เราได้ก้าวเข้าสู่ยุคเชื่อมต่อแบบ "ดิจิทอล" กันแล้วอย่างเต็มตัว เราขาดโทรศัพท์มือถือไม่ได้ ต้องแชทไลน์ ตรวจเฟศบุคกันตั้งแต่ตื่นนอน ซื้อของทางอินเตอร์เนท อ่านข่าวจากโซเชียลเนทเวิร์ค รวมถึงฟังเพลงผ่านระบบออนไลน์ จึงไม่แปลกที่ใน "รถยนต์" จะมีระบบเชื่อมต่อเพื่อตอบสนองการดำเนินชีวิตของคนยุคนี้
"4WHEELS" เจาะลึกระบบเชื่อมต่อรถครอสส์โอเวอร์ 4 รุ่น ระบบที่ว่าจะเจ๋งแค่ไหน ดีเด่นอย่างไร ไปดูกัน
FORD ECOSPORT
ยานพาหนะ ที่พูดคุยได้
ฟอร์ด อีโคสปอร์ท เป็นรถครอสส์โอเวอร์รุ่นแรกๆ ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของชีวิตคนเมือง ซึ่งต้องการตัวถังรถที่สูง เพื่อให้สามารถลุย (น้ำ) ได้ดีกว่ารถเก๋ง ขนาดตัวต้องกะทัดรัด เพื่อความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมือง เครื่องยนต์มีขนาดพอเหมาะ ความจุ 1.5 ลิตร 4 สูบ 110 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ POWER SHIFT 6 จังหวะ ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งาน
สิ่งที่คนยุค "ดิจิทอล" ต้องการ คือ ระบบเชื่อมต่อเจ๋งๆ ที่สามารถสั่งงานได้แม้ขณะขับรถ ซึ่ง อีโคสปอร์ท ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มีฟังค์ชัน SYNC ที่สามารถสั่งงานโต้ตอบกับคุณได้ผ่านระบบ "สั่งงานด้วยเสียง" หรือ "SYNC" กับอุปกรณ์ต่างๆ ระหว่างคุณกับรถด้วย "เสียง"
SYNC สั่งงานง่าย ปลอดภัยสูง
ระบบ SYNC ได้พัฒนาร่วมกับ ไมโครซอฟท์ บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก เพื่อพัฒนาระบบสั่งงานด้วยเสียง ใช้ซอฟท์แวร์ MICROSOFT AUTO ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้ได้กับเครื่องเล่น MP3 เกือบทุกรุ่นในปัจจุบัน รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่มีระบบ BLUETOOTH โดย SYNC จะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือหลักของคุณโดยอัตโนมัติ เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์
นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือได้มากกว่า 1 เครื่อง และสามารถกำหนดเครื่องที่ใช้งานหลัก เพื่อให้ระบบ SYNC เชื่อมต่อกับโทรศัพท์เครื่องนั้นโดยอัตโนมัติ (กรณีมีการเชื่อมต่อโทรศัพท์กับระบบไว้มากกว่า 1 เครื่อง)
ระบบ SYNC จะดาวน์โหลดสมุดโทรศัพท์จากมือถือของคุณโดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ขับรถ ถ้าอยากโทรหาใคร เพียงเรียกชื่อของบุคคลที่ต้องการติดต่อด้วยเสียง ระบบจะจัดการโทรออกให้ แต่จะไม่บันทึกรายชื่อในสมุดโทรศัพท์เก็บไว้ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว และยังสามารถอัพเกรดคุณสมบัติการใช้งานใหม่ๆ ได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปดาวน์โหลดที่เวบไซท์ของผู้ใช้งาน SYNC
4 ฟังค์ชันสุดเจ๋งในระบบ SYNC
โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี
SYNC พัฒนาระบบเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ เมื่อมีสายเข้า แค่กดปุ่มรับจากพวงมาลัย หรือเมื่ออยากโทรออก ก็เพียงกดปุ่ม SYNC บนพวงมาลัย แล้วเรียกชื่อของบุคคลที่ต้องการติดต่อ เช่น "CALL MOM" ระบบจะเชื่อมต่อและโทรออกหา "MOM" ให้ทันที ผ่านไมโครโฟนที่ฝังอยู่ใกล้กับกระจกมองหลัง และระบบเครื่องเสียงในรถยนต์
ทันทีที่เชื่อมต่อ SYNC กับโทรศัพท์ ระบบก็ดาวน์โหลดสมุดโทรศัพท์ให้แบบอัตโนมัติ เมื่ออยากโทรออก แค่บอกชื่อคนๆ นั้น SYNC พร้อมต่อสายในทันที
ไม่ต้องกังวลว่าสายหลุด ถ้าต้องเข้า/ออกรถ ขณะสนทนาบ่อยๆ เพราะขณะสตารท์รถ SYNC จะโอนสายจากเครื่องโทรศัพท์ไปสู่ระบบ และเมื่อดับเครื่องยนต์ เปิดประตูรถ สายของคุณจะถูกโอนกลับไปยังเครื่องโทรศัพท์แบบอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถคุยได้ไม่ขาดตอน และสามารถใช้ฟังค์ชันพิเศษต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือได้เหมือนเดิม เช่น การประชุมทางโทรศัพท์ หรือการใช้โหมดส่วนตัว เป็นต้น
เลือกเล่นเพลง ด้วยเสียงเรา
จะค้นหา เลือกเพลง หรือเปลี่ยนใจ ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยคำสั่งเสียง โดย SYNC จะค้นหาจากความจำหลักก่อน เช่น ชื่ออัลบัม ชื่อศิลปิน หรือหมวดเพลงฮิทต่างๆ หรืออาจเลือกจากแนวเพลง เช่น รอค พอพ ก็ได้ โดยต้องออกเสียงให้ชัด ถ้าได้สำเนียงอเมริกันจะดีมาก หรือถ้าอยากให้ SYNC เลือกเพลงเอง ก็แค่สั่งคำว่า "SHUFFLE ON" ระบบจะสุ่มเล่นเพลงให้คุณแทน
สามารถเลือกเล่นเพลงจากแหล่งที่มาได้หลายอย่าง เช่น USB IPOD AUX หรือแม้แต่ BLUETOOTH แค่เชื่อมต่อเข้ากับระบบ และออกคำสั่งด้วยการเรียกชื่อเพลงที่อยากฟัง
นอกจากนี้ SYNC ยังสามารถสั่งค้นหาสถานีวิทยุที่ต้องการได้ ด้วยการออกเสียงทั้งในระบบ AM และ FM แล้วตามด้วยคลื่นที่อยากฟัง แถมยังสามารถดื่มด่ำกับคุณภาพเสียงระดับดิจิทอล จากรายการวิทยุที่เพิ่มขึ้นจากเดิมได้ด้วย DIGITAL AUDIO BROADCAST
สั่ง SYNC ให้ช่วยอ่าน
ระบบ SYNC สามารถ "อ่านข้อความ" ให้เราฟังได้ โดยจะอ่านข้อความตัวอักษรผ่านลำโพงในรถ ได้ครบทุกตัวอักษร ไม่เว้นแม้แต่ไอคอนแสดงอารมณ์ หรือตัวย่อที่ใช้กันเป็นประจำ
ควบคุมอุณหภูมิ ด้วยเสียง
เราสามารถสั่งให้รถปรับ และควบคุมอุณหภูมิให้เราได้เพียงแค่เอ่ยปาก บอกระดับอุณหภูมิที่ต้องการ ผ่าน "SYNC"
NEW ECOSPORT BLACK EDITION
สำหรับใครที่สนใจระบบนี้ ขณะนี้ทาง ฟอร์ด ประเทศไทย ได้แนะนำ อีโคสปอร์ท รุ่น BLACK EDITION เพิ่มเป็นอีก 1 ทางเลือก โดยเพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ อาทิ ชุดแรคหลังคา(ROOF CROSS BAR) สีดำ, ล้ออัลลอยสีดำขนาด 16 นิ้ว, กระจังหน้า ไฟตัดหมอก ชุดโคมไฟหน้า และกระจกมองข้างสีดำ PIANO BLACK โดยที่ยังมีระบบ SYNC เหมือนเดิม
MAZDA CX-3
สวย หรู เฉียบ
รถสไตล์ครอสส์โอเวอร์อีกรุ่นหนึ่ง ที่ออกแบบได้อย่างลงตัว และสวยงาม เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในไทย เมื่องาน MOTOR EXPO 2015 ที่ผ่านมา
รถรุ่นนี้มีสโลแกนว่า "SEE THE WORLD IN NEW ANGLE" หรือ "มองโลกมุมใหม่
อิสระไร้ขีดจำกัด" จากการออกแบบตามหลัก KODO DESIGN ทำให้รถมีเอกลักษณ์ และสไตล์ที่ชัดเจน ด้านเครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบ คือ ดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบ 105 แรงม้า และเบนซิน 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ทำงานคู่กับเกียร์สกายแอคทีฟ 6 จังหวะ ทั้ง 2 เครื่องยนต์ให้อัตราเร่งดีเกินตัว และประหยัดน้ำมันแบบคาดไม่ถึง
สิ่งที่โดดเด่นสำหรับ ซีเอกซ์-3 นอกจากรูปลักษณ์ภายใน และภายนอกแล้ว คือ ฟังค์ชันการใช้งานของระบบเครื่องคุมเครื่องเสียง ที่ควบคุมง่าย เข้าใจได้เร็ว และสวยงาม
MZD CONNECT แบบฉบับ มาซดา
มาซดา ได้ออกแบบเทคโนโลยีเชื่อมต่อโลกโซเชียลที่ชื่อว่า MZD CONNECT ให้ใช้งานง่าย ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเดินทาง แถมยังอัพเดททเรนด์ออนไลน์ไปได้พร้อมๆ กัน ซีเอกซ์-3 ออกแบบอุปกรณ์และฟังค์ชันการใช้งานภายในรถ โดยเน้นธรรมชาติการเคลื่อนไหวของมนุษย์ตามหลัก HMI (HUMAN-MACHINE INTERFACE) รวมถึงการจัดวางอุปกรณ์ให้อยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน
CENTER DISPLAY
สิ่งที่เตะตาที่สุด คงเป็นจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ที่อยู่บนคอนโซลหน้าระดับสายตา คล้ายกับเอาแทบเลทมาแปะไว้ แสดงเมนูสั่งงานของระบบ MZD CONNECT ด้วย 5 ฟังค์ชันหลัก และแสดงผลฟังค์ชันใช้งานอื่นๆ หรือเรียกดูข้อมูลผ่านระบบสั่งการด้วยเสียง VOICE RECOGNITION
CENTER COMMANDER
ปุ่มหมุนที่คอนโซลกลางตรงตำแหน่งใกล้มือผู้ขับ ที่ง่ายต่อการใช้งาน ปุ่มนี้ใช้ควบคุม MZD CONNECT เพียงหมุนหาคำสั่งที่ปรากฏขึ้นบนจอ CENTER DISPLAY แล้วดันขึ้น/ลง/ซ้าย/ขวา สามารถใช้ได้ในขณะรถวิ่ง ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน และมีสมาธิในการขับขี่
ACTIVE DRIVING DISPLAY
สิ่งที่ดูไฮโซอีกสิ่งหนึ่ง คือ มาตรวัดความเร็ว และระบบนำทาง ใน ซีเอกซ์-3 โดยจะมีแผ่นพลาสติคใสดีดขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งพอดีกับสายตา แสดงข้อมูลระดับความเร็วรถเป็นตัวเลข และระบบนำทางเป็นสัญลักษณ์
5 ฟังค์ชันเด่น ใน MZD CONNECT
- ความบันเทิง (ENTERTAINMENT) เป็นฟังค์ชันสำหรับการฟังเพลง หรือไฟล์ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งโหมดวิทยุ AM/FM และโหมดเครื่องเล่นเพลงผ่านช่อง USB หรือ BLUETOOTH
- ระบบนำทาง (NAVIGATION) สามารถแจ้งพิกัดที่เราอยู่ และนำทางไปสถานที่ต่างๆ ได้
- แอพพลิเคชัน (APPLICATIONS) ฟังค์ชันนี้จะแสดงอัตราการประหยัดเชื้อเพลิง และโหมดการทำงานของระบบประหยัดน้ำมัน I-STOP
- การสื่อสาร/เชื่อมต่อ (COMMUNICATION) คือ การเชื่อมต่อระบบ MZD CONNECT กับโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รับและตอบ SMS ได้สะดวก ด้วยข้อความที่สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม
- การตั้งค่า (SETTINGS) เป็นฟังค์ชันที่สามารถเข้าไปปรับแต่งค่าการใช้งานต่างๆ ของรถ อาทิ ตั้งระบบไฟส่องสว่างภายใน ฯลฯ
NISSAN JUKE
นิยามใหม่ ของความสนุก
นิสสัน จูค นับเป็นรถยนต์ครอสส์โอเวอร์ ที่มีดีไซจ์นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยเส้นสายที่แปลกตา และตำแหน่งการวางไฟหน้าที่แหวกแนว เครื่องยนต์ความจุ 1.6 ลิตร 4 สูบ 116 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ และเกียร์อัตโนมัติ CVT ช่วยเพิ่มกำลัง และประหยัดน้ำมัน
นอกจากนี้ภายในยังมีความโดดเด่น จากการออกแบบห้องโดยสารให้คล้ายคอคพิทในรถแข่ง กระตุ้นให้รู้สึกสปอร์ทด้วยโทนสีแดง แต่สิ่งที่โดดเด่นเหมาะกับรถยุคนี้คือ เทคโนโลยี I-CON หรือ INTEGRATED-CONTROL SYSTEM พร้อมหน้าจอ INTERFACE ที่แสดงผลของ 2 ระบบหลัก คือ CLIMATE และ DRIVING-MODE ซึ่งมีให้เลือก 3 แบบ คือ ECO MODE, NORMAL MODE และ SPORT MODE
I-CONNECT ระบบเชื่อมต่อเฉพาะชาว จูค
นอกจากรูปทรงที่แปลกตาแล้ว ยังมีฟังค์ชันการเชื่อมต่อที่แหวกแนวอย่างระบบ I-CONNECT ที่มีหน้าตาคล้ายกับ "แทบเลท" สามารถถอดออกไปใช้งานนอกรถได้ โดยปรับปรุงจากรุ่นแรกให้ขนาดหน้าจอมีมิติ และทันสมัยขึ้น เพิ่มฟังค์ชัน EZ TALK เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น แถมยังมีระบบประมวลผลสัญญาณดิจิทอล DSP (DIGITAL SIGNAL PROCESSING) ช่วยเพิ่มระดับเสียงและความคมชัดในการดูหนังหรือฟังเพลง เพื่อความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
EZ-TALK ฟังค์ชันของคนรุ่นใหม่
นิสสัน จูค ทุกคัน สามารถสื่อสารกับเพื่อนที่ขับ "จูค" ที่อยู่ในกลุ่มได้ทุกหนทุกแห่ง ผ่านแอพพลิเคชันที่ชื่อว่า "EZ-TALK MESSENGER" โดยสามารถติดต่อกับเพื่อนผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนของคุณกับ จูค และสนุกไปกับ JUKE CLUB FUNCTION ที่จะทำการค้นหาเพื่อนใหม่ๆ ที่เป็นเจ้าของ "จูค" ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันได้ เพื่อเป็นทางลัดสำหรับคอเดียวกัน เพื่อความสัมพันธ์สำหรับชาว จูค
นอกจากนี้ยังสามารถสื่อสารเป็นข้อความเสียงระหว่าง จูค ด้วยกันได้ เสมือนวิทยุสื่อสาร เพียงใช้ 4 นิ้วสัมผัสหน้าจอ แล้วพูดผ่านระบบ ก็สื่อสารกันได้แล้ว
เชื่อมอินเตอร์เนทได้ ไปไหนก็หายห่วง
จูค ยังมีฟังค์ชัน ให้คุณเชื่อมต่ออินเตอร์เนทบนจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วของ จูค ได้ เมื่อตั้งการทำงานในโทรศัพท์มือถือแบบ WI-FI HOTSPOT โดยการแชร์สัญญาณจากมือถือ ทำให้สามารถท่องอินเตอร์เนท และค้นหาเวบไซท์ ดูวีดีโอและรับข่าวสารได้ตลอดการเดินทาง
โทรศัพท์ผ่าน BLUETOOTH
นอกจากฟังค์ชันมันๆ แล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ BLUETOOTH จากโทรศัพท์กับเครื่องเล่นในรถ ทำให้สามารถสนทนาผ่านระบบเครื่องเสียงในรถได้ โดยที่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย นับเป็นฟังค์ชันที่รถทุกคันต้องมี
MIX & MATCH เลือกได้สไตล์ จูค
นิสสัน ประเทศไทย ได้เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า "จูค" ได้ MIX & MATCH โดยเลือกจับคู่ สีตัวถังภายนอก กับสีอุปกรณ์ตกแต่งภายในได้เอง ตามพโรแกรม "NISSAN JUKE COLOR STUDIO"
โดยสีตัวถังภายนอก มีให้เลือกด้วยกัน 6 สี ได้แก่ สีแดง BURNING RED, สีน้ำเงิน PACIFIC BLUE, สีขาว WHITE SOID, สีดำ BLACK SOLID, สีเทา TWILIGHT GREY และสีเงิน BRILLIANT SILVER
ด้านสีตกแต่งภายใน มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีส้ม ORANGE RACING, สีเหลือง SOLAR YELLOW และสีเงิน BRILLIANT SILVER โดยมีตัวอย่างให้เลือกกว่า 18 สไตล์
ส่วนภายในห้องโดยสารก็มีให้เลือกตกแต่งถึง 3 สีเช่นเดียวกัน คือ สีส้ม ORANGE RACING, สีเหลือง SOLAR YELLOW และสีเงิน BRILLIANT SILVER รวมแล้วทั้งหมดมี 3 สไตล์
HONDA HR-V
เรียบร้อย ดูดี
ฮอนดา เอชอาร์-วี เป็นรถสไตล์ครอสส์โอเวอร์ที่สร้างยอดขายถล่มทลาย จากรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย และสัดส่วนที่กระชับ รวมถึงออพชันพิเศษอย่างหลังคามูนรูฟ แบบพาโนรามิค ทำให้รถดูหรูหรา แต่ต่างด้านเครื่องยนต์ มีขนาดเดียว คือ ความจุ 1.8 ลิตร 4 สูบ 141 แรงม้า ที่ให้กำลังเหลือเฟือ สามารถเติม อี 85 ได้
รองรับ IOS และ ANDROID
เรื่องการเชื่อมต่อนั้น เอชอาร์-วี ยังไม่มีฟังค์ชันอะไรที่เป็นเอกลักษณ์นัก แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งาน ด้วยระบบเครื่องเสียงแบบจอสัมผัส ที่รองรับได้ทั้งระบบปฏิบัติการแบบ IOS และ ANDROID ทำให้เชื่อมต่อภาพและเสียงได้อย่างง่ายดาย ผ่านช่องเชื่อมต่อ HDMI
สั่งงานด้วยเสียง ผ่าน SIRI
ฮอนดา เอชอาร์-วี ยังมีฟังค์ชันเจ๋งๆ ที่อาศัยการสั่งงานด้วยเสียงผ่านระบบ SIRI โดยต้องมีโทรศัพท์มือถือในระบบ IOS เท่านั้น ถึงจะใช้งานได้ เพียงแค่ CONNECT กันระหว่างมือถือกับเครื่องเล่นก็ใช้งานได้แล้ว
รับสาย โทรออก เพียงกดปุ่ม
ใน เอชอาร์-วี เรายังสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ BLUETOOTH จากโทรศัพท์กับเครื่องเล่นในรถได้ ทำให้สามารถสนทนาผ่านระบบเครื่องเสียงในรถได้ ด้วยการกดปุ่มไอคอนรูปโทรศัพท์ บนวงพวงมาลัย ช่วยให้ไม่ต้องละสายตาจากพวงมาลัย เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
เชื่อมต่อได้ อย่างหลากหลาย
นอกจาก BLUETOOTH แล้ว เรายังสามารถเลือกเล่นเพลงจากแหล่งที่มาอื่นๆ ได้อย่างหลากหลาย ทั้งช่อง USB IPOD และ AUX
ดูภาพคมชัด ผ่าน HDMI
เครื่องเล่นใน เอชอาร์-วี ยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียง ผ่าน HDMI ได้ ทำให้ได้ภาพที่คมชัด เพียงแค่เสียบเข้ากับปลั๊ก HDMI เท่านั้น
เอชอาร์-วี อี ลิมิเทด
เมื่อไม่นานมานี้ ฮอนดา ประเทศไทย ได้แนะนำ ฮอนดา เอชอาร์-วี รุ่นพิเศษ อี ลิมิเทด ที่มีฟังค์ชันหลายอย่างคล้ายกับตัวทอพ (แค่ไม่มีหลังคาซันรูฟ) แต่ราคาย่อมเยากว่าหลายหมื่นบาท ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สนใจเข้าไปทดลองขับได้เลย
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : พิเศษ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/37076