ธุรกิจ
หิรัญญา สุจินัย รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมอนุกรรมการพิจารณาโครงการ ได้ประชุมอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่การขยายกิจการผลิตยางรถยนต์ (เรเดียล) สำหรับรถยนต์นั่ง และยางรถจักรยานยนต์ (เรเดียล/ไบแอส) ของบริษัท ยางสยามพระประแดง จำกัด ซึ่งมีบริษัท สยามมิชลินกรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นทั้งสิ้น มูลค่าเงินลงทุน 2,554 ล้านบาท มีกำลังการผลิตยางปีละประมาณ 2,130,570 เส้น เพื่อส่งออกร้อยละ 90 ตั้งโรงงานอยู่ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
กลุ่มมิเชอแลง
ลงทุนขยายการผลิต
หิรัญญา สุจินัย รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมอนุกรรมการพิจารณาโครงการ ได้ประชุมอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่การขยายกิจการผลิตยางรถยนต์ (เรเดียล) สำหรับรถยนต์นั่ง และยางรถจักรยานยนต์ (เรเดียล/ไบแอส) ของบริษัท ยางสยามพระประแดง จำกัด ซึ่งมีบริษัท สยามมิชลินกรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นทั้งสิ้น มูลค่าเงินลงทุน 2,554 ล้านบาท มีกำลังการผลิตยางปีละประมาณ 2,130,570 เส้น เพื่อส่งออกร้อยละ 90 ตั้งโรงงานอยู่ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ปัจจุบัน กลุ่มมิเชอแลง มีโรงงานในประเทศไทย 3 แห่ง ได้แก่ 1. เขตอุตสาหกรรมเครือซีเมนต์ไทย จ. สระบุรี (บจ. สยามมิชลินกรุ๊ป) ซึ่งมีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด 8 โครงการ 2. นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ. ชลบุรี (บจ. สยามมิชลินกรุ๊ป) ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 2 โครงการ และ 3. พระประแดง จ. สมุทรปราการ (บจ. ยางสยามพระประแดง)
ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2549 บีโอไอได้ให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตยางรถยนต์ ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถบรรทุกเล็ก ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 14 โครงการ กำลังการผลิตรวม 26,206,050 เส้น และกิจการผลิตยางรถจักรยานยนต์ ทั้งสิ้นจำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 11,140,000 เส้น
โตโยตา
ก่อตั้งบริษัทใหม่ ฯ
ชิฮิโร ฮายาชิ ประธาน บริษัท ทีอาร์ดี เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท โตโยต้า เทคโนคราฟต์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ SPORT CUSTOMIZE ซึ่งใช้รถ โตโยตา โดยเน้นการดำเนินธุรกิจภายในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า ทูโช ไทยแลนด์ จำกัด ก่อตั้ง บริษัท ทีอาร์ดี เอเชีย จำกัด ขึ้นในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายธุรกิจ SPORT CUSTOMIZE TRD ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทออกสู่ต่างประเทศ เสริมความสามารถในการจัดหา และเสริมคุณภาพของสินค้าในท้องถิ่น ที่ใช้ในการผลิตรถยนต์โดยเน้นตลาดในภูมิภาคเอเชีย
บริษัท ทีอาร์ดี เอเชีย ฯ มีแผนงานเน้นการสนับสนุน พัฒนารูปลักษณ์รถยนต์ ให้มีลักษณะสปอร์ท สำหรับรถยนต์ โตโยตา ภายใต้สัญลักษณ์สินค้า TRD การวางแผน การพัฒนา การขายส่ง และส่งออก ภายใต้ตราสินค้า TRD ที่เป็นอุปกรณ์ตกแต่งเสริม และสินค้าส่งเสริมการขาย เช่น อุปกรณ์การตกแต่งภายนอกตัวรถแบบ AERO DYNAMIC อุปกรณ์การกันสะเทือน, ล้ออัลลอย รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งภายใน และสินค้าอีกหลายประเภท ภายใต้ชื่อว่า TRD โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิต
โตโยตา
แถลงนโยบายปี '50
มิทซึฮิโระ โซโนดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้เริ่มส่งสัญญาณไปในทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การปรับลดของราคาน้ำมัน ซึ่ง บริษัท ฯ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถรักษาดุลยภาพทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเมืองไว้ได้ ดังนั้นคาดว่าตลาดรถยนต์ในปี 2550 จะมีอัตราการเติบโตที่ทรงตัว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 3 % หรือมียอดขายประมาณ 700,000 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 190,000 คัน และรถเพื่อการพาณิชย์ 510,000 คัน ส่วน โตโยตา ตั้งเป้ายอดขาย 295,000 คัน หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 42 % แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 91,000 คัน หรือมีส่วนแบ่งตลาด 48 % และรถเพื่อการพาณิชย์ 204,000 คัน หรือมีส่วนแบ่งตลาด 40 %
ทั้งนี้ปี 2549 มียอดขายทั้งสิ้น 682,500 คัน ลดลง 3 % แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 191,885 คัน เพิ่มขึ้น 2 % รถเพื่อการพาณิชย์ 490,615 คัน ลดลง 4.8 % และรถพิคอัพขนาด 1 ตันของเซกเมนท์นี้ จำนวน 449,796 คัน ลดลง 4.2 % โดย โตโยตา มียอดขายรวมทั้งสิ้น 289,108 คัน เพิ่มขึ้น 4 % มีส่วนแบ่งทางการตลาด 42.4 % เป็นอันดับ 1 ในตลาด
สำหรับความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากรถพิคอัพ ไฮลักซ์ วีโก และฟอร์ทูเนอร์ มียอดขายสูงสุดถึง 185,709 คัน มีส่วนแบ่งทางการตลาด 41.3 % เติบโต 4.5 % โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถพิคอัพ ไม่รวมรถดัดแปลง โตโยตา มียอดขายเป็นอันดับ 1 เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดย ไฮลักซ์ วีโก มียอดขาย 166,358 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 39.3 %
ส่วนการส่งออกปีที่ผ่านมา โตโยตา ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 196,935 คัน มูลค่า 86,494 ล้านบาท เติบโต 30 % มีส่วนแบ่งตลาด 38 % นอกจากนี้ ยังมีชิ้นส่วนอะไหล่อีก 22,202 คอนเทเนอร์ มูลค่า 33,600 ล้านบาท คิดเป็นการส่งออกรวม 120,094 ล้านบาท หรือ 35.7 % ของการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
สำหรับปีนี้ได้เริ่มเปิดสายการผลิตที่โรงงานบ้านโพธิ์โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 100,000 คัน ซึ่งจะทำให้ตอบสนองความต้องการของตลาดส่งออกได้มากขึ้น ทั้งนี้ โตโยตา มีเป้าหมายการส่งออก 193,000 คัน มูลค่า 77,000 ล้านบาท และชิ้นส่วนอะไหล่มูลค่า 39,400 ล้านบาท คิดเป็นการส่งออกรวม 116,400 ล้านบาท
บีเอมดับเบิลยู
แต่งตั้งประธานใหม่
บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด ประกาศแต่งตั้ง มิคาเอล โคร์ดีส์ (MICHAEL KORDYS) ให้ดำรงตำแหน่ง ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย แทน ดร. ฟรังค์ เริสเลร์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 เป็นต้นไป โดย โคร์ดีส์ จะทำหน้าที่เป็นประธานของ บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟเจอริ่ง ประเทศไทย จังหวัดระยอง อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา โคร์ดีส์ เริ่มทำงานกับบีเอมดับเบิลยู ตั้งแต่ปี 2531 เริ่มต้นทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไป ศูนย์รถมอเตอร์ไซค์ บีเอมดับเบิลยู ในเมืองมิวนิค หลังจากนั้นในปี 2545 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทั่วไป สาขาขายปลีก บีเอมดับเบิลยู ที่เมืองโซลน์ (SOLLN) ทางตอนใต้ของเมืองมิวนิค ซึ่งเป็นช่วงของการเตรียมเปิดสาขา จนกระทั่งเปิดสาขาในปี 2548 และก่อนที่จะมารับตำแหน่งในประเทศไทย ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป สาขาขายปลีก บีเอมดับเบิลยู ในเมืองมิคนิค
โคร์ดีส์ กล่าวหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ประธาน บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด ว่าด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ บีเอมดับเบิลยู ในประเทศไทย รวมถึงความมุ่งมั่นของดีเลอร์ และพนักงานที่มีความกระตือรือร้น และทรงพลังของ บีเอมดับเบิลยู ทั้งในกรุงเทพ ฯ และโรงงานที่ระยอง บีเอมดับเบิลยู จะรุกคืบสู่ปีที่ 9 ของบริษัท ฯ ได้เป็นอย่างดี
สำหรับผลงานของ บีเอมดับเบิลยู กรุ๊ป ฯ ในปีที่ผ่านมานั้น บีเอมดับเบิลยู มียอดขายรวมทั้งสิ้น 3,098 คัน โดยแบ่งเป็น บีเอมดับเบิลยู 2,822 คัน และมีนี 276 คัน โดยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว บีเอมดับเบิลยู กรุ๊ป ฯ มีอัตราการเติบโต 9 % เมื่อเทียบกับปี 2548 ที่มียอดขาย 2,852 คัน ซึ่งทำให้ บีเอมดับเบิลยู กรุ๊ป ฯ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 40 %
ส่วนยอดขายของ บีเอมดับเบิลยู 2,822 คัน ทำให้ บีเอมดับเบิลยู มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 13 % เมื่อเทียบกับปี 2548 ที่มียอดขาย 2,502 คัน และมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์หรู 38 % สูงขึ้น 33 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้การเติบโตของ บีเอมดับเบิลยู นับว่าเป็นการเติบโตที่สวนกระแสของตลาดรถยนต์หรูที่หดตัวลง 14 % ซึ่ง ซีรีส์ 3 ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในเซกเมนท์ได้อีกปีหนึ่งด้วยยอดจำหน่าย 1,105 คัน สำหรับ ซีรีส์ 5 มียอดขาย 1,200 คัน ถือว่าใกล้เคียงกับสถิติสูงสุดที่ทำได้ในปี 2547 ส่วน ซีรีส์ 7 มียอดขาย 210 คันและ เอกซ์ 3 จำนวน 269 คัน
บีโอไอ
แจงไม่เกี่ยวกับ www.boi-express.com
ด้วยปรากฎว่าได้มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง จัดทำเวบไซท์ชื่อ www.boi-express.com เพื่อให้บริการเกี่ยวกับการขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ โดยมีการขอรับบริจาค ผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาหนองมน หมายเลขบัญชี 275-2-54028-7 รวมทั้งมีการทำระบบเชื่อมโยงกับเวบไซท์ www.boi.go.th ของบีโอไอ ในเวบไซท์ดังกล่าวด้วย
บีโอไอ จึงขอแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบว่า บีโอไอมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่จัดทำเวบไซท์ดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ การให้บริการของบีโอไอ ทั้งการให้คำปรึกษาเรื่องโอกาสและลู่ทางการลงทุน การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน และการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิและประโยชน์ ภายหลังได้รับส่งเสริมการลงทุน ถือเป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่ ไม่มีการเก็บค่าบริการจากผู้ประกอบการแต่อย่างใด บีโอไอ จึงขอแจ้งให้ผู้ประกอบการทุกท่าน
เอ.พี. ฮอนดา
เปิดตัวแนวคิดใหม่ "+ FREEDOM"
เซนจิโร ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า แนวคิดใหม่ "+FREEDOM" หรือ "อิสระ...ไปกับ ฮอนดา" เป็นการมองลึกลงไปที่ความต้องการที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของคนทุกคนนั่นคือ "ความอิสระ" หรือการได้ทำอะไรตามใจตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาตีกรอบ จากความต้องการเหล่านี้บวกกับปรัชญาของ ฮอนดา ที่พร้อมนำเสนอวิถีชีวิตใหม่ๆ บริษัทจึงใช้คำว่า "+ FREEDOM" หรือ อิสระ...ไปกับ ฮอนดา เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ว่า เราเป็นเหมือนเพื่อนที่พร้อมจะพาพวกเขาไปพบกับความอิสระ ได้รู้สึกถึงช่วงเวลาของความอิสระเมื่อได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนดา ได้ความรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง ได้ทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะถูกตอกย้ำด้วยประโยคที่เข้าใจง่ายๆ ว่า "+ FREEDOM" อิสระ...ไปกับ ฮอนดา
ทางด้าน จุฑามาศ อินปริงกานันท์ ผู้จัดการแผนกส่งเสริมการจำหน่าย ฝ่ายการตลาด บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่าในระยะแรก ฮอนดา จะนำเสนอธีม "+ FREEDOM" อิสระ...ไปกับ ฮอนดา ในสื่อที่หลากหลายเพื่อให้เข้าถึงและครองใจผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งโฆษณาทางโทรทัศน์และสื่อสนับสนุนอื่นๆ อาทิ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และชุดตกแต่งที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนดา ทั่วประเทศ
โดยการสื่อสารแนวคิดนี้ เลือกใช้สีน้ำเงินและท้องฟ้าที่สดใส สื่อถึงความเป็นอิสระ ไม่มีที่สิ้นสุด บวกกับภาพที่แสดงถึงช่วงเวลาอิสระของผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนดา ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสะท้อนถึงความมีอิสระได้อย่างดีที่สุด นอกจากนี้ ตัวหนังสือโลโก "+ FREEDOM" ก็เป็นคำภาษาอังกฤษที่ทุกคนเข้าใจดี และใช้แบบตัวอักษรที่เรียบง่ายแต่สะดุดตา
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ ฮอนดา มั่นใจว่า "+ FREEDOM" จะเข้าถึงใจผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนดา ก็คือ
1. การเป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ใช้รถคนไทยมาตลอดระยะเวลา 40 ปี
2. การเป็นรถจักรยานยนต์ ที่นำสมัยด้วยเทคโนโลยีอันล้ำหน้าของ ฮอนดา 3. การบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยผู้จำหน่ายและช่างมืออาชีพที่เชี่ยวชาญของ CSI SHOP ทำให้ผู้ใช้มีอิสระในการไปในทุกที่กับ ฮอนดา โดยไม่ต้องกังวล และ 4. การดูแลและเอาใจใส่ต่อผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนดา ผ่านโครงการขับขี่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสื่อถึงการมีอิสระในการขับขี่รถในสไตล์ของคุณอย่างปลอดภัยา
ฮอนดา
แต่งตั้งผู้บริหาร
รายงานข่าวจาก บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา บริษัท ฯ ได้ประกาศแต่งตั้ง พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ผู้จัดการทั่วไป ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
พิทักษ์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีประสบการณ์การทำงานร่วมกับ ฮอนดา มากกว่า 7 ปี ตลอดระยะเวลาการทำงานได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ซึ่งรวมถึงการเป็นผู้จัดการส่วนงานหลักๆ คือ บริหาร การตลาด และบริการลูกค้า
สำหรับการแต่งตั้งให้ พิทักษ์ รับตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงครั้งนี้ เป็นผลมาจากการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยความเป็นมืออาชีพที่มีส่วนร่วมในการสร้างความเจริญเติบโตให้กับบริษัทตลอดมา และบริษัท ฯ มีความเชื่อมั่นว่าด้วยความสามารถของพิทักษ์ จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับบริษัท ฯ ได้ดียิ่งขึ้น
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8780