วิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ มิตซูบิชิ ทไรทัน ที่ได้เปิดตัวในช่วงแรก บริษัทจึงได้เปิดจำหน่ายเพิ่มอีก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 2.5 ซิงเกิลแคบ จีแอล ดีเซล เทอร์โบ/2.5 เมกะแคบ จีแอล ดีเซล เทอร์โบ และ 2.5 ดับเบิลแคบ จีแอล ดีไอ-ดี ไฮเพอร์ คอมมอนเรล

มิตซูบิชิ ส่ง ทไรทัน เพิ่มอีก 3 รุ่น วิกรานต์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ มิตซูบิชิ ทไรทัน ที่ได้เปิดตัวในช่วงแรก บริษัทจึงได้เปิดจำหน่ายเพิ่มอีก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 2.5 ซิงเกิลแคบ จีแอล ดีเซล เทอร์โบ/2.5 เมกะแคบ จีแอล ดีเซล เทอร์โบ และ 2.5 ดับเบิลแคบ จีแอล ดีไอ-ดี ไฮเพอร์ คอมมอนเรล มิตซูบิชิ ทไรทัน ได้ออกแบบเพื่อรองรับกับการใช้งานบรรทุกที่สามารถตอบสนองทุกรูปแบบการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม กระบะท้ายออกแบบให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น และบริเวณบังโคลนล้อในกระบะมีขนาดเล็กลง เพื่อช่วยให้มีพื้นที่บรรทุกสินค้าได้มากขึ้น ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4D56 2,500 ซีซี SOHC 8 วาล์ว พร้อมเทอร์โบชาร์จ อีกระดับของการพัฒนา พร้อมเพิ่มความทนทาน และเสริมสมรรถนะให้แก่เครื่องยนต์ ด้วยระบบกระเดื่องวาล์วแบบลูกปืนหมุนวน ระบบ OIL COOLER OIL JET SPRAY และระบบ SILEN SHAFT ที่สุดแห่งเทคโนโลยีที่มีเฉพาะในเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ สำหรับราคาของ ทไรทัน ในรุ่น ซิงเกิลแคบ 2.5 ดีเซล เทอร์โบ 440,000 บาท เมกะแคบ 2.5 ดีเซล เทอร์โบ 490,000 บาท และดับเบิลแคบ 2.5 ดีไอ-ดี ไฮเพอร์ คอมมอนเรล เทอร์โบ 574,000 บาท ออโตเมติค บิสซิเนส ฯ เพิ่มศักยภาพ ABT 2 WAY วิบูลย์ ว่องศิลป์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโตเมติค บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์สัญญาณกันขโมย ABT 2 WAY ให้มีระบบความคุ้มครองที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยการเพิ่มฟังค์ชัน ULTRASONIC คือ ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในห้องโดยสาร ด้วยการผลิตคลื่นความถี่สูง 100 โมเลกุล ทั้งนี้จะทำให้เครื่องมีคุณสมบัติที่สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวทุกชนิดที่รุกล้ำเข้าสู่ห้องโดยสารแม้เพียงปลายนิ้ว โดยหลักการทำงานของระบบนี้คือ จะยิงคลื่นภายในรถยนต์ เพิ่มความถี่ เพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผ่านเข้ามาในรถ เมื่อโมเลกุลภายในรถมีการเคลื่อนไหว จะทำให้ทราบว่ามีการบุกรุกภายในห้องโดยสาร และไซเรนจะทำงาน ซึ่งรัดกุม และฉับไวเพิ่มขึ้น โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส ฯ เปิดบริการ "เติมใจ" ซิกเว บรัคเค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม พร้อมด้วย ธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ดีแทค จึงได้เปิดบริการใหม่ "เติมใจ" ที่ให้บริการพร้อมกับการสวนกระแสน้ำมันแพง คือ ราคาน้ำมันขึ้นเมื่อไร ลูกค้าก็จะได้รับข่าวดีจากแฮพพี ทำให้ลูกค้าลดความกังวลเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ และใช้เวลากับเรื่องที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตอื่นๆ ได้เต็มที่ ทั้งนี้ลูกค้าที่เติมเงิน ทั้งซิมเฮฮา และซิมรุ่นเล็ก หากเติมเงินในวันแรกที่ประกาศขึ้นราคาน้ำมันมูลค่าตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไป จะได้รับค่าโทรเพิ่มฟรี 30 บาท นอกจากนี้ยังยืดเวลาให้ลูกค้าได้รับสายได้นานขึ้นถึง 45 วัน เมื่อวันหมด และลูกค้ายังไม่สามารถเติมเงินได้ในช่วงนี้ก็จะยังสามารถโทรออกไปยังหมายเลขฉุกเฉินต่างๆ ได้ฟรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ฮอนดา พัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ ฮิโรชิ โทดะ ประธาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ไอ-วีเทค ในรถ ฮอนดา ซีวิค โฉมใหม่ ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ ซึ่งเครื่องยนต์ใหม่นี้ มีความโดดเด่นในด้านสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และความประหยัดน้ำม้นที่ดีขึ้น โดยใช้ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ วีเทค ที่สามารถควบคุมระยะเวลาการทำงานของวาล์ว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงการสตาร์ทเครื่องยนต์และเร่งความเร็ว ทำให้มีกำลังและแรงบิดในการขับเคลื่อน และจากการที่มีการหน่วงเวลาการปิดของวาล์วในช่วงที่ใช้ความเร็วคงที่ และในจังหวะที่เครื่องยนต์ไม่ต้องแบกภาระในการทำงานมากนัก จึงช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี การนำระบบควบคุมการทำงานของวาล์วมาใช้ ช่วยทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งในระดับแนวหน้าของเครื่องยนต์ประเภทเดียวกัน และมีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้นถึง 6 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 1.7 ลิตรในปัจจุบัน และทำให้เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลก โดยเครื่องยนต์นี้จะมีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงมากอยู่ในระดับเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมอื่นๆ เช่น ระบบท่อร่วมไอดีที่สามารถแปรผันความยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงเฉื่อยในการไหลของไอดีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และหัวฉีดน้ำมันเลี้ยงลูกสูบ ซึ่งจะช่วยหล่อเย็นให้กับลูกสูบและเป็นการป้องกันการชิงจุดระเบิด เครื่องยนต์นี้ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตร (17.7 กก.-ม.) อีกทั้งยังมีค่ามลพิษในไอเสียต่ำ ซึ่งเป็นผลมาจากระบบกรองไอเสียแบบ 2 ชั้น ที่ถูกติดตั้งใกล้กับท่อร่วมไอดี และระบบควบคุมอัตราส่วนการผสมของอากาศกับน้ำมันที่แม่นยำ โตโยตา วีออส เวอร์ชันใหม่ "AIM HIGHER" วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า การแนะนำ วีออส เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่ปรับโฉมภายใต้แนวคิด "AIM HIGHER" เปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ เป็นยิ่งกว่า เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ไปสู่ความล้ำหน้าอีกขั้นด้วยรูปลักษณ์ และความสะดวกสบาย สำหรับการเปลี่ยนโฉมครั้งนี้ เพิ่มความสปอร์ทด้วยกระจังหน้าดีไซจ์นสปอร์ท กันชนหน้าเพิ่มความโค้งมน รับกับตัวถัง ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวสะดุดตา พร้อมให้ทัศนวิสัยกว้างไกล ไฟท้ายดีไซจ์นสปอร์ท ไฟตัดหมอกหน้าตอบรับกับกันชนหน้า ล้ออัลลอยปัดเงา กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า เสาอากาศพับเก็บได้ พร้อมภายในใหม่ ที่หรูหรา เพิ่มความสะดวกสบายครบครัน นอกจากนี้ในรุ่น 1.5 สปอร์ท พิเศษด้วย ไฟหน้า HID หรือ (HIGH INTENSITY DISCHARGE) ที่ให้ความมั่นใจยิ่งกว่าในทุกทัศนวิสัย มาพร้อมกับ สเกิร์ทด้านหน้า/ข้าง และหลัง สปอยเลอร์หลัง สัญลักษณ์พิเศษเอกสิทธิ์เฉพาะรุ่น ไทยยามาฮ่า ฯ เปิดตัว สปาร์ค 135 ประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยความมั่นใจ และความพร้อมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบการขับขี่ที่เร้าใจ จึงได้เปิดตัว จักรยานยนต์ ยามาฮา สปารค์ 135 สุดยอดเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีความสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับรถครอบครัวที่มีอยู่ สำหรับ ยามาฮา สปาร์ค 135 รถครอบครัวสไตล์ซูเพอร์สปอร์ท มาพร้อมกับขุมพลัง นีโอ เทคโนโลยี เครื่องยนต์ 135 ซีซี 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 วาล์ว กระบอกสูบไดอซิล (DIASIL) พร้อมลูกสูบอลูมิเนียมแบบอัดขึ้นรูป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแรกของโลก ทั้งนี้ ยามาฮา สปาร์ค 135 จะเป็นสินค้าที่ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ และจะช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยบริษัทตั้งเป้าจำหน่ายไว้เดือนละ 6,000 คัน พร้อมกันนี้ เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าบริษัทได้เตรียมงบประมาณไว้ถึง 70 ล้านบาท สำหรับการโพรโมททั้งภาพรวมและกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส ยามาฮา สปาร์ค 135 ทั่วทั้งประเทศ เอสโซ่ ฯ จัดโครงการ "ESSO CHALLENGE 2006" วีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล กรรมการและผู้จัดการประชาสัมพันธ์ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ "ESSO CHALLENGE 2006" การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ปีนี้จะผนวกกับโครงการนักศึกษาฝึกงานภาคฤดูร้อน ภายใต้คอนเซพท์ "INNOVATIVE INTERNSHIP" สำหรับโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่นักศึกษาปีที่ 3 ด้วยการฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการเป็นบุคลากรคุณภาพ เพื่อแข่งขันในตลาดงานระดับสากล "ESSO CHALLENGE 2006"- "INNOVATIVE INTERNSHIP" เป็นโครงการฝึกอบรมนิสิต นักศึกษา ในระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 3 ให้มีความพร้อมในทุกด้านก่อนจะจบการศึกษา และสามารถก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพในการทำงานจริง รวมทั้งให้เกิดการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ เช่น ความเป็นผู้นำ การทำงานเป็นทีม การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การค้นคว้าวิจัยข้อมูล โดยมีผู้บริหารจากบริษัท เอสโซ่ ฯ และ บริษัทในเครือเอกซอนโมบิลประเทศไทย รวมถึงอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเป็นวิทยากร ซึ่งนักศึกษาจะได้เข้าฝึกอบรมเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจริงในองค์กร ส่วนโครงการนี้จะรับนักศึกษาเข้าโครงการเพียง 25 คน ใช้เวลาในการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 27 มีค. ถึง 31 พค. 2549 เอสจีเอส ฯ ขยายงานรองรับ ISO/TS 16949 ยุทธนา เพ็ชรมณี ผู้จัดการฝ่ายรับรองระบบงาน บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย บริษัทได้เปิดตัวมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่ ISO/TS 16949 ซึ่งเป็นมาตรฐานเพื่อรองรับทางด้านยานยนต์ในส่วนของการตรวจสอบและทดสอบโรงงานผลิตยานยนต์โดยเฉพาะ ทั้งนี้บริษัทยังได้รับการรับรองจากคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการรับรองระบบงาน NAC หรือ (NATIONAL ACCREDITATION COUNCIL) ในสาขาการรับรองคุณภาพ ISO 9000 & ISO 14001 ทำให้ปัจจุบันได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ผลิตยานยนต์ มีลูกค้าประมาณ 450-500 ราย ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมนี้ประมาณ 14 % ถือเป็นอันดับที่ 3 ของตลาด พร้อมคาดการณ์ว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์ จะต้องพยายามพัฒนาปรับปรุงคุณภาพสินค้า เพื่อรองรับการแข่งขันกับต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องรักษาการรับรองมาตรฐานรวมถึงการพัฒาให้ผ่านมาตรฐานใหม่ ดังนั้นด้วยบริการที่มีประสิทธิภาพของบริษัทที่ครอบคลุม 3 ส่วน คือ การตรวจสอบ การตรวจวิเคราะห์ และการตรวจรับรองระบบในธุรกิจยานยนต์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ผลิตและผู้ประกอบธุรกิจยานยนต์ทุกประเภททั่วโลก บริษัทจึงเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาให้ไทยเป็น ดีทรอยท์แห่งเอเชีย ด้วยการเตรียมเพิ่มบุคลากรในด้านผู้ตรวจประเมินที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะสามารถตรวจรับรอง ISO/TS 16949 เพื่อรองรับผู้ผลิตของไทยที่จะต้องปรับปรุงคุณภาพสินค้า เพื่อรักษาตลาดชิ้นส่วน อุปกรณ์รถยนต์ ให้สามารถแข่งขันได้กับต่างประเทศ ซังยง แนะนำ สตาวิค ALL WHEELS DRIVE วิรัตน์ ผลประดับ ประธานกรรมการ บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการรถ เอมพีวี ระดับหรู และจากความสำเร็จของการเปิดตัวรถ ซังยง สตาวิค แบบธรรมดา พร้อมทั้งก้าวเป็นผู้นำในตลาดรถ เอมพีวี ระดับหรู ดังนั้น บริษัทจึงได้เพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าด้วยการแนะนำ สตาวิค ALL WHEELS DRIVE ขนาดเครื่องยนต์ 2,700 ซีซี ดีเซล คอมมอนเรล ที่มีระบบ SMART TOD หรือ (TORQUE ON DEMAND) และ ESP หรือ (ELECTRONIC STABILITY PROGRAMME) สร้างสมรรถนะการขับขี่ควบคุมรถ เหมือนดังรถสปอร์ทซีดานสมรรถนะสูง พร้อมทั้งคาดว่า ภายในสิ้นปีจะมียอดขายทั้งสิ้น 450 คัน