ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า น้ำมัน "พีทีที แกสโซฮอล 95 พลัส" มีคุณสมบัติช่วยเพิ่ม ความสะอาดเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพ และระยะทางการใช้งาน ทำให้ประหยัดเงินของผู้บริโภคมากขึ้น โดย ปตท. ยังคงจำหน่ายน้ำมัน พีทีที แกสโซฮอล 95 พลัส ในราคาที่ถูกกว่าน้ำมันเบนซินออคเทน 95 ลิตรละ 1.50 บาท

ปตท. เปิดตัว "พีทีที แกสโซฮอล 95 พลัส" สูตรใหม่ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า น้ำมัน "พีทีที แกสโซฮอล 95 พลัส" มีคุณสมบัติช่วยเพิ่ม ความสะอาดเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพ และระยะทางการใช้งาน ทำให้ประหยัดเงินของผู้บริโภคมากขึ้น โดย ปตท. ยังคงจำหน่ายน้ำมัน พีทีที แกสโซฮอล 95 พลัส ในราคาที่ถูกกว่าน้ำมันเบนซินออคเทน 95 ลิตรละ 1.50 บาท ปัจจุบัน พีทีที แกสโซฮอล 95 พลัส มีจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.กว่า 1,000 จุด ซึ่งนับว่า ปตท. มีจำนวนจุดจำหน่ายแกสโซฮอลมากที่สุดในประเทศ และคาดว่าสิ้นปีนี้สถานีบริการน้ำมัน ปตท.จะมีจุดจำหน่ายแกสโซฮอลครบทุกแห่งทั่วประเทศ อภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมันและการค้าระหว่างประเทศ ปตท. กล่าวเพิ่มเติมว่า น้ำมัน พีทีที แกสโซฮอล 95 ช่วยเพิ่มการหล่อลื่นภายในกระบอกสูบ และผสมสารเติมแต่งชะล้างทำความสะอาดระดับมาตรฐาน TOP TIER GASOLINE ของสหรัฐอเมริกา ลดมลพิษในอากาศ ช่วยเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์ดีเยี่ยม เครื่องยนต์เดินเรียบเหมือนใหม่ ลดการซ่อมบำรุง เร่งแรง เพิ่มกำลังให้เครื่องยนต์ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าน้ำมันแกสโซฮอลทั่วไป 1-3 % ทำให้วิ่งได้ระยะทางเพิ่มมากขึ้น กระทรวงพลังงาน เปิดระบบท่อส่งน้ำมัน วิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดระบบท่อส่งน้ำมันมาบตาพุด-ศรีราชา ที่สถานีสูบจ่ายน้ำมันมาบตาพุดว่า รัฐบาลต้องการที่จะลดการขนส่งน้ำมันทางรถยนต์ และเปลี่ยนมาขนส่งทางท่อแทน ซึ่งคาดว่าจะเป็ส่วนหนึ่งในการลดใช้น้ำมันในภาคขนส่งที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายลดลง 25 % ในปี 2552 คิดเป็นเงินประหยัดถึง 95,000 ล้านบาท โดยระบบท่อส่งน้ำมันมาบตาพุด-ศรีราชา จะช่วยให้นโยบายดังกล่าวเป็นจริงมากขึ้น เพราะในแถบมาบตาพุดมีการผลิตน้ำมันถึง 300,000 บาร์เรล/วัน คิดเป็น 1 ใน 3 ของการผลิตในประเทศ คาดว่าจะช่วยลดจำนวนเที่ยวน้ำมันที่ขนส่งประมาณ 200,000 เที่ยว/ปี คิดเป็นเงินค่าน้ำมันที่ประหยัดได้ 150-200 ล้านบาท/ปี ทั้งนี้รัฐบาลจะสนับสนุนใช้ระบบท่อในการขนย้ายน้ำมันจากระยอง ชลบุรี ไปยังอ. ลำลูกกา จ. ปทุมธานี และสระบุรี ให้มากขึ้น พร้อมทั้งผลักดันให้บริษัทน้ำมันบางจาก และบริษัทน้ำมันอื่นๆ แลกเปลี่ยนน้ำมันกัน เพื่อแจกจ่ายให้กับปั๊มน้ำมันของตัวเอง เพราะขณะนี้บางจากต้องขนน้ำมันจากโรงกลั่นพระโขนง มายังจ. ระยอง เพราะไม่มีโรงกลั่นในขณะที่บริษัทน้ำมันอื่นๆ ก็จะขนน้ำมันจากระยองเข้าไปในกรุงเทพ ฯ ซึ่งถ้าเอกชนตกลงกันได้จะช่วยลดการขนส่งน้ำมันอย่างมาก ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (แทปไลน์) กล่าวว่า ท่อส่งน้ำมันมาบตาพุด-ศรีราชา เป็นโครงข่ายระบบท่อที่ต่อเชื่อมจากท่อศรีราชา-สระบุรี หรือท่อปัจจุบันใช้งบลงทุนรวม 1,400 ล้านบาท และในอนาคตกำลังจะเจรจาต่อ เพราะการขนส่งน้ำมันทางท่อจะช่วยลดการใช้น้ำมันในการขนส่งแล้ว ยังช่วยลดปัญหาการจราจรได้ด้วย จักรชัย บาลี กรรมการผู้จัดการ แทปไลน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทขาดทุนสะสมประมาณ 9,500 ล้านบาท หรือขาดทุนประมาณ 600-700 ล้านบาท/ปี มีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท/ปี ปัจจุบันการใช้ท่อขนส่งน้ำมันมีน้อยมากเพียง 35 % เท่านั้น ซึ่งหากในอนาคตมีการใช้ท่อขนน้ำมันเต็มที่ คาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า แทปไลน์ จะสามารถมีกำไร สามมิตร ฯ ร่วมทุน NONOX ยงยุทธ โพธิ์ศิริสุข รองประธานกรรมการ บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับ NONOX GAS ENGINES B.V. จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นเจ้าของเทคโนโลยีด้านการผลิตเครื่องยนต์ใช้แกสซีเอนจี ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถที่ใช้แกสซีเอนจี แบบเชื้อเพลิงเดี่ยว (DEDICATED) จัดตั้ง NETHAI GAS ENERGY CO., LTD NETHAI GAS ENERGY CO., LTD สามมิตร ฯ จะถือหุ้น 51 % และ NONOX ถือหุ้น 49 % โดยมีทุนจดทะเทียน 200 ล้านบาท วัตถุประสงค์หลักของบริษัทร่วมทุนจะผลิตและประกอบเครื่องยนต์ ใช้ ซีเอนจี สำหรับรถทุกประเภท วิจัยและพัฒนาระบบเครื่องยนต์ ซีเอนจี ให้เหมาะกับการใช้งานสำหรับรถทุกประเภท ทดสอบเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ควบของเครื่องยนต์ กระบวนการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเครื่องยนต์ที่ได้มาตรฐานสากล ที่สำคัญคือ มีการฝึกอบรมพนักงานทางด้านระบบปฏิบัติการ และการดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้ถูกวิธีเหมาะกับการใช้งาน รวมทั้งการบริการหลังการขายแบบครบวงจร สำหรับโรงงานที่จะทำการผลิตเครื่องยนต์ใช้ ซีเอนจี จะอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ลงทุนเริ่มต้นที่ 200 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทำการผลิตได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2549 โดยชิ้นส่วนที่นำมาผลิตจะนำเข้ามาจากต่างประเทศ 90 % ซึ่งบริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มชิ้นส่วนในประเทศมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าผลิตและประกอบเครื่องยนต์ภายใน 1 ปี 5,000 เครื่อง