รถใหม่
รถหรูรถแรงรถเร็วขนาดกะทัดรัด
นอกเหนือจากการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการตั้งชื่อรุ่นของรถดังที่กล่าวไปแล้ว ความเปลี่ยนแปลงอีกด้านหนึ่งที่เกิดขึ้นกับสินค้ารถยนต์ของค่าย "ดาวสามแฉก" ในช่วง 3-4 เดือนสุดท้ายของปีม้าพยศที่เพิ่งผ่านพ้นไป คือการสร้าง SUB-BRAND หรือ "ชื่อการค้าย่อย" ขึ้นใหม่รวม 2 บแรนด์ คือ เมร์เซเดส-เอเอมจี (MERCEDES-AMG) และ เมร์เซเดส-มายบัค (MERCEDES-MAYBACH) นอกเหนือจากชื่อหลักที่ใช้มาแล้วนมนาน คือ เมร์เซเดส-เบนซ์ (MERCEDES-BENZ)
กรณีของ เมร์เซเดส-มายบัค (MERCEDES-MAYBACH) นั้นพอเข้าใจได้ เนื่องจากเป็นการนำชื่อยี่ห้อ มายบัค (MAYBACH) ที่เลิกใช้ไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อนกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง (โปรดอ่าน "ข่าวรอบโลก" ในฉบับนี้เพิ่มเติม) ส่วนกรณีของ เมร์เซเดส-เอเอมจี (MERCEDES-AMG) ยังคิดไม่ออก และหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ว่าทำไมต้องมี ?
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ รถสปอร์ทซูเพอร์คาร์ที่เพิ่งผ่านตาไป คือ เมร์เซเดส-เอเอมจี จีที (MERCEDES-AMG GT) กับ MERCEDES-AMG GT S) ก็คงจะติดป้ายชื่อ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอเอมจี จีที (MERCEDES-BENZ AMG GT) กับ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอเอมจี จีที เอส (MERCEDES-BENZ AMG GT S) เช่นเดียวกัน ผลงานชุดที่สองของค่าย "ดาวสามแฉก" ที่เลือกมาให้ชมกัน คือ เมร์เซเดส-เอเอมจี ซี 63 (MERCEDES-AMG C 63) และ เมร์เซเดส-เอเอมจี ซี 63 เอส (MERCEDES-AMG C 63 S) ซึ่งกำลังอวดรูปโฉมโนมพรรณอยู่ในขณะนี้ ก็คงติดป้ายชื่อ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 63 เอเอมจี (MERCEDES-BENZ C 63 AMG) และ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 63 เอส เอเอมจี (MERCEDES-BENZ C 63 S AMG) แน่นอน
ทั้ง เมร์เซเดส-เอเอมจี ซี 63 และ เมร์เซเดส-เอเอมจี ซี 63 เอส เป็นผลงานชิ้นใหม่ของสำนักเอเอมจี (AMG) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายในบริษัทที่รับผิดชอบการพัฒนา/ดัดแปลงรถเร็วรถแรงของค่าย "ดาวสามแฉก" เพิ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนแบบ PREMIERE MONDIALE หรือ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์ปารีสครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนตุลาคมของปีม้าพยศ รถใหม่ 2 รุ่นนี้ มีตัวถังให้เลือกใช้ 2 แบบ คือ ตัวถัง 4 ประตูซีดานที่ออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.32-0.33 กับตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.33-0.34 และก็เช่นเดียวกับรถติดรหัส เอเอมจี (AMG) ทุกรุ่นทุกแบบที่มีขายขณะนี้ ยกเว้น เมร์เซเดส-เอเอมจี จีที และ เมร์เซเดส-เอเอมจี จีที เอส ที่เพิ่งผ่านตาไป รถใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ ไม่ใช่รถที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดหาง หากดัดแปลงจากรถติดป้ายชื่อ เมร์เซเดส-เบนซ์ ที่มีอยู่แล้วในสายการผลิต ในกรณีของรถใหม่ 2 รุ่นนี้ ที่มา คือ รถ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์ (MERCEDES-BENZ C-CLASS) รุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 4 ตัวถังซีดานเริ่มจำหน่ายในเมืองเบียร์เมื่อปลายปี 2013 ส่วนตัวถังตรวจการณ์ตามติดมาตอนกลางปี 2014
ในเมืองแม่ คือ เยอรมนี ตัวถังซีดานมีกำหนดออกโชว์รูมในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ส่วนตัวถังตรวจการณ์จะตามมาในเดือนเมษายนปีเดียวกัน ทั้ง 2 ตัวถังซึ่งมีรถให้เลือกใช้รวม 4 โมเดล ไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่รับรู้กันในหมู่คนรักรถแรงรถเร็วในทวีปยุโรป ว่าเป็นรถที่ค่าย "ดาวสามแฉก" ตั้งใจออกแบบ/พัฒนาเพื่อให้เป็นคู่ต่อกรโดยตรงกับรถ บีเอมดับเบิลยู เอม 3 (BMW M3) ของค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว"
เมร์เซเดส-เอเอมจี ซี 63 (MERCEDES-AMG C 63) ทั้งตัวถังซีดานซึ่งในเยอรมนีมีค่าตัว 76,100 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 3.04 ล้านบาทไทย และตัวถังตรวจการณ์ซึ่งมีค่าตัว 77,770 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 3.11 ล้านบาทไทย ติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกันกับรถสปอร์ท เมร์เซเดส-เอเอมจี จีที (MERCEDES-AMG GT) คือ เครื่องไบเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 8 สูบ ความจุ 3,982 ซีซี แต่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในหลายจุด จึงเปลี่ยนรหัสเครื่องยนต์จาก M178 เป็น M177 เป็นเครื่องที่ให้กำลังสูงสุด 350 กิโลวัตต์/476 แรงม้า ที่ 5,500-6,250 รตน.และให้แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร/66.3 กก.-ม. ที่ 1,750-4,500 รตน. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าเป็นเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT MCT7 ที่เพิ่งผ่านการปรับปรุงเช่นกัน
ตามตัวเลขของผู้ผลิต เมร์เซเดส-เอเอมจี ซี 63 (MERCEDES-AMG C 63) ในตัวถังซีดานซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.32 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. โดยใช้เวลา 4.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่น่าพอใจมากสำหรับรถระดับนี้ คือ 8.2 ลิตร/100 กม. หรือ 12.2 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากปลายท่อไอเสีย 192 กรัม/กม. เมื่อเป็นตัวถังตรวจการณ์ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.33 ตัวเลขจะเปลี่ยนเป็น 4.2 วินาที 250 กม./ชม. 8.4 ลิตร/100 กม. หรือ 11.9 กม./ลิตร และ 196 กรัม/กม.
ส่วน เมร์เซเดส-เอเอมจี ซี 63 เอส (MERCEDES-AMG C 63 S) ทั้งตัวถังซีดานซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.33 และมีค่าตัว 84,370 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 3.37 ล้านบาทไทย และตัวถังตรวจการณ์ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.34 และมีค่าตัว 86,040 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 3.44 ล้านบาทไทย ก็ติดตั้งเครื่องยนต์ M177 เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการปรับแต่งจนกำลังสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 375 กิโลวัตต์/510 แรงม้า ที่ 5,500-6,250 รตน. และแรงบิดสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 700 นิวตัน-เมตร/71.4 กก.-ม. ที่ 1,750-4,500 รตน. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าก็เป็นเกียร์ AMG SPEEDSHIFT MCT7 เช่นกัน
ตัวเลขสมรรถนะความเร็วแตกต่างกันไปในแต่ละตัวถัง กล่าวคือ ตัวถังซีดาน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.0 วินาที และความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ส่วนตัวถังตรวจการณ์ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 4.1 วินาที และ 250 กม./ชม. ที่น่าแปลกใจ คือ อัตราการสิ้นเปลืองและปริมาณแกสคาร์บอนไดออกไซด์ที่ให้ตัวเลขเหมือนกันทุกประการกับรถ 2 โมเดลแรก ซึ่งเครื่องยนต์ให้กำลังต่ำกว่า นั่นคือ ตัวถังซีดานมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 8.2 ลิตร/100 กม. หรือ 12.2 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 192 กรัม/กม. โดยเฉลี่ย ตัวเลขจะเปลี่ยนเป็น 8.4 ลิตร/100 กม. หรือ 11.9 กม./ลิตร และ 196 กรัม/กม. ตามลำดับ กรณีเป็นรถตัวถังตรวจการณ์
MERCEDES-AMG C 63
* มีทั้งตัวถังซีดานและตัวถังตรวจการณ์
* ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.32-0.33
* เครื่องยนต์ไบเทอร์โบเบนซินฉีดตรง 476 แรงม้า
* ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
* ราคาในเยอรมนี 76,100-77,770 ยูโร
MERCEDES-AMG C 63 S
* มีทั้งตัวถังซีดานและตัวถังตรวจการณ์
* ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.33-0.34
* เครื่องยนต์ไบเทอร์โบเบนซินฉีดตรง 510 แรงม้า
* ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
* ราคาในเยอรมนี 84,370-86,040 ยูโร
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา * chusak@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2558
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/34185