เจออีกกี่ฝน ก็ไม่หวั่น !

เข้าสู่หน้าฝนมาสักพักหนึ่งแล้ว อย่าทนใช้ใบปัดน้ำฝนอันเก่า ที่ทั้งดัง ทั้งแข็ง ปัดแต่ละทีเกิดเส้นมัวๆ ไม่สะอาด พาลหงุดหงิดเสียอารมณ์ไปเปล่าๆ ดีไม่ดีอาจเกิดอุบัติเหตุได้อีก DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ ขอแนะนำวิธีการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน พร้อมวิธีเคลือบกระจกแบบง่ายๆ ระบบปัดน้ำฝนมีองค์ประกอบหลัก ดังนี้ มอเตอร์ปัดน้ำฝน มีหน้าที่สร้างแรงขับจากการเหนี่ยวนำจากสนามแม่เหล็ก สมัยก่อนจะเป็นแบบขดลวด (ใช้ขดลวดพันรอบแกนเพื่อสร้างสนามแม่เหล็ก) แต่ปัจจุบันใช้แม่เหล็กถาวร (เฟอร์ไรท์) กันหมดแล้ว มอเตอร์แม่เหล็กถาวรได้ถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง และเบาขึ้น จึงเป็นที่นิยมใช้กันเรื่อยมาจนปัจจุบัน ก้านปัดน้ำฝน ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงการหมุนของมอเตอร์ มาเป็นการเคลื่อนที่แบบส่ายไป/มาของแกนหมุน ด้านซ้าย/ขวาของก้านปัดน้ำฝน มักจะสั้น/ยาวไม่เท่ากัน เพื่อให้แนบกับส่วนโค้งของกระจกได้ดี หน้าที่หลักของก้านปัดน้ำฝน คือ การกวาดน้ำออกจากกระจก ก้านปัดน้ำฝนที่ดี ต้องรีดน้ำออกจากกระจกได้สม่ำเสมอ ไม่ก่อให้เกิดเสียงดังขณะปัด ไม่แข็งกระด้าง หากพบว่าการปัดไม่เกลี้ยง ยางมีรอยฉีกขาด หรืออาจปัดเรียบบางช่วง ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนได้แล้ว น้ำล้างกระจก น้ำที่ฉีดจากระบบฉีดน้ำฝน เป็นสิ่งสำคัญในการปัดล้างทำความสะอาดกระจก แถมยังช่วยหล่อลื่นให้สามารถปัดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ควรหมั่นตรวจเชคระดับน้ำในหม้อพักน้ำฉีดกระจกให้เต็มอยู่เสมอ ถ้าเป็นไปได้ควรใช้น้ำสะอาดเปล่าๆ (น้ำดื่มได้ยิ่งดี) เพื่อป้องกันการเกิดคราบตะกอนบริเวณหม้อพักน้ำ สายยาง และข้อต่อต่างๆ ซึ่งเมื่อเกิดตะกอนสะสมมากๆ อาจเกิดการอุดตันได้ คุณสมบัติของใบปัดน้ำฝนที่ดี - ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน้าสัมผัสของยางปัดน้ำฝนระหว่างปลายของยางปัดกับผิวกระจกประมาณ 0.01-0.05 มม. - ทนทาน และทนความร้อน ยางปัดต้องทำจากยางคุณภาพสูง สามารถทนต่อแสงแดด รังสีอุลทราไวโอเลท โอโซน และไอเสีย - ทนต่อสารเคมี (CHEMICAL RESISTANCE) ใบปัดต้องทนต่อสารเมธานอล (METHANAL) และสารละลายอื่นๆ ที่ใช้ในการล้าง - ทนต่อการทำงานของสารเคมี (ANTI-CORROSION) ใบปัดต้องมีการป้องกันสนิม และไม่เป็นตัวนำ เพื่อป้องกันใบปัดจากสารซัลไฟท์ในอากาศ - มีความมั่นคง (STABILITY) ใบปัดต้องมั่นคง และไม่ยกขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง เคลือบกระจก เพื่อทัศนวิสัยที่ดีในหน้าฝน การใช้รถในหน้าฝนนั้น นอกจากใบปัดน้ำฝนที่ดีแล้ว การใช้น้ำยาเคลือบกระจกพร้อมกันไปด้วย ย่อมดีขึ้นแน่ เพราะน้ำยาจะทำให้เกิดชั้นฟีล์มบนผิวกระจก เวลาโดนน้ำแล้ว น้ำจะไม่เกาะบนผิวกระจก แต่จะไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นขณะฝนตกดีขึ้น จนบางครั้งคุณอาจไม่ต้องปัดน้ำฝนเลยก็ได้ อุปกรณ์ 1. ก้านปัดน้ำฝน 2. น้ำยาเคลือบกระจก 3. ผ้าสะอาด 4. เข็ม ขั้นตอนการเปลื่ยนใบปัดน้ำฝน พร้อมเคลือบกระจก 1. ตรวจเชคการทำงาน โดยการฉีดน้ำของระบบปัดน้ำฝน ดูการทำงานของมอเตอร์ และก้านปัด 2. เมื่อเห็นว่าปัดไม่ดี ควรเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน โดยดึงแขนปัดน้ำฝนขึ้น 3. บีบเขี้ยวที่ลอคใบปัด เพื่อหลบเขี้ยวลอค ให้ยางหลุดออกมา และดึงออกจากแขนใบปัด 4. ประกอบยางกับใบปัดอันใหม่ แล้วดันเข้าไปตามช่องในโครงใบปัด 5. ดันจนกระทั่งยางเข้าลอคกับแขนใบปัด และลองขยับดูว่าแน่นสนิทหรือยัง 6. เชครูฉีดน้ำล้างกระจกว่าอุดตันหรือไม่ ใช้เข็มปรับให้ฉีดน้ำในตำแหน่งที่เหมาะสม 7. เปิดฝากระโปรงเชคน้ำในหม้อพักน้ำฉีดกระจก ถ้าพร่องให้เติมน้ำสะอาด ให้ถึงระดับ FULL 8. ทำความสะอาดกระจก และใช้ผ้าเช็ดกระจกให้แห้ง 9. เปิดฝา และเขย่าขวดก่อนใช้งาน 10. บีบน้ำยา GLA'CO ให้ทั่วกระจก 11. ถูตามแนวตั้ง หรือแนวนอนให้ทั่วบริเวณกระจก 12. ทำความสะอาดกระจกด้วยผ้าสะอาด เป็นอันเสร็จ