กิจกรรมการแข่งขันรถยนต์แรลลีต้องถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทรงความสำคัญระดับโลก และมีความยิ่งใหญ่ไม่แตกต่างอะไรกับการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 หรือ ฟอร์มูลา วัน ซึ่งถือกันว่าเป็นการแข่งขันรถยนต์ระดับสุดยอดของโลกยานยนต์เลยทีเดียว

กิจกรรมการแข่งขันรถยนต์แรลลีต้องถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทรงความสำคัญระดับโลก และมีความยิ่งใหญ่ไม่แตกต่างอะไรกับการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 หรือ ฟอร์มูลา วัน ซึ่งถือกันว่าเป็นการแข่งขันรถยนต์ระดับสุดยอดของโลกยานยนต์เลยทีเดียว ทุกวันนี้มีการจัดการแข่งขันรถยนต์แรลลีชิงแชมเพียนโลกเป็นประจำทุกปี และที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า สุดยอดของการแข่งรถยนต์แรลลีในแต่ละปีก็คือ การแข่งรถยนต์แรลลีมหาหฤโหดข้ามทวีปจากยุโรปข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บุกฝ่าทะเลทรายซาฮาราในทวีฟแอฟริกา เป็นระยะทางการแข่งขันไม่ต่ำกว่า 10,000 กิโลเมตร ใช้เวลาสำหรับการแข่งขันเป็น 10 วัน ที่เรียกกันในตอนแรกๆ ว่า การแข่งขันแรลลี ปารีส-ดาการ์ และต่อมามีชื่อใหม่ว่า บาร์เซโลนา-ดาการ์ แล้วแต่ว่าจะเริ่มต้นการแข่งขันกันที่เมืองไหนในยุโรป ส่วนปลายทางการแข่งขันนั้นกำหนดจุดสิ้นสุดอยู่ที่เมืองดาการ์ อันเป็นเมืองหลวงของประเทศเซเนกัล ประเทศทางชายฝั่งด้านตะวันตกของทวีปแอฟริกา ทีมรถแข่งจากประเทศไทยก็เคยไปสร้างชื่อเสียงได้รับรางวัลชนะเลิศเฉพาะกลุ่มในการแข่งขันที่นี่มาแล้วหลายครั้ง คือ ทีมมิตซูบิชิ แรลลีอาร์ท แต่สำหรับการแข่งขันในปีนี้ ทีมมิตซูบิชิ ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับตัวรถที่ใช้ในการแข่งขันเกิดขัดข้องเสียก่อนในระหว่างการแข่งขันไม่สามารถจะแข่งขันไปได้ตลอดรอดฝั่งจนถึงจุดสุดท้ายของการแข่งขันได้ การแข่งขันรถยนต์แรลลีระดับโลกไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันแรลลีโลก หรือการแข่งขันแรลลี บาร์เซโลนา-ดาการ์ เป็นการแข่งขันที่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่จากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป ในเอเชีย หรือแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ไม่แต่เท่านั้น การแข่งขันแรลลีอย่างนี้ยังได้รับความสนใจจากผู้คนในแวดวงการและนอกวงการเป็นอย่างมากด้วย จะเห็นได้ว่าจะมีการจัดการแข่งขันรถยนต์แรลลีในระดับนี้กันตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกทุกทวีปทีเดียว ในประเทศไทยเรา กิจกรรมการแข่งขันรถยนต์แรลลีก็มีการจัดการแข่งขันกันอย่างกว้างขวาง จัดแข่งขันกันนับจำนวนเป็นร้อยๆ ครั้งในแต่ละปี โดยไม่เลือกฤดูกาล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบางครั้งบางคราวอาจจะจัดให้มีการแข่งขันในช่วงวันหยุดซ้ำซ้อนกันถึง 4-5 รายในเวลาเดียวกันขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพร้อมของผู้จัดให้มีการแข่งขันและรวมทั้งความคุ้มค่าคุ้มทุนจากการที่จะได้รับการสนับสนุนจากบรรดาสปอนเซอร์ทั้งหลายด้วย ปีนี้ ในประเทศไทยเรามีการจัดการที่ยังไม่สามารถจะเรียกได้ว่าเป็นการแข่งขัน แต่ก็เข้าลักษณะขบวนการแรลลีอยู่เหมือนกันขึ้นมารายการหนึ่ง ซึ่งต้องถือว่าเป็นการจัดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกก็ว่าได้ เป็นการจัดขบวนแรลลีรถยนต์ที่บริษัทรถยนต์ทั้งหลายปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือให้การสนับสนุนอย่างสิ้นเชิง และคงจะไม่พึงปรารถนาที่จะเห็นการจัดแรลลีในทำนองนี้เกิดขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นในวาระไหนหรือในเทศกาลใด นั่นก็คือ ขบวนการแรลลีรถป่วย ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2548 จัดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะและเป็นระยะเวลาเดียวกันกับที่มีการจัดงานมอเตอร์โชว์ครั้งยิ่งใหญ่ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม จนถึงวันที่ 3 เมษายน กับงานมอเตอร์โชว์ย่อมเป็นที่รับรู้กันว่า เป็นงานแสดงรถยนต์ที่มุ่งเน้นที่จะนำเสนอและโอ้อวดความยิ่งใหญ่และความก้าวหน้าทางด้านคุณภาพของรถยนต์เพื่อเป็นการจูงใจให้เกิดความนิยมชมชอบในรถยนต์ของแต่ละยี่ห้อเป็นหลักสำคัญ แต่กับ การจัดให้มีขบวนการแรลลีรถป่วยคราวนี้เป็นไปในลักษณะตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ของการจัดงานมอเตอร์โชว์อย่างสิ้นเชิง และเป็นที่แน่นอนด้วยว่า แรลลีรถป่วยที่จัดให้มีขึ้นคราวนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากการจัดงานมอเตอร์โชว์หรือจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์แม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าจะจัดให้มีขึ้นในวาระเดียวกันก็ตามที แรลลีรถป่วย เป็นการรวมตัวกันของบรรดาเจ้าของรถยนต์ที่ซื้อหารถยนต์มาจากบริษัทต่างๆ ต่างกรรมการต่างวาระกัน บ้างก็ซื้อมานานหลายปีแล้ว บ้างก็เพิ่งซื้อมา ซึ่งสังเกตได้จากการที่ยังติดป้ายแดงอยู่ เจ้าของรถยนต์เหล่านี้มีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของรถยนต์ที่ซื้อมาใช้ มีทั้งปัญหาหนักหนาสาหัสและปัญหาจุกจิกกวนใจตลอดการใช้รถ ปัญหาเหล่านี้ถูกปฏิเสธการรับผิดชอบเท่าที่ควรจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิเสธที่จะรับซื้อคืนหรือเปลี่ยนรถคันใหม่ให้กับรถคันที่มีปัญหา บรรดารถป่วยที่รวมตัวกันเข้าขบวนแรลลีครั้งนี้มีทั้งรถยนต์ยี่ห้อดังๆ และยี่ห้อไม่ดังทั้งจากยุโรป และญี่ปุ่น และน่าจะรวมทั้งรถยนต์ที่มีต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกาด้วย มีการออกข่าวประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างสีสันให้กับกิจกรรมครั้งนี้ว่า จะมีรถยนต์ป่วยเข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้เป็นจำนวนถึง 100 คัน และในระหว่างการจัดขบวนแรลลีคราวนี้อาจมีกิจกรรมการทุบทำลายรถ การเผารถให้ได้ชมได้ประจักษ์กันด้วย เส้นทางการแรลลีรถป่วยจะเริ่มที่บริเวณงานมอเตอร์โชว์ที่ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค-บางนา แล้วจะไปสิ้นสุดที่สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นการประจานคุณภาพของรถยนต์ที่มีจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์กัน ต้องยอมรับว่า แรงบันดาลใจหรือจุดกระตุ้นเพื่อการแสดงออกของผู้ใช้รถยนต์ที่มีปัญหาค้างคาใจคราวนี้น่าจะมีจุดกำเนิดเริ่มต้นมาจากการที่ก่อนหน้านี้ มีผู้ซื้อรถยนต์รายหนึ่งซื้อรถมาใช้ได้ไม่กี่วันไม่กี่เดือน แล้วรถยนต์ที่ซื้อมาเกิดมีปัญหาจนไม่สามารถที่จะยอมรับได้อีกต่อไป ต้องเจรจาขอให้ทางบริษัทรถยี่ห้อนั้นนับซื้อคืนไป หรือเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง สุดท้ายก็ต้องมีการแสดงการทุบรถคันเจ้าปัญหาประจานกันต่อหน้าสาธารณชน และในที่สุดกรณีนี้ก็ลงเอยโดยบริษัทรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าวยอมรับซื้อรถคืนไปด้วยความช้ำสลดใจ ยังไม่รู้เหมือนกันว่า แรลลีรถป่วยที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย จะยังมีโอกาสที่จะมีการสานต่อจัดให้มีขึ้นในครั้งต่อๆ ไปอีกหรือไม่ คำตอบหน้าจะอยู่ที่การให้การสนับสนุนของบริษัทรถยนต์เพียงอย่างเดียว ตราบใดที่ยังเพิกเฉยกับความรับผิดชอบและความไม่ใส่ใจกับคุณภาพอันเหมาะอันควรของรถอยู่เหมือนเดิม ก็น่าจะมีการจัดแรลลีทำนองนี้ขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 อย่างแน่นอน