พิเศษ
"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 22" ยิ่งใหญ่ และหลากหลายยิ่งขึ้น บนพื้นที่ 64,000 ตารางเมตร พร้อมมหกรรมการแสดงชิ้นส่วนยานยนต์ เทคโนโลยีการซ่อมบำรุง กิจกรรมบันเทิง และวิชาการต่างๆ ยังคึกคักเช่นเดิม
"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 22" ยิ่งใหญ่ และหลากหลายยิ่งขึ้น บนพื้นที่ 64,000 ตารางเมตร พร้อมมหกรรมการแสดงชิ้นส่วนยานยนต์ เทคโนโลยีการซ่อมบำรุง กิจกรรมบันเทิง และวิชาการต่างๆ ยังคึกคักเช่นเดิม
HALL 1-5
เวทีเปิดตัวรถรุ่นใหม่ใน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 22" มีค่ายรถยนต์เข้าร่วมแสดงอย่างคึกคักเช่นเคย แต่ละค่ายต่างก็จัดเตรียมรถทั้งรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัว และรถที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มาอวดโฉมกันมากมาย
เอาดี
เอาดี ทยอยปรับโฉมรถในค่าย เป็นแบบกระจังหน้าเต็ม สร้างจุดเด่นเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ เอาดี โดยเริ่มจาก เอ 6 3.0 กวัตตโร (A6 3.0 QUATTRO)
เอ 6 มีรูปทรงที่โค้งมน ลู่ลม ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ เอาดี เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าแบบเข้ารูป กระจังขนาดใหญ่ที่รวมเป็นชิ้นเดียวกับกันชน หลังคาโค้ง ท้ายเต็ม และไฟท้ายสีแดงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 24 วาล์ว ให้เลือก 2 ขนาด คือ 2.4 ลิตร 170 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า และ 3.0 ลิตร 219 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วน เอ 4 (A4) หรือ เอ 6 อาวันท์ (A6 AVANT) โฉมใหม่ จะมาด้วยหรือไม่ คงต้องไปลุ้นกันในงาน
เชฟโรเลต์
เชฟโรเลต์ พบแนวรุกตลาดใหม่ คือ รถ 5 ประตู สเตชันแวกอน หลังจากแนะนำ ออพทรา 1.6 เอสเตท (OPTRA 1.6 ESTATE) เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ไปเมื่อต้นปี และขายดีเกินหน้าเกินตารถ เอมพีวี ยอดนิยมอย่าง ซาฟีรา (ZAFIRA)
ปลายปีนี้ เชฟโรเลต์ จึงเสริมทัพด้วย ออพทรา 1.8 เอสเตท (OPTRA 1.8 ESTATE) ที่มีหน้าตาเหมือนกันแต่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร 122 แรงม้า กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ออพทรา เอสเตท มีประโยชน์ใช้สอยที่เหนือกว่ารุ่น 4 ประตูซีดาน โดยเฉพาะห้องโดยสารที่กว้างกว่า และมีพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระใกล้เคียงรถ เอมพีวี
ซีตรอง
ค่าย "จ่าโท" ซีตรอง จากฝรั่งเศส รถคันเด่นเป็นรถขนาดกลางที่คุ้นเคยกันดี เซ แซง (CITROEN C5) แต่ปรับโฉมหน้าใหม่
ภายนอกของตัวถังมีหลายจุดที่ปรับเปลี่ยนไปจากเดิม ที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดคือ ดวงโคมไฟหน้า จากไฟวงรีปลายแหลมมาเป็นไฟรูปบูเมอแรง แผงกระจังหน้า และแผงกันชนทั้งหน้า/หลัง
เครื่องยนต์เบนซิน รหัส EW10A แบบ 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร 143 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด 20.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ส่วนดีเซลเป็นขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ 110 แรงม้า รหัส DV6TED4 นั้นยังไม่แน่ ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ AUTO ADAPTIVE
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ รุ่น วี 6 สูบ ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
ฟอร์ด
ปีนี้ ฟอร์ด ดูท่าว่าจะสดใสกว่าทุกครั้ง เพราะไม่ได้แค่โชว์ตัวรถ โฟคัส (FOCUS) 4 ประตู รุ่นใหม่ ให้ได้ดูเท่านั้น ยังเป็นงานขายอีกด้วย
โฟคัส ที่ ฟอร์ด นำมาเป็นรถรุ่นที่ 2 ซึ่งพัฒนาใหม่หมด โดยเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก ที่ดูกว้างกว่ารุ่นเดิม เส้นแนวด้านข้างที่แน่นหนา และซุ่มล้อโป่งกว้าง
จุดน่าสนใจของ โฟคัส ใหม่ คือ ระบบแอร์ปรับอุณหภูมิแยกซ้าย/ขวาอิสระ และสามารถปรับระดับความเย็นอัตโนมัติผันแปรไปตามสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น ความร้อนจากแสงอาทิตย์ รูปแบบของระบบขับเคลื่อน ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ และความเร็วของเครื่องยนต์ ในรุ่น 1.8 กีอา และช่องแอร์หลัง วิทยุ/ซีดีพร้อมชุดเชื่อมต่อ I-POD ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และกุญแจรีโมท ที่ใช้เปิด/ปิดกระจกทั้ง 4 บานได้ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ โฟคัส ทุกรุ่น
โฟคัส ใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซินรุ่นล่าสุดในตระกูล ดูราเทค (DURATEC) 4 สูบ 16 วาล์ว 1.8 ลิตร 125 แรงม้า กับอัตโนมัติ 4 จังหวะ แบบสปอร์ท (SEQUENTIAL SPORT SHIFT) ที่เลือกเปลี่ยนเกียร์บวก/ลบ ได้ ในรุ่น 4 ประตู และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 145 แรงม้า ในรุ่น 5 ประตู
ฮอนดา
ค่ายรถยนต์นั่งอย่าง ฮอนดา ก็มีรถรุ่นใหม่ อย่าง ซิที เซดเอกซ์ (CITY ZX)/แจซซ์ (JAZZ) โฉมใหม่ แต่จุดน่าสนใจอยู่ที่ ซีวิค (CIVIC) รุ่นปี 2006 ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 8
ซีวิค ใหม่ รูปร่างหน้าตาคล้ายกับโมเดลที่ออกแบบสำหรับตลาดในทวีปอเมริกาเหนือ มีขนาดตัวรถยาว 4,490 มม. กว้าง 1,755 มม. สูง 1,435 มม. ยาว และกว้างขึ้น และมีช่วงฐานล้อยาว 2,700 มม. ซึ่งยาวกว่ารุ่นเดิมถึง 80 มม.
เครื่องยนต์ในรุ่นนี้ มีเพียงตัวเดียว คือ แบบ 4 สูบเรียง ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว วีเทคเหมือนเดิม ขยายความจุจาก 1.7 เป็น 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,300 รตน. และมีระบบเกียร์ให้เลือกใช้ 2 แบบ คือเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ
นอกจากรถตลาดแล้ว ฮอนดา ยังมีรถพันทางในโมเดลนี้ให้เลือกใช้อีกหนึ่งโมเดล คือ ซีวิค ไฮบริด (CIVIC HYBRID) ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 8 วาล์ว วีเทค ขนาด 1.3 ลิตร 110 แรงม้า ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 20 แรงม้า และถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (CVT)
แจกวาร์
เอกซ์เจ 6 รุ่นช่วงยาว (XJ6 LWB) เป็นตัวเด่นในค่าย รถหรูจากผู้ดีอังกฤษ แจกวาร์ (JAGUAR)
แจกวาร์ เอกซ์เจ 6 ใช้โครงสร้างตัวถังอลูมิเนียมแบบโมโนคอก น้ำหนักเบา ที่มีเพียง 1,569 กก. โดยรุ่นช่วงยาวนี้ มีการขยายฐานล้อเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ 125 มม. ทำให้ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน
เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเบนซิน วี 6 สูบ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 219 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ของ เซดเอฟ (ZF) และระบบรองรับแบบถุงลม
แจกวาร์ ติดตั้งระบบความปลอดภัยใหม่ ARTS ที่มีการรับข้อมูลจากเซนเซอร์รับแรงกระแทกรอบตัวรถ ซึ่งทำงานรวมกับเซนเซอร์ตรวจจับน้ำหนักบนเบาะนั่ง และการคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อคำนวณการจุดระเบิดของถุงลมนิรภัย
แลนด์ โรเวอร์
ค่ายนี้มีแต่ เอสยูวี ระดับพรีเมียม นอกจาก ดิสคัฟเวอรี 3 (DISCOVERY 3) ทั้งรุ่น ดีเซล ทีดี วี 6 และเบนซิน วี 8 แล้ว แลนด์ โรเวอร์ มี เอสยูวี คันแรง เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ท (RANGE ROVER SPORT) มาร่วมงานด้วย
กล่องเหล็กรุ่นใหม่ มีเสน่ห์ตรงรูปทรงเป็นเหลี่ยมสันดูแน่นหนา และเส้นแนวแบบเรขาคณิตบนตัวรถที่เด่นชัดกว่า เรนจ์ โรเวอร์ (RANGE ROVER)
โคมไฟสี่เหลี่ยมหน้า/หลังขนาดใหญ่กับไฟทรงกลม กระจังหน้า และช่องหายใจด้านข้าง ล้อขนาดใหญ่ถึง 19 นิ้ว มีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 แบบ คือ เบนซิน ควอดแคม วี 8 สูบ 32 วาล์ว ขนาด 4.4 ลิตร 295 แรงม้า ในรุ่น วี 8 ขนาด 4.2 ลิตร ติดซูเพอร์ชาร์จ 390 แรงม้า และดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ วี 6 สูบ ขนาด 2.7 ลิตร 190 แรงม้า ที่ให้แรงบิดสูงถึง 44.8 กก.-ม. ในรอบ 1,900 รตน. ในรุ่น ทีดี วี 6 พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ TERRAIN RESPONSE ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมทั้ง 4 ล้อ
เลกซัส
ค่าย เลกซัส พี่น้องของ โตโยตา ปีนี้ ยังคงเน้นที่รถยนต์นั่งระดับหรู จีเอส-ซีรีส์ (GS-SERIES) หรือ โตโยตา อริสโต (TOYOTA ARISTO) ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการวางตัวไว้เป็นคู่แข่งของ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5
เลกซัส จีเอส-ซีรีส์ รุ่นนี้เป็นรถรุ่นที่ 3 เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ เมื่อเดือนมกราคม 2004
เลกซัส จีเอส-ซีรีส์ ใหม่ แม้จะอยู่ในรูปแบบตัวถังซีดาน 5 ที่นั่ง แต่รูปทรงลู่ลม มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.27
สำหรับรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายมีเพียง จีเอส 300 (GS 300) ที่ใช้เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ ขนาด 3.0 ลิตร 249 แรงม้า ตัวเดียว ส่วนตัวแรงอย่าง จีเอส 430 (GS 430) ที่ใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ ขนาด 4.3 ลิตร 283 แรงม้า นั้นเจอภาษีหนักเลยต้องร้องเพลงรอไปก่อน
มาซดา
ซูม...ซูม...ซูม ถ้านึกถึง โรดสเตอร์ รถสปอร์ทเปิดประทุนขนาดเล็ก ทุกคนรู้จัก มาซดา เอมเอกซ์-5 (MX-5) ในครั้งนี้ มาซดา เปิดตัว เอมเอกซ์-5 รุ่นใหม่
เอมเอกซ์-5 ใหม่ ออกแบบอย่างเรียบง่ายคล้ายรุ่นที่แล้ว ไฟหน้าเล็กลง แต่เน้นขอบล้อให้มีขนาดใหญ่และเด่นชัดยิ่งขึ้น มีฐานล้อที่ยาวขึ้น 65 มม. และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ภายในตกแต่งด้วยอลูมิเนียม เพิ่มความหรู และมีพวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการควบคุมเครื่องเสียง
เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นแบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว ขนาด 1.8 ลิตร 124 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
สมรรถนะที่แจ้งไว้ คือ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 209 กม./ชม.
มิตซูบิชิ
ปีนี้นอกจาก ทไรทัน (TRITON) รถพิคอัพสายพันธุ์ใหม่ของค่าย มิตซูบิชิ ที่ฉีกแนวคิดเดิมๆ ด้วยรูปลักษณ์ล้ำยุคกว่าคู่แข่ง มิตซูบิชิ ยังมี สเปศ แวกอน (SPACE WAGON) เอมพีวี ที่ขายดีตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
จุดเด่นในงานยังคงเป็น ทไรทัน รุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ โดยเน้นที่ รุ่น 3.2 ดับเบิลแคบ 2.5 ดับเบิลแคบ และ 2.5 เมกาแคบ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ดีไอ-ดี ไฮเพอร์ คอมมอนเรล ดับเบิลโวเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้าและ 140 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วน แลนเซอร์ (LANCER) ซีดานรุ่นเล็ก 1.6 ลิตร ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (CVT) 6 จังหวะ และ 1.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ INVECS II ก็คงกลายเป็นแค่เพียง ดาวประดับ เท่านั้น
นิสสัน
นิสสัน มีทีเด็ดมาเรียกความสนใจ คือ มูราโน (MURANO) เอสยูวี หรู ผลงานการออกแบบจากสตูดิโอ นิสสัน ดีไซจ์น อเมริกา (NDA: NISSAN DESIGN AMERICA)
โครงสร้างที่ออกแบบใหม่หมด พร้อมกับเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่อยู่ภายใต้ฝากระโปรงของ 350 เซด เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ 24 วาล์ว เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ ความจุ 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 231 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด 32.4 กก.-ม. ที่ 3,600 รตน.
แม้ว่าจะเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ มูราโน ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบปรับอัตราทดต่อเนื่อง (CVT) 6 จังหวะ ทำงานควบคู่กับระบบทิพทรอนิค
ซาบ
1 ใน 2 ค่ายรถยนต์จากสวีเดน ที่มีจุดเด่นเรื่องเครื่องยนต์ติดเทอร์โบ เตรียมแนะนำ ซาบ 9-3 รุ่นใหม่ ในตัวถังแบบที่ 3 ซึ่งเป็นตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์
ซาบ 9-3 ตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ มีชื่อเรียกเฉพาะว่า 9-3 สปอร์ท แวกอน (9-3 SPORT WAGON) ในอังกฤษ และใช้ชื่อ 9-3 สปอร์ท คมบี (9-3 SPORT COMBI) สำหรับประเทศอื่นๆ ในยุโรป
ตัวถัง 5 ประตูทรงสองกล่อง ยาว 4,654 มม. กว้าง 1,762 มม. และสูง 1,507 มม. ซึ่งดัดแปลงจากตัวถังซาลูน มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.33
เครื่องยนต์เบนซินหลักเป็นแบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ เทอร์โบ 2.0 ลิตร ซึ่งให้กำลังตั้งแต่ 150 กับ 175 ไปจนถึง 210 แรงม้า และเทอร์โบ วี 6 สูบ 2.8 ลิตร 230 กับ 250 แรงม้า ระบบส่งกำลัง ก็มีให้เลือกใช้ทั้ง เกียร์อัตโนมัติ 5 และ 6 จังหวะ
ซังยง
ในกลุ่มรถยนต์จากเกาหลี ซังยง (SSANGYONG) ถือว่าเป็นผู้นำทั้ง รถยนต์นั่ง และ เอสยูวี ระดับหรู อย่าง แชร์แมน (CHAIRMAN) เรกซ์ตัน (REXTON) รวมไปถึง สตาวิค (STAVIC) รถอเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ซึ่งในปีนี้มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาเพิ่มอีกหนึ่งรุ่น
ส่วนรถใหม่ในงาน คือ ไครอน (KYRON) รถ เอสยูวี รุ่นล่าสุดของ ซังยง ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัย ล้ำอนาคตกว่า สตาวิค
ซังยง นำเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล สมรรถนะสูง เอกซ์ดีไอ 270 แบบ 5 สูบเรียง เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ขนาด 2.7 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 34.9 กก.-ม. ตั้งแต่ 1,800- 3,250 รตน. ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 จังหวะ สามารถเลือกจังหวะบวกหรือลบได้ทันทีที่ต้องการ พร้อมทั้งโหมด W (WINTER) สำหรับทางลื่น และ S (SPORT) ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบ 2 ล้อหน้า และ 4 ล้อ
ซูบารุ
ค่าย ซูบารุ นอกจาก อิมพเรซา (IMPREZA) และฟอเรสเตอร์ (FORESTER) โฉมใหม่ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์สูบนอน 2.5 ลิตร 230 แรงม้า และ เอาท์แบค (OUTBACK) รถยนต์ในสไตล์ "ครอสส์โอเวอร์" (CROSSOVER) ยังเพิ่มทางเลือกใหม่ ด้วย มีนี คาร์ (MINI CAR) จากเมืองปลาดิบ ผลงานใหม่ของ ฟูจิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ (FUJI HEAVY INDUSTRIES) ถึง 2 รุ่น คือ ซูบารุ อาร์ 1 (SUBARU R1) กับ ซูบารุ อาร์ 2 (SUBARU R2)
ความแตกต่างของรถ 2 อนุกรมนี้อยู่ที่ว่า ซูบารุ อาร์ 2 เป็นรถ 5 ประตู ซึ่งมีขนาดตัวถังยาว 3,395 มม. กว้าง 1,475 มม. และสูง 1,520 มม. ส่วน ซูบารุ อาร์ 1 เป็นรถ 3 ประตู มีขนาดตัวถังสั้นกว่า อาร์ 2 อยู่ 110 มม.
อาร์ 1 และ อาร์ 2 ใช้เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบเรียง 658 ซีซี 54 แรงม้า รหัส EN07 หรือระบบเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (CVT) ที่ปรับอัตราทดตั้งแต่ 2.432-0.442 เหมือนกัน
ซูซูกิ
เอพีวี รถอเนกประสงค์ 8 ที่นั่ง เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 125 แรงม้า ที่ใช้ตัวการ์ตูน "โดราเอมอน" (DORAEMON) เป็นตัวแทนความอเนกประสงค์ ยังคงขายดีในยุคนี้ ยุคที่น้ำมันแพง แต่ค่าย ซูซูกิ ก็มีผลงานรถกิจกรรมกลางแจ้ง เอสกูโด (ESCUDO) หรือ วีทารา (VITARA) รุ่นใหม่ ออกมาให้ได้ชื่นชมกัน
วีทารา รุ่นใหม่ มีตัวถังให้เลือกเพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 5 ประตูทรงสองกล่อง ยาว 4,390 มม. กว้าง 1,810 มม. สูง 1,695 มม.
โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกเพียงขนาดเดียว คือ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 145 แรงม้า รหัส J20A ส่วนระบบส่งกำลังเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
โตโยตา
ยักษ์ใหญ่อย่าง โตโยตา ไม่ยอมใคร เผยรถใหม่ หลากหลายรุ่น ทั้งซีดานขนาดเล็กอย่าง วีออส (VIOS) โฉมใหม่ วิช (WISH) รถ เอมพีวี ยอดนิยม รุ่นใหม่ แล้ว ยังมีข่าวว่าจะมี วิทซ์ (VITZ) หรือ ยาริส (YARIS) ในยุโรป คู่แข่งสำคัญคือ ฮอนดา แจซซ์ มาผลิตขายในบ้านเรา
โตโยตา วิทซ์ ที่จะออกจำหน่ายในบ้านเรา เป็นรถรุ่นที่ 2 ที่เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีตัวถังเพียงแบบเดียว 5 ประตูแฮทช์แบค ซึ่งมีขนาดโตกว่ารุ่นเดิม และยาวขึ้นถึง 90 มม.
เครื่องยนต์น่าจะเป็น แบบ 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว ขนาด 1.3 ลิตร 87 แรงม้า รหัส 2NZ-FE หรือขนาด 1.5 ลิตร 109 แรงม้า รหัส 1NZ-FE ส่วนเครื่องยนต์ตัวเล็ก 1.0 ลิตร 3 สูบเรียง 71 แรงม้า รหัส 1KR-FE นั้น คงเป็นตัวเลือกสุดท้าย ระบบเกียร์มีให้เลือกถึง 3 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (CVT)
โฟล์คสวาเกน
ค่ายนี้ เน้นที่ตัว คาราเวลล์ (CARAVELL) ใหม่ รุ่น ที 5 (T5) เป็นเวอร์ชันล่าสุด พร้อมๆ กับเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ 2.5 ลิตร เทอร์โบ 174 แรงม้า และ 3.2 ลิตร วี 6 235 แรงม้า เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
บริษัท ยนตรกิจ อินเตอร์เซลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย โฟล์คสวาเกน ร่วมกับทีมวิศวกรของ โฟล์ค ฯ ปรับเปลี่ยนห้องโดยสารของรถตู้ 15 ที่นั่ง ให้เป็นรถตู้ระดับ วีไอพี สำหรับผู้บริหาร และครอบครัวถึง 3 รูปแบบ ประกอบด้วย แกรนด์ วีไอพี เอกเซคิวทีฟ และ ซูเพอร์ ทัวริง ให้เลือกใช้
โวลโว
ค่าย โวลโว ที่ปรับตัวให้รับกับปัญหาน้ำมันแพงในปัจจุบัน ด้วยการใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 แทน 2.3 ลิตร ไม่ว่าจะเป็น เอส 60/เอส 80 รวมทั้ง วี 70
รูปร่างหน้าตาของ เอส 60/เอส 80 และ วี 70 รุ่น 2.0 ที ไม่แตกต่างจากรุ่นเดิม ยกเว้น โคมไฟหน้า/หลังที่ใช้เลนส์ใส
เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ แบบ 5 สูบเรียง 20 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร 180 แรงม้า ที่ปรับปรุงจากเครื่องยนต์ของ 2.0 ลิตร ใน เอส 60 เดิม ส่งกำลังมาเร็วและต่อเนื่อง คันเร่งที่เบาแรงขับสบายและสนุก แม้ว่าจะเป็นคุณผู้หญิง
ในเรื่องสมรรถนะนั้น สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม. ในเวลาเพียง 9.5 วินาที ใกล้เคียงกับรุ่น ที 5 (T5) 250 แรงม้า และรุ่น 2.3 ที (2.3 T) 192 แรงม้า
เอสอีซี กรุพ
ผู้นำเข้าอิสระรายใหญ่ที่สุดของเมืองไทย เตรียมแนะนำ แฮร์ริเออร์ ไฮบริด (HARRIER HYBRID) รถกิจกรรมกลางแจ้ง ขับเคลื่อนด้วยระบบ HYBRID ที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งในญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
แฮร์ริเออร์ ไฮบริด หรือ เลกซัส อาร์เอกซ์ 400 เอช (LEXUS RX400H) ในญี่ปุ่น ยังคงอยู่ในตัวถัง 5 ประตูทรงสองกล่อง ยาว 4,755 มม. กว้าง 1,845 มม. และสูง 1,690 มม.
เครื่องยนต์เพียงขนาดเดียว คือ 3.0 ลิตร วี 6 สูบ 3.3 ลิตร บลอคเดียวกับที่ใช้อยู่แล้วในรถ เลกซัส อาร์เอกซ์ ที่จำหน่ายในตลาดอเมริกาเหนือ แต่ปรับแต่งทำให้ได้กำลังสูงสุดต่ำกว่าเดิมประมาณร้อยละ 10 อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์นี้ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยทำงานอีก 3 ชุด ทำให้ได้กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 272 แรงม้า
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวแรก ซึ่งเพิ่มแรงขับเคลื่อนของล้อคู่หน้า ให้กำลังรวม 167 แรงม้า เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับสามเฟส รับกำลังไฟฟ้าจากหม้อแบทเตอรี นิกเคิล-เมทัล ไฮดไรด์ (NICKEL-METAL HYDRIDE) ขนาด 9.6 โวลท์ จำนวน 30 ชุด ส่วนมอเตอร์ตัวที่สามซึ่งเพิ่มแรงขับเคลื่อนของล้อคู่หลัง ก็เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส เช่นกัน แต่ให้กำลังเพียง 68 แรงม้า ที่ 4,610-5,120 รตน.
ในการขับทดสอบบนทางหลวงที่ใช้ความเร็วระดับ 120-130 กม./ชม. เป็นระยะทางประมาณ 600 กม. ปรากฏว่า แฮร์ริเออร์ ไฮบริด มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 11.7 กม./ลิตร ในขณะที่รถรุ่นสามัญทำได้ 11.1 กม./ลิตร เป็นตัวเลขที่ไม่แสดงให้เห็นความแตกต่างได้มากนัก แต่ที่น่าสนใจก็คือ ผลการวิ่งทดสอบในเขตตัวเมือง ซึ่ง แฮร์ริเออร์ ไฮบริด ทำได้ดีระดับ 7.4 กม./ลิตร ในขณะที่รถรุ่นสามัญทำได้แค่ 5.9 กม./ลิตร
คนรักรถเมืองยุ่นเลือกใช้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่รถขนาดเล็กอย่าง โมบิลีโอ (MOBILIO) และเอดิกซ์ (EDIX) ไปจนถึงรถขนาดใหญ่อย่าง เอลีชัน (ELYION) และที่คาดว่าจะตามมาด้วย ก็เป็นรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ แอร์เวฟ (AIRWAVE)
บราบัส
บราบัส (BRABUS) เตรียมเปิดตัวรุ่น เอส-คลาสส์ (S-CLASS) รุ่นใหม่ รุ่นที่ 6 เสริมทัพ
เอส-คลาสส์ รุ่นล่าสุด เป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานออกแบบที่มี เพเทร์ พไฟเฟร์ (PETER PFEIFFER) เป็นผู้กำกับดูแล
เอส-คลาสส์ รุ่นใหม่ มีขนาดตัวโตกว่ารถรุ่นเดิมเล็กน้อยในทุกมิติ ในรุ่นมาตรฐาน ฐานล้อก็ขยายจาก 2,965 มม.เป็น 3,035 มม. ยาวขึ้น 70 มม. ส่วนรุ่นช่วงยาว ก็เพิ่มจาก 3,085 มม.เป็น 3,165 มม. ยาวกว่าเดิมถึง 80 มม. สำหรับพื้นที่เก็บของท้ายรถ ทั้ง 2 แบบ มีขนาดความจุ 560 ลิตร เพิ่มขึ้น 60 ลิตร
รูปทรงภายนอกมีรายละเอียดที่น่าสนใจกว่ารถรุ่นก่อนอยู่หลายจุด ดวงโคมไฟหน้าขนาดโต และโอบไปทางด้านข้าง กับบังโคลนที่ตีโป่งขึ้นขอบคล้ายกับรถ มาซดา อาร์เอกซ์-8 (MAZDA RX-8)
เอส-คลาสส์ รุ่นใหม่ ประเดิมด้วย เอส 350 (S350) เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 24 วาล์ว ความจุ 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า กับ เอส 400 (S400) เครื่องยนต์ใหม่ วี 8 สูบ 32 วาล์ว ความจุ 5.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 388 แรงม้า ตามมาด้วย เอส 600 (S600) ที่ใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ วี 12 สูบ ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 36 วาล์ว ความจุ 5.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 517 แรงม้า
รอพบและสัมผัสรถยนต์เหล่านี้ ได้ภายในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 22 " ที่ อิมแพคท์ เมืองทองธานี
เรื่องโดย : ธนสาร เสาวมล
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2548
คอลัมน์ Online : พิเศษ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8249