ธุรกิจ
หลังคาแข็งพับเก็บได้ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
มาซดา เอมเอกซ์-5
หลังคาแข็งพับเก็บได้
ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า
อังกฤษ-มาซดา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน ก้าวตามสมัยนิยม ใช้งานมหกรรมยานยนต์ในเมืองผู้ดี เปิดตัวรถเปิดประทุนหลังคาแข็งพับเก็บได้ พร้อมประกาศเตรียมส่งออกจำหน่ายในตลาดทั่วโลก
ที่งาน THE 2006 BRITISH INTERNATIONAL MOTOR SHOW หรือ "มหกรรมยานยนต์ลอนดอน" ซึ่งอุบัติขึ้นที่นครหลวงของสหราชอาณาจักรอังกฤษในระหว่างวันที่ 18-30 กรกฎาคมที่ผ่านมนี้ มาซดา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน (MADA MOTOR CORPORATION) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเมืองยุ่นซึ่งมี ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี (FORD MOTOR COMPANY) แห่งสหรัฐอเมริกา ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 33.4 ได้สร้างความปรีดาให้แก่คนรักรถเปิดประทุนเมืองผู้ดี โดยนำรถ มาซดา เอมเอกซ์-5 (MAZDA MX-5) ในตัวถังแบบใหม่ ออกแสดงต่อสายตาสาธารณชนในลักษณะ WORLD PREMIERE หรือ"ครั้งแรกในโลก" ที่งานนี้
ก่อนหน้านี้ มาซดา เอมเอกซ์-5 รุ่นปัจจุบัน (รุ่นที่สาม) ที่จำหน่ายอยู่ในญี่ปุ่นและในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เป็นรถเปิดประทุนที่ติดตั้งประทุนหลังคาแบบอ่อน ทำจากผ้าใบสังเคราะห์ บังคับปิด/เปิดด้วยการกดปุ่ม
แต่รถ มาซดา เอมเอกซ์-5 แบบใหม่ ที่เพิ่งออกแสดงในเมืองผู้ดีดังกล่าวข้างต้น ผู้ผลิตรถยนต์ของเมืองยุ่นก้าวตามสมัยนิยม และเดินตามรอยของผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปหลายๆ ราย โดยเปลี่ยนเป็นหลังคาแบบแข็ง ออกแบบเป็น 3 ชิ้น มีที่เก็บอยู่ท้ายรถ และบังคับเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
มาซดา โอ่อวดอย่างภูมิอกภูมิใจว่า ระบบประทุนหลังคาแบบแข็งที่เพิ่งนำมาใช้เป็นครั้งแรกนี้ มีคุณวิเศษถึง 2 ประการ ประการแรก คือ ที่เก็บประทุนหลังคาซึ่งซ่อนตัวอยู่ท้ายรถ ไม่ได้เบียดบังเนื้อที่เก็บของแต่อย่างใด และประการที่ 2 การเปิดหรือปิดหลังคาแต่ละครั้ง กินเวลาเพียง 12 วินาที คือ เร็วกว่ารถเปิดประทุนทุกรุ่นทุกแบบที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาดขณะนี้
การเปลี่ยนแปลงในส่วนของหลังคา ไม่ได้ส่งผลกระทบให้ตัวถังของรถเปิดประทุนพันธุ์ยุ่นแบบนี้เปลี่ยนแปลงขนาดไปแต่อย่างใด คือ ยังคงยาว 3.995 ม. กว้าง 1.720 ม.และสูง 1.255 ม. เช่นเดิม
รถแบบนี้จะมีชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด ในตลาดญี่ปุ่น มาซดา จะจำหน่ายในชื่อ MAZDA ROADSTER POWER RETRACTABLE HARD TOP โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้เพียงขนาดเดียว คือเครื่อง DOHC 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี 166-170 แรงม้า แต่จะมีระบบเกียร์ให้เลือกใช้อย่างจุใจถึง 3 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 หรือ 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ในตลาดอเมริกาเหนือ จะจำหน่ายในชื่อ MAZDA MX-5 POWER RETRACTABLE HARD TOP โดยติดตั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ชุดเดียวกับในญี่ปุ่น ส่วนในตลาดยุโรป จะใช้ชื่อ MAZDA MX-5 ROADSTER COUPE โดยจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ 2 ขนาด คือ เครื่อง DOHC 4 สูบเรียง 1,798 ซีซี 126 แรงม้า กับเครื่อง DOHC 4 สูบเรียง 1,999 ซีซี 160 แรงม้า และมีระบบเกียร์ 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 หรือ 6 จังหวะ
รถเปิดประทุนแบบหลังคาแข็งพับเก็บได้ กำลังเป็นที่นิยมของผู้ใช้รถในยุโรป ในช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมานี้ มีผู้ผลิตรถยนต์หลายๆ รายผลิตรถแบบนี้ออกจำหน่ายในตลาด ตัวอย่างเช่น เปอโฌต์ 206 เซเซ (PEUGEOT 206 CC) เปอโฌต์ 307 เซเซ (PEUGEOT 307 CC) และ เรอโนลต์ เมกาน เซเซ (RENAULT MEGANE CC) ของค่ายฝรั่งเศส ฟอร์ด โฟคัส คูเป-กาบริโอเลต์ (FORD FOCUS COUPE-CABRIOLET) และ โอเพล อัสตรา ทวิน ทอพ (OPEL ASTRA TWIN TOP) ของค่ายเยอรมนี
* ญี่ปุ่น-ฮอนดา มอเตอร์ นำรถอเนกประสงค์ ฮอนดา สตรีม (HONDA STREAM) รุ่นใหม่ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 2 ออกจำหน่ายแล้วในเมืองยุ่น รถรุ่นใหม่นี้มีตัวถังยาว 4.570 ม. กว้าง 1.695 ม. และสูง 1.545 ม. (ยาวกว่ารถรุ่นเดิม 2.0 ซม. และเตี้ยกว่ารถรุ่นเดิม 4.5 ซม. แต่กว้างเท่ากัน) มีทั้งแบบขับล้อหน้าและขับ 4 ล้อ โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ 2 ขนาด คือ เครื่อง 4 สูบเรียง 1.8 ลิตร 140 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ กับเครื่อง 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) สนนราคาค่าตัวที่ซื้อขายกันในเมืองยุ่น อยู่ระหว่าง 1.81-2.54 ล้านเยน หรือเท่ากับประมาณ 0.58-0.81 ล้านบาท เมื่อคิดอัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน แลกได้ด้วยเงินไทย 32 บาท
* สหรัฐอเมริกา-ตามตัวเลขซึ่งรวบรวมโดย ออโทโมทีฟ นิวส์ (AUTOMOTIVE NEWS) นิตยสารรถยนต์รายสัปดาห์ชั้นนำของเมืองคาวบอย ยอดขายรถทั่วโลกของ โตโยตา กำลังเขยิบเข้าใกล้ยักษ์ใหญ่ เจเนอรัล มอเตอร์ส (GENERAL MOTORS) เข้าไปทุกขณะ และน่าจะแซงขึ้นหน้าไปได้ในเวลาไม่นานนัก โดยระบุว่า ในรอบปี 2005 ฝ่ายแรกยังคงครองตำแหน่งผู้ขายรถรายใหญ่ที่สุดในโลกด้วยยอดขาย 8,381,805 คัน ในขณะที่ฝ่ายแรกตามจี้หลังมาติดๆ ด้วยยอดขาย 8,120,000 คัน คือ ห่างกันแค่ร้อยละ 3.1 เท่านั้นเอง ตามตัวเลขของนิตยสารรถยนต์ฉบับนี้ ในรอบปี 2005 ผู้ผลิตรถยนต์ที่ทำยอดขายสูงสุด 10 อันดับแรกประกอบด้วย
1. เจเนอรัล มอเตอร์ส 8,381,805 คัน
2. โตโยตา มอเตอร์ 8,120,000 คัน
3. ฟอร์ด มอเตอร์ 6,208,700 คัน
4. กลุ่ม โฟล์คสวาเกน 5,242,793 คัน
5. ไดมเลร์ ไครเลอร์ 4,854,700 คัน
6. กลุ่ม ฮันเด-เกีย 3,715,095 คัน
7. นิสสัน มอเตอร์ 3,597,748 คัน
8. กลุ่ม เปอโฌต์-ซีตรอง 3,390,000 คัน
9. ฮอนดา มอเตอร์ 3,365,000 คัน
10. เรอโนลต์ 2,533,428 คัน
* อังกฤษ-ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้รถในเมืองผู้ดีครั้งล่าสุด ซึ่งกระทำโดย เจ ดี เพาเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (JD POWER & ASSOCIATES) ผู้ชำนัญการด้านวิเคราะห์วิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก ปรากฏว่า รถญี่ปุ่นยังคงเป็นที่พึงพอใจสูงสุด โดยคว้าได้ทั้งอันดับที่ 1 และที่ 2 และติดอยู่ใน 10 อันดับแรกถึง 4 ยี่ห้อ ดังนี้
1. เลกซัส 87.3 %
2. ฮอนดา 84.8 %
3. สโกดา 84.2 %
4. โตโยตา 83.8 %
5. บีเอมดับเบิลยู 82.0 %
6. มีนี 82.0 %
7. แจกวาร์ 81.9 %
8. ซูบารุ 81.6 %
9.โวลโว 81.5 %
10. ฮันเด 81.3 %
และเมื่อแยกตามรุ่นของรถ ปรากฏว่ารถที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. เลกซัส ไอเอส 86.8 %
2. ฮอนดา แจซซ์ 86.1 %
3. ซูซูกิ ไลอานา 85.6 %
4. ฮอนดา แอคคอร์ด 85.4 %
5. โตโยตา ยารีส 84.6 %
6. สโกดา อกตาวีอา 84.6 %
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8614