ทั่วไป
"สุรา แปลว่าเหล้ากินแล้วเมาก็เดินโซเซ" เป็นวลีฮิทติดปากของคอสุราที่ได้พบได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ของพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ร่ำสุรากันเข้าไปจนกรึ่มได้ที่แล้ว สมัยก่อนโดยเฉพาะในฉากภาพยนตร์ไทยที่มีคนเมาเดินทิ่มไปทางซ้ายทีทางขวาที ในมือก็หิ้วขวดสุราดวดไปเรื่อยจนกว่าจะถึงบ้าน ทะเลาะกับคนโน้นทีคนนี้ทีหรือเมาพับหลับไป
"สุรา แปลว่าเหล้ากินแล้วเมาก็เดินโซเซ" เป็นวลีฮิทติดปากของคอสุราที่ได้พบได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ของพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ร่ำสุรากันเข้าไปจนกรึ่มได้ที่แล้ว สมัยก่อนโดยเฉพาะในฉากภาพยนตร์ไทยที่มีคนเมาเดินทิ่มไปทางซ้ายทีทางขวาที ในมือก็หิ้วขวดสุราดวดไปเรื่อยจนกว่าจะถึงบ้าน ทะเลาะกับคนโน้นทีคนนี้ทีหรือเมาพับหลับไป
แต่ปัจจุบันเป็นยุคคิดใหม่ทำใหม่ วัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงวัยชราที่ยังพอกรึ๊บไวที่ยังอินทเรนด์ก้าวทันยุคทันสมัยมีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์ส่วนตัว จะหรูมากหรือหรูน้อยก็แล้วแต่ เปลี่ยนวลีฮิทเสียใหม่แล้วกลายเป็น "สุรา แปลว่าเหล้า เมาแล้วเดี๋ยวถูกเป่าลูกโป่ง" ซึ่งหากพบมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกายเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนด ก็ต้องถูกจับดำเนินคดีเสียเงิน เสียเวลา แล้วยังต้องไปบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อีกต่างหาก
ซึ่งมาตรการนี้ก็ช่วยลดปัญหาสังคมที่เกิดจากการเสพสุราได้พอสมควร โดยเฉพาะปัญหาอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงหน้าเทศกาลวันหยุดยาว ซึ่งพี่น้องประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาปักหลักทำมาหากินอยู่ในกรุงเทพ ฯ เมืองฟ้าอมร จะชักชวนกันกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนของตนอย่างพร้อมเพรียงกันจนการจราจรเส้นทางที่ออกนอกเมืองติดขัดกันไปทั่ว
นี่ยังไม่รวมเทศกาลงานรื่นเริงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นของชาติใด ศาสนาใด พี่ไทยเราก็เมามันได้ทุกเทศกาลนั่นแหละ จนส่งให้ประเทศไทยของเราติดอันดับต้นๆ ของชนชาติที่มีผู้นิยมเสพสุรามากที่สุดในโลกไปแล้ว น่าชื่นใจจริงๆ
แต่ปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดจากการดื่มสุรา ก็ใช่ว่าจะหมดไปอย่างสิ้นเชิง หรือได้รับการตอบสนองจากฝ่ายผู้นิยมเสพสุราเท่าใดนัก ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลเข้าพรรษามีการรณรงค์ทางสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสิ่งพิมพ์ ให้งด ลด เลิก เหล้าในช่วงเข้าพรรษานี้ ถ้าสำรวจกันจริงๆ แล้ว จากจำนวนผู้เสพสุราเป็นอาจิณทั่วประเทศ คงมีไม่ถึงครึ่งที่ปรับตัวเข้ากับหน้าเทศกาลงานบุญนี้ ส่วนใหญ่ก็ยังคงเสพกันต่อไป เพียงแต่ให้มันประเจิดประเจ้อน้อยลงหน่อย
ดังจะเห็นได้จากเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีผลงานชิ้นโบว์แดงจากผู้เสพสุราจนขาดสติ เมาแล้วขับควบคุมรถไม่อยู่ พุ่งเข้าไปชนรถของเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ จนได้รับบาดเจ็บทั้งสาหัส และไม่สาหัสกันไปตามๆ กัน ผลงานเกียรติยศชิ้นนี้ได้รับการรายงานต่อไปยังต่างประเทศอย่างชื่นชม
ไม่นับคดีทำร้ายร่างกาย พ่อเตะลูก ผัวซ้อมเมีย และคดีมะโนสาเร่อื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นเป็นหัวข้อข่าวบนหนังสือพิมพ์รายวันอีก
เรื่องของสุรา นอกจากจะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดการสูญเสียทางด้านชีวิต ทรัพย์สินแล้ว สุรายังก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับหนึ่งด้วยการทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งทางด้านของความคิดขึ้นมาอีกประเด็นหนึ่งในสังคมบ้านเรา
ฝ่ายหนึ่ง นั่นคือ บริษัท ผู้ผลิตเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ยักษ์ใหญ่รายหนึ่งของประเทศไทยจะนำบริษัทของตัวเองเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการระดมทุนที่มีอยู่มหาศาลในตลาดหลักทรัพย์มาขยับขยายกิจการของบริษัทให้เจริญรุ่งเรืองนำชื่อเสียงมาสู่ตนเองและประเทศชาติต่อไปในอนาคต
อีกฝ่ายคือฝ่ายผู้คัดค้าน ซึ่งก็ประกอบไปด้วยคณะบุคคลหลายฝ่ายทั้งที่มีองค์กรสังกัดและไม่มีองค์กรสังกัด
ทั้งสองฝ่ายต่างก็งัดเอาความคิดเห็นของตนเองขึ้นมานำเสนอต่อสาธารณชนโดยผ่านทางสื่อสารมวลชนต่างๆ โดยจะมีคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นผู้พิจารณาตัดสินว่าเหตุผลของฝ่ายใดดีกว่ากัน ถ้าฝ่ายเสนอดีกว่าก็จะได้คำว่า (มหาชน) ไปต่อท้ายชื่อเดิม ถ้าฝ่ายคัดค้านดีกว่า มีแรงหนุนมากกว่าคำเสนอของฝ่ายนักธุรกิจก็ตกไป
ฝ่ายที่ต้องการนำบริษัทเข้าไประดมทุนในตลาดหุ้นก็ว่า บริษัทไม่ได้มุ่งแต่จะทำธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียว เงิน รายได้ส่วนหนึ่ง (ไม่รู้มากหรือน้อย) ยังนำไปใช้เป็นสาธารณกุศลทั้งในด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยวิบัติจากเหตุธรรมชาติต่างๆ ส่งเสริมทางด้านการศึกษา การกีฬา การรักษาสภาพแวดล้อม รวมไปถึงถ้าบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ ก็จะมีการขยายกิจการออกไปยังต่างประเทศให้มากขึ้นเพื่อนำรายได้เข้าประเทศให้มากขึ้น เศรษฐกิจของประเทศก็จะดีขึ้น มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักได้รับการนับหน้าถือตาในอารยประเทศมากยิ่งขึ้น
ส่วนฝ่ายคัดค้านที่มาจากมากมายหลายองค์กรรวมทั้งประชาชนทั่วไป นักวิชาการ พระสงฆ์องค์เจ้า โดยมีแกนนำที่ประกาศคัดค้านการนำบริษัทเหล้าเข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างหัวลิ่มทิ่มประตูไม่มีการถอยหลังโดยเด็ดขาด ที่ชื่อท่ามหาจำลอง หรือ พลตรีจำลอง ศรีเมือง (ขออนุญาตที่ต้องเอ่ยนาม) ฝ่ายนี้เป็นฝ่ายที่มีพลังมวลชนมากกว่า แต่กำลังทรัพย์รวมกันแล้วน่าจะน้อยกว่า มีการระดมผู้มีความคิดที่เห็นด้วยร่วมเดินขบวนคัดค้านไปยังที่ทำการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยแพร่ผลเสียของการนำบริษัทเหล้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่มีตัวอย่างเป็นรูปธรรมตีแผ่ถึงชีวิตของบุคคลที่สามที่ต้องสูญเสียโอกาสจากอันตรายของอุบัติเหตุที่เกิดจากผู้เสพสุรา ค่าของชีวิตที่ตกต่ำจากการตกเป็นทาสสุรายาเมา ตลอดจนความเสียหายที่จะตามมาในอนาคต
ผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายมีชัยได้เฮกัน ขณะที่เขียนต้นฉบับนี้ยังไม่มีการตัดสินใจอย่างแน่ชัด จากคณะกรรมการกำกับและดูแลตลาดหลักทรัพย์ แต่ในยกแรกได้รับข้อคิดเห็นจากฝ่ายคัดค้านไปประกอบการตัดสินใจกนไปแล้ว พร้อมทั้งสั่งเลื่อนการประชุมพิจารณาออกไปก่อน
ฝ่ายหนึ่งเป็นการมองในแง่ของนักธุรกิจ
อีกฝ่ายหนึ่งก็ว่าด้วยเรื่องคุณธรรม จริยธรรม
ก็รอดูกันไปยาวๆ เพราะถึงขั้นนี้แล้วคงไม่มีฝ่ายใดยอมยกธงขาวก้าวลงจากสังเวียนกันง่ายๆ
ถ้าฝ่ายแรกได้รับการอนุมัติให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ คงวังเวงดีพิลึก คงจะมีการสร้างงานกระจายได้สู่ชุมชนได้พอสมควรจากการสร้างโรงงานใหม่ ว่าจ้างพนักงานเพิ่มเติม มีสุรา และเบียร์ออกมาจำหน่ายมากยิ่งขึ้น คงจะได้เห็นการนำเศษเงินจากรายได้มหาศาลมาสร้างสาธรณกุศลกันอีกมากมาย รวมไปถึงการโฆษณา ประชาสัมพันธ์เน้นถึงการตระหนักและเห็นคุณค่าของสังคม ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บริษัท ถ้าตระหนักกันจริงก็เอาแค่เท่าที่มีอยู่ก็พอ
แต่ถ้าฝ่ายหลังเป็นฝ่ายชนะก็ต้องขออนุโมทนา สาธุ ด้วย เพราะโทษของสุรายาเมานี้ มีการเผยแพร่ให้เห็นกันอย่างมากมาย ทั้งจากพรีเซนเตอร์ที่ต้องรับเคราะห์ที่ตัวเองไม่ได้ทำอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น บทลงโทษต่อผู้ฝ่าฝืนก็มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน
ก็อีกนั่นแหละผู้ที่ฝ่าฝืนชอบคิดว่าตัวเองแน่ ตูไม่มาว ตูไม่มาว แล้วก็ไปสร้างปัญหาให้แก่สังคมล้วนแล้วแต่บรรลุนิติภาวะแล้วทั้งนั้น เข้าข่ายเป็นไม้แก่ ซึ่งถึงไม่บังคับให้ต้องเลิกดื่ม แต่อีกไม่นานก็ต้องร่วงโรยหมดสภาพไปตามกาลเวลา สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือบรรดาลูกเด็กเล็กแดงที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังของชาติในอนาคต อย่าปลูกฝังค่าความนิยมผิดๆ ให้พวกเขานักเลย อย่าให้พวกเขาต้องชื่นชมขมขื่นกับสิ่งที่ท่านบริจาค โดยที่มาของสิ่งของที่บริจาคเป็นส่วนหนึ่งของรายได้ที่เป็นสาเหตุทำให้ครอบครัวของเขาต้องแตกแยก บุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัวต้องพิกลพิการทำมาหาเลี้ยงชีพตามปกติไม่ได้
นี่ขนาดยักษ์ใหญ่บริษัทเหล้าทำเรื่องขอเข้าตลาดหลักทรัพย์เพียงบริษัท ถ้าบริษัทที่ทำธุรกิจประเภทเดียวกันที่เหลือแห่กันมาเข้าตลาดหลักทรัพย์อีก ประเทศไทยคงสนุกกันพิลึก การแข่งขันทางธุรกิจประเภทนี้ต้องดุเดือดเลือดพล่านมากกว่านี้ คนที่ได้รับผลบุญก็คือประชาชนคนไทย และผู้มาเยือนที่จะได้ดื่มกันอย่างเพลิดเพลิน โดยไม่ต้องสั่งกับแกล้ม แค่กินไปดื่มไปแล้วดูบรรดาโฆษณาที่สวยงาม สร้างภาพพจน์ ยกระดับสังคมไทย แค่นี้ก็เมาจนเลี่ยนจะตายอยู่ไม่อยู่แล้ว
เรื่องโดย : "หลวงเลียบเมือง"
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กันยายน ปี 2548
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/8173