคิดของใครหลายคน
ไม่ต่ำกว่าสิบชั่วโมง บน เอสยูวี คันใหญ่ พุ่งทะยานผ่านโค้งไปพร้อมกับหัวใจอันเต็มเปี่ยมด้วยความตื่นเต้น ที่สุดก็เดินทางมาถึงแม่ฮ่องสอน เมืองเล็ก แต่ยิ่งใหญ่ในความคิดของใครหลายคน
หลังจากขยายถนน เส้นทาง 1,864 โค้ง ที่เคยน่ากลัว ก็เปลี่ยนเป็นเส้นทางแห่งความสนุกสนาน และสดชื่น จากสมรรถนะที่ดีของรถ ตลอดจนทิวทัศน์สองข้างทางที่อาจเปลี่ยนไปบ้างจากที่มันเคยเป็น
ผม และทีมงานมีเวลาอยู่ที่นี่ 3 วัน 2 คืน ตะลอนไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้พบกับสถานที่แสนสวย และน้ำใจอันงดงามของคนพื้นถิ่น รวมทั้งได้เผชิญกับบรรยากาศสุดประหลาด ที่มีหมอกจางยามเช้า แดดแผดเผายามบ่าย กับสายฝนที่โปรยปรายยามเย็น จนทำให้นึกเอะใจว่า "เมืองสามหมอก" ที่ผมเคยรู้จัก ได้แปรเปลี่ยนเป็น "เมืองสามฤดู" (ในหนึ่งวัน) ไปเสียแล้วหรือนี่
ผมคิดว่า ปาย น่าจะเป็นเมืองที่ผู้ชายอยากพาคนรักมาเที่ยว และชวนเธอทำความรู้จักมากที่สุด แต่นั่นคงเป็นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะมีบ้านพักราคาถูกผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด ถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยแสงไฟ และผับบาร์ที่ไม่ยอมหลับใหลเสียที ยังดีที่บรรดาเจ้าของกิจการพร้อมใจกันเปิดเพลงเพียงเบาๆ จึงยังพอมีที่ว่างให้คนรักสงบ ที่อยากทำความรู้จัก มีโอกาสได้มองแววตาของกันและกันบ้าง
ถ้ำลอด โพรงถ้ำมืดมิด ใน อ.ปางมะผ้า ที่มีธารน้ำชื่อว่า "ลาง" ไหลผ่าน ผมนั่งแพไม้ของเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ เข้าไป โดยการนำของชาวบ้านกับแสงไฟของตะเกียงเจ้าพายุ ที่นี่มีหินงอกหินย้อยที่สวยใช้ได้ สนุกที่สุดก็คือ การแข่งกับเพื่อน เพื่อจินตนาการรูปร่างของมันว่าเหมือนอะไรกันแน่
เรื่องลี้ลับหลังความตาย อาจดูเหมือนไม่ใช่เรื่องน่าสนุกนักสำหรับการมาเที่ยว แต่ก็เป็นเรื่องแปลก และน่าสนใจที่ว่า มีเศษภาชนะ เครื่องมือหิน ซากกระดูก และโลงศพ มากองเกยอยู่ในส่วนยอดสุดของถ้ำ โดยมีการสันนิษฐานจากทางอุทยาน ฯ ว่าลอยตามน้ำมา
ฉะนั้นจึงหมายความว่า ธารน้ำตื้นแค่เข่าแห่งนี้ ครั้งหนึ่งเคยมีระดับน้ำที่สูงถึง 30 เมตร
ถ้ำปลา อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไม่ถึง 20 กม. ได้ยินชื่อครั้งแรกนึกว่าเป็นถ้ำขนาดใหญ่ จริงๆ เป็นหลุมน้ำที่กว้างยาวแค่เมตรคูณเมตร แต่แปลกที่มีปลามาออกันหน้าโพรงถ้ำ ผมอยากรู้ลึกแต่จะทำอย่างไรได้ เพราะในโบชัวร์ของอุทยาน ฯ บอกไว้แค่ว่า
"ณ บริเวณนี้เป็นลำน้ำที่ไหลลงมาจากบนยอดเขาหินปูน แต่ลำน้ำแห่งนี้เกิดจากการซึมซาบ และได้ไหลลอดออกมาจากหน้าถ้ำปลา จะไหลมาบรรจบกับลำน้ำแม่สะงี นิเวศแบบนี้เหมาะแก่การขยายพันธุ์ของปลาพวงหินซึ่งมีขนาดใหญ่ อาศัยชุกชุมนับเป็นพันๆ ตัว เรารู้เพียงว่าช่วงฤดูฝนปลาพวงหินจะทวนน้ำขึ้นไปวางไข่ที่ต้นน้ำ แต่ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ ว่าพวกมันไปวางไข่กันที่ไหน"
พระธาตุดอยกองมูยามพลบค่ำ สวยงามจับใจ ถือเป็นสัญลักษณ์ และศูนย์รวมความศรัทธาของชาวเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีพระธาตุ 2 องค์ องค์ใหญ่สร้างเมื่อปี 2403 โดยชาวพม่าชื่อ "จองตองสู่" ส่วนองค์เล็กสร้างเมื่อปี 2417 โดย "พระยาสิงหนาทราชา" เจ้าเมืองเดิม นอกจากนี้ บนยอดดอยยังเป็นจุดชมทัศนียภาพของตัวเมืองที่สวยที่สุดอีกด้วย
อาจเพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองนัก กะเหรี่ยงคอยาว และหูยาว ที่บ้านห้วยเสือเฒ่า จึงมีสินค้า และวัฒนธรรมที่เปิดขายคล้ายตลาด สาวชาวเขาบริการห่วงคอจำลองให้นักท่องเที่ยวใส่ถ่ายรูป ชายแก่นั่งเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้านให้ชม โดยมีหีบไม้ให้หย่อนเงินค่าดู ขนาดที่ว่าจะถ่ายรูปเด็กๆ เจ้าหนูยังหันมาบอกกับเราว่า "ครั้งละสิบบาท"
ระหว่างผมเดินกลับขึ้นรถ แหงนมองข้างทางเห็นเสาโทรศัพท์ทันสมัย สูงกว่าต้นไม้ใหญ่ประจำหมู่บ้าน
ทุ่งบัวตอง ที่ปกคลุมทั่วดอยแม่อูคอ ใน อ. ขุนยวม เป็นจุดที่พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน สีเหลืองสดของดอกบัวตองตัดกับท้องฟ้าสีจัด และปุยเมฆขาวนวล ช่างสดใสและสวยงาม ผมตะลึงจนต้องชะลอรถ และหยุดดู ของจริงผมว่าสวยกว่าภาพถ่ายในโพสการ์ดแบบคนละเรื่อง พิสูจน์ได้จากหัวใจที่เต้นแรงขึ้น และเสียงบีบแตรเชิงตำหนิจากรถคันหลัง
ดอยแห่งนี้เคยหัวโล้น ด้วยเหตุที่ชาวม้งมักทำไร่เลื่อนลอย แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้วัชพืชที่ชื่อว่า "บัวตอง" ที่ไม่ยอม แต่กลับรวมหัวกันขยายเผ่าพันธุ์อย่างรวดเร็ว
ถ้ำแก้วโกมล ได้สมญาว่าถ้ำน้ำแข็ง อยู่ที่ อ.แม่ลาน้อย ถ้านักท่องเที่ยวเยอะจะมีกฎเกณฑ์มากหน่อย เช่น ต้องทิ้งรถไว้ข้างล่างแล้วนั่งรถสองแถวขึ้นมาที่ปากถ้ำ และไม่ให้ถ่ายรูปในถ้ำ เพราะแสงฟแลชจะไปทำลายผลึกแร่แคลไซท์ ที่ดูคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง จนกลายเป็นสีดำคล้ำ เจ้าหน้าที่ได้ไรท์ภาพในถ้ำใส่ซีดีไว้ และจำหน่ายในราคา 60 บาท จึงได้มีภาพมาฝากกัน
"แม่ฮ่องสอนอาจเปลี่ยนไปบ้าง จากอากาศที่แสนวิปริต วัตถุ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มุแต่จะมุ่งไปข้างหน้า จนลืมตัวตนของเมืองทิ้งไว้ ผมรู้ว่าความเปลี่ยนแปลงไม่อาจเลี่ยงได้ จึงแอบดีใจอยู่ลึกๆ ที่แม่ฮ่องสอน ยังคงมีหมอกจางในยามเช้า ที่อ้อยอิ่งคลอเคลียอยู่กับเรา ไม่ลอยหนีไป"
สถานที่ : จ. แม่ฮ่องสอน
รถยนต์ : โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์
ขอบขอบคุณ : บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
อยากให้คุณรู้
แนะเส้นทางพิชิต 1,864 โค้ง มีประกาศนียบัตรรับรองฝีมือ
ใครที่ชอบขับรถ บอกได้เลยว่า ทั้ง 2 เส้นทางสู่แม่ฮ่องสอน ขับสนุก ได้ใช้ทักษะการขับขี่ และสมรรถนะรถอย่างเต็มที่แน่ๆ
1. จากเชียงใหม่ เข้าทางหลวงหมายเลข 108 ตัดจาก ผ่าน อ. หางดง-สันป่าตอง-จอมทอง-ฮอด-แม่สะเรียง-แม่ลาน้อย-ขุนยวม ถึง อ. เมืองแม่ฮ่องสอน รวมระยะทาง 349 กม. เส้นทางสายนี้เป็นทางตัดขึ้นเขาสูง มีความสวยงามและคดเคี้ยวถึง 1,864 โค้ง
2. จากเชียงใหม่ เข้าทางหลวงหมายเลข 1095 แยกซ้ายจาก อ.แม่แตง-ปาย-ปางมะผ้า-แม่ฮ่องสอน ระยะทางเพียง 245 กม. แต่เส้นทางโหดและชัน แต่ขับสนุกกว่า ร่างกายไม่ทันล้าเพราะใกล้กว่าเส้นทางแรกเยอะ
ไปถึงแม่ฮ่องสอน นักขับอย่าลืมนำใบขับขี่ไปขอรับประกาศนียบัตรผู้ขับ ส่วนผู้โดยสารก็นำบัตรประชาชนไปขอรับได้ด้วยเหมือนกัน ในฐานะที่มีความสามารถนั่งรถมาถึงจนได้ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกลางเมืองแม่ฮ่องสอน โดยจ่ายค่าหมึกพิมพ์ใบประกาศ ฯ 50 บาท
ขากลับ ใครสนใจเดินทางไป จ. ตาก ไม่ต้องแวะเข้า จ. เชียงใหม่ เพราะสามารถเดินทางได้ตามทางหลวงหมายเลข 105 ผ่าน อ. แม่ลาน้อย-แม่สะเรียง-สบเมย-ท่าสองยาง-แม่ระมาด-แม่สอด-ตาก ระยะทาง 380 กม. ทั้งใกล้ และเร็วกว่าย้อนไปเชียงใหม่เยอะ
เรื่องโดย : ศิธา เธียรถาวร
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8800