พิเศษ
นักอนุรักษ์รถโบราณ
รถโบราณ นับเป็นของสะสมสำหรับผู้มีใจรักการอนุรักษ์อย่างแท้จริง เพราะต้องใช้ทั้งความรู้
ความพยายาม และทุนทรัพย์เป็นจำนวนมาก
"ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์ ศิริพงษ์ บูรณะพันธุ์ นักอนุรักษ์ และสะสมรถโบราณ เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้มีโอกาส
ศึกษาความเป็นมา และซาบซึ้งในคุณค่าของมัน
ฟอร์มูลา : เหตุใดจึงคิดสะสมรถโบราณ ?
ศิริพงษ์ : ผู้ชายทุกคนชอบรถ รถคันแรกที่ขับ เอมจี ซื้อมา 15,000 บาท แต่ต้องมาทำอีก 2-3 แสนบาท
ส่วนรถที่ชอบที่สุดไม่มี เพราะผมคิดว่ามีอะไรก็น่าจะพอใจแล้ว และทำให้ดีที่สุด สมัยรัชกาลที่ 5
มีรถโบราณมาก เมืองไทยมีรถรุ่นเก่า และรถดีๆ โดยเฉพาะสมัยรัชกาลที่ 7
ที่รถถูกส่งกลับไปต่างประเทศหมดแล้ว เกือบไม่มีรถแล้ว อย่างเช่น DELASAYE AVIONS VOISON
เป็นรถอะไรที่มีอันดับเหมือน บูกัตตี เมืองไทยมีมาก แต่ถูกส่งไปต่างประเทศหมดแล้ว
จอดไว้ไม่มีใครอยากได้ เพราะคนรุ่นนั้นสนใจแต่รถรุ่นใหม่ อีกอย่างหนึ่งของเก่าที่ถูกละเลย
และเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เป็นผลมาจากประเทศเรากำลังพัฒนา จึงจำเป็นที่จะต้องหาของใหม่เข้ามา
ส่วนของเก่าก็ถูกทิ้งไป และแต่เดิมคนไทยก็ไม่นิยมอนุรักษ์ของเก่า แต่ปัจจุบันเริ่มหันมานิยมกันมากขึ้น
ฟอร์มูลา : เริ่มสนใจมานานหรือยัง ?
ศิริพงษ์ : ก็พอสมควร อยู่เมืองนอกมานาน 40 ปี พอมีรายได้ที่จะซื้อมาสะสม
มีความชอบของเก่าอยู่แล้ว อาจจะเป็นเพราะผมจบสถาปัตย์ สถาปนิกต้องคู่กับของเก่า
เพราะนอกจากรถแล้ว ก็ยังมีบ้านเก่า ต้นไม้ รูปภาพ เครื่องลายคราม ชามตราไก่
เพราะคิดว่าหากเราอนุรักษ์ไว้ในสิ่งของพวกนี้ก็จะเป็นประโยชน์กับชนรุ่นหลัง
ไม่ใช่ว่าให้คนต่างประเทศมาสะสมของไทยแล้วนำกลับประเทศไปหมด ผมอยู่เมืองนอกมานาน
เมื่อกลับมาประเทศไทยก็อยากเรียนรู้เรื่องเมืองไทย
และของเก่าบางชิ้นจะทำให้สามารถเรียนรู้เรื่องราวในอดีตได้
ฟอร์มูลา : คนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นการสิ้นเปลือง ?
ศิริพงษ์ : ใช่คนจะมองว่าเป็นการสิ้นเปลือง แต่ผมคิดว่าเป็นสังคม เพราะผมไม่ได้แสวงหาสมบัติ
อย่างรูปภาพก็ต้องสะสมให้เป็นคอลเลคชัน แล้ววันหนึ่งเราก็จะรู้ว่านักวาดภาพคนไทยก็มีคนเก่ง
บ้านเก่า วังเก่า ที่ปล่อยให้ร้างก็น่าเสียดาย คนไทยชอบของใหม่ ของเก่าไม่ค่อยเก็บ
แต่ช่วงหลังก็มีการตื่นตัวกันบ้างแล้ว
ฟอร์มูลา : คุณชอบสะสมรถโบราณ ประเภทไหน ?
ศิริพงษ์ : รถโบราณจะมี 3 แบบ คือ รถก่อนสงคราม หลังสงคราม และรถคลาสสิค
โดยส่วนตัวแล้วชอบรถคลาสสิค เพราะดูลักษณะแล้วเหมือนกับเป็นต้นตำรับ
หรือรถต้นแบบของรถปัจจุบัน อย่างเช่น รถโฟล์คสวาเกน
ออกมากี่รุ่นก็หนีลักษณะของรถแบบเดิมไปไม่ได้ อย่าง ฟอร์ด ธันเดอร์เบิร์ด ตอนนี้กลับมาอีกแล้ว
แจกวาร์ ไม่ว่าจะออกแบบ พิสดาร แปลกใหม่อย่างไร
สุดท้ายก็ต้องหันกลับมาที่พื้นฐานของการออกแบบของรถคลาสสิค อีกอย่างมองแล้วไม่เบื่อ
ผมชอบความสวยงาม และควรเป็นรถต้นแบบที่ควรจะอนุรักษ์ไว้
ฟอร์มูลา : รถคลาสสิคคันแรกที่คุณมียี่ห้ออะไร ?
ศิริพงษ์ : เดิมนั้นมีรถโบราณนิดหน่อย แต่ก็ไม่ชอบเท่ากับรถคลาสสิค รถคันแรกเป็นรถ เอมจี
รุ่นโบราณ เพราะตอนนั้นสะสมรถโบราณ ส่วนรถคลาสสิคคันแรกที่สะสม เป็น อัลฟา โรเมโอ ดูเอตโต
ที่มีหน้าแหลมๆ
ฟอร์มูลา : รถคันนี้ได้มาอย่างไร ?
ศิริพงษ์ : รถ อัลฟา โรเมโอ ในเมืองไทยมีเยอะมาก ได้มา 3 คัน แต่โดยมากจะเป็นรถในเมืองไทย
ซึ่งในสมัยนั้นใครมีรถสปอร์ทถือว่าเป็นคนมีเงิน และเป็นที่ยอมรับของสังคม พอได้มาก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
คือไม่อยากจะเก็บแล้วก็แบ่งให้เพื่อนไป แล้วก็หาอะไรที่หายาก เมื่อเจออะไรที่หายากก็จะรักษาไว้
ไม่อยากทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เพราะว่าการเก็บรักษารถต้องนำออกมาวิ่ง ค่าใช้จ่ายก็มาก
และต้องมีเวลาด้วย เพราะรถพวกนี้ต้องการการดูแลมากๆ ถ้าไม่มีเวลาอย่าทำ
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของที่มีคุณค่า
ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีรถที่สะสมไว้กี่คัน ยี่ห้ออะไรบ้าง ?
ศิริพงษ์ : มีทั้งหมด 5 คัน หนึ่งคัน คือ รถ อัลฟา โรเมโอ จูลีอา เอสเอส สีเหลือง
ที่นำไปโชว์ในงานมอเตอร์ เอกซ์โป ครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในเซาธ์อีทส์เอเชีย
แล้วผมก็ได้มาเป็นมือแรก ที่ชอบเพราะมีความเป็น อัลฟา แต่ตอนนี้ที่เน้นคือ แจกวาร์ เห็นได้ว่า
แจกวาร์ รุ่นใหม่ ไม่ค่อยจะหนีรุ่นเก่าเท่าไร
และพยายามจะเก็บเป็นคอลเลคชันที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยหรือในเอเชียก็ได้
ตั้งแต่รุ่นหลังสงครามมาถึงปัจจุบันเป็นรถสปอร์ท ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 คัน คือ เอกซ์เค 120
ที่เป็นรถแข่งที่ดังมาก ตอนนี้ก็เหลือแค่คันเดียวเท่านั้น ที่ขาดอยู่คือ เอกซ์เค 140
ถ้าได้คันนี้ก็เท่ากับครบ
แต่ก่อนเคยมี เอกซ์เค 140 แต่เป็นหลังคาแข็ง ตอนนี้ก็มีอยู่คันหนึ่งแต่มีบางอย่างที่ยังไม่ถูกใจ
ซึ่งที่จริงแล้วไม่จำเป็นหรอก เพราะยังมี เอกซ์เค 150 อีก และระหว่าง เอกซ์เค 120 กับ เอกซ์เค 150
มันเป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงนิดหน่อยเท่านั้น แต่ถ้าเล่นแล้วก็อยากจะให้มันครบเลย
ส่วนอีกคันหนึ่ง ก็เป็น อี-ไทพ์ รุ่นแรกเลย เท่ากับว่าค่อนข้างจะครบเลย แล้วก็มี เมร์เซเดส-เบนซ์ 220
เอส กาบริโอเลต์ ที่ผ่านมารถ เมร์เซเดส-เบนซ์ มีหลายรุ่น และรถสปอร์ทเกือบทุกรุ่นเลย เอสแอลเค
ก็เคยมี แต่ไม่ค่อยอยากเล่นเพราะคนเล่นกันมาก อยากจะเน้นเป็นอย่างๆ
ฟอร์มูลา : สำหรับ แจกวาร์ เอกซ์เค 150 ได้มาอย่างไร ?
ศิริพงษ์ : รุ่นนี้ในเมืองไทยไม่มีหรอกครับ แต่มีคนนำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา แล้วผมก็ได้มาเกือบ 20
ปีแล้ว หลังจากนั้นก็นำมาบูรณะ ซึ่งตอนได้มายังไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่ก็นับว่าอยู่ในสภาพที่ดี
ตอนแรกไม่คิดที่จะเข้าประกวด แต่บางครั้งก็จะต้องมีการกระตุ้นรุ่นน้องๆ
เพื่อให้นำรถที่มีอยู่ส่งมาประกวด เพราะเมื่อมีรถแล้วก็ควรที่จะตกแต่งให้ถูกต้อง ไม่ใช่มีรถ เมร์เซเดส-
เบนซ์ แต่ใส่อะไหล่ โตโยตา ผมจึงส่งรถเข้าประกวดเพื่อให้เห็นความตั้งใจในการบูรณะ
เพราะเมื่อตั้งเป็นสมาคมแล้วก็ควรที่จะมีการจัดกิจกรรม ผมต้องการให้สมาคมมีมาตรฐาน
ฟอร์มูลา : เพราะอะไรจึงมีรถ แจกวาร์ มาก เป็นพิเศษ ?
ศิริพงษ์ : ความจริงไม่ได้ชอบมากมาย แต่อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาประสบความสำเร็จกับรถ
แจกวาร์มากที่สุด และอีกอย่างเป็นรถที่เล่นยาก เครื่องยนต์ 6 สูบ เครื่องยนต์ 3 คาร์บิว 2 คาร์บิว
เครื่องใหญ่ 3,000 กว่าซีซี ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเก็บ เมร์เซเดส-เบนซ์ เหมือนกันแต่คนจะเล่นกันมาก
และเผอิญได้แจกวาร์ มาก็เลยคิดว่าการได้อะไรมาแล้วเก็บเป็นคอลเลคชันก็จะดี และ แจกวาร์
ที่มีอยู่ในปัจจุบันนับว่าสมบูรณ์ทุกคัน
ฟอร์มูลา : คุณจะหันมาสะสมเพียง แจกวาร์ เพียงยี่ห้อเดียวหรือไม่ ?
ศิริพงษ์ : นั่นเป็นไอเดีย ในอนาคต อาจจะมีทุกรุ่น และอยากที่จะทำให้สมบูรณ์ สะสมยี่ห้อเดียวไปเลย
อย่าง บางคนสะสม โฟล์คสวาเกน เพียงอย่างเดียว มีเกือบทุกรุ่น ผมก็จะทำอย่างนั้น ซึ่งตอนนี้ก็ขาด
เอกซ์เค 140 รุ่นเดียวเท่านั้น การทำเช่นนี้จะทำให้เห็นการพัฒนาของรถ การสะสมต้องมีจุดประสงค์
นอกจากความชอบแล้ว การเก็บรักษาเพื่อให้เห็นรถต้นแบบของรถปัจจุบันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
ฟอร์มูลา : คุณมีวิธีการดูแลรักษารถอย่างไร ?
ศิริพงษ์ : ถ้ามีโรงรถก็ทำให้เป็นห้องกระจก ซึ่งราคาไม่แพงมากนัก
ถ้าขนาดตึกแถวหนึ่งห้องจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 15,000 บาท ส่วนพื้นก็ปูด้วยกระเบื้อง
ซึ่งจะแข็งแรงหน่อย การลงทุนแค่นี้เปรียบเทียบกับรถแล้วไม่แพงเลย นอกจากนี้ก็มีเครื่องดูดความชื้น
ไม่จำเป็นต้องติดแอร์ให้สิ้นเปลือง เครื่องดูดความชื้นจะทำให้ห้องแห้ง สีจะไม่บวม
รักษาได้เป็นเวลานาน และควรที่จะนำรถออกไปขับบ้าง หรือสตาร์ทเครื่องนิดหน่อย ให้เครื่องอุ่น
เดินหน้าถอยหลังนิดหน่อย มีการใช้เบรค จะทำสองอาทิตย์ครั้งก็ได้ แต่ถ้ามีเวลา
อาทิตยต์ละครั้งจะดีมากเลย
ฟอร์มูลา: คุณมีวิธีการเลือกหาอะไหล่หรืออุปกรณ์อย่างไร ?
ศิริพงษ์ : สั่งจากต่างประเทศโดยตรง จะมีหนังสือสำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ถ้าต้องการอะไรก็สั่งตรงจากต่างประเทศเลย หรือไม่ก็เปิดดูจากอินเตอร์เนท แต่ราคาค่อนข้างแพง
เพราะส่วนใหญ่อะไหล่รถเก่าจะหายาก ถ้าโชคดีก็จะมีบางรุ่นที่ใช้แทนกันได้
หรือบางครั้งก็ไปหาซื้อที่วรจักร ร้านขายอะไหล่รถ
ฟอร์มูลา : คุณมีข้อแนะนำอย่างไรสำหรับคนที่จะเริ่มสะสมรถโบราณ ?
ศิริพงษ์ : ตอนนี้คนที่สนใจค่อนข้างยาก เพราะเริ่มมีการตื่นตัว
ตอนหลังคนมีเงินทำเป็นเครื่องประดับบ้าน ประดับบารมี มาตั้งโชว์ในโรงรถ
แต่เมื่อมีโอกาสที่สะสมแล้ว ก็นำมาออกมาให้คนรุ่นหลังได้ชมกันบ้าง เพราะเมื่อลงทุนหารถดีๆ
มาบูรณะแล้วก็อย่าเก็บไว้คนเดียว เพราะเมื่อมีสังคม
มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอาจจะได้ของที่มีราคาไม่แพงนัก
หรือหากว่าคิดจะสะสมกันจริงๆ ก็ดูที่รถว่าควรที่จะสะสมรถอะไร ตัวอย่าง ระหว่าง เมร์เซเดส-เบนซ์
กับเอมจี แนะนำให้สะสม เมร์เซเดส-เบนซ์ ดีกว่า เพราะราคาขายต่อของ เมร์เซเดส-เบนซ์ จะดีกว่า
ที่สำคัญคือ หากพอใจตรงไหนก็พอใจตรงนั้นเลย
อย่างรถหลายคันที่ส่งเข้าประกวดบางครั้งก็เป็นรถเก่าของผม
แต่แบ่งให้เพื่อกระตุ้นให้พวกเขามีความกระตือรือร้น
ฟอร์มูลา : อยากจะฝากอะไรให้คนรุ่นหลังที่คิดจะสะสมรถโบราณบ้างหรือไม่ ?
ศิริพงษ์ : คนที่คิดอยากจะสะสมรถโบราณนั้นใช้เงินค่อนข้างมาก ถ้าไม่มีใจรักก็อย่าคิดที่จะทำ
แต่ถ้ามีรถของพ่อ หรือ ปู่ ก็ให้รักษาไว้ ค่อยๆ บูรณะก็พอแล้ว ผมไม่อยากให้ใครมาทำเหมือนผม
เพราะผมทำอะไรแล้วจริงจัง และต้องใช้เงินจำนวนมาก
ABOUT THE AUTHOR
น
นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : พิเศษ