ผลทดสอบ
คู่สุดฮอท ครอสส์โอเวอร์หุ่นกระชับ
ครอสส์โอเวอร์ คือ รถกิจกรรมกลางแจ้งสมัยใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาหน้าตาและรูปแบบ ให้ทันสมัยมากขึ้น บางรุ่นต่อยอดจากรถเอสยูวี บางรุ่นนำพื้นฐานของรถเก๋งมายกสูง แล้วใส่ฟังค์ชันของรถอเนกประสงค์ ให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ฟอร์ด อีโคสปอร์ท (FORD ECOSPORT) และนิสสัน จูค (NISSAN JUKE) เป็น 2 รุ่น 2 บแรนด์ ที่รุกตลาดเซกเมนท์นี้ก่อนใคร 4 WHEELS นำรถทั้ง 2 รุ่นมาทดสอบสมรรถนะด้วยดาทรอน เพื่อพิสูจน์ว่า รุ่นใดน่าใช้กว่ากัน
FORD ECOSPORT 1.5L TITANIUM AT
ฟอร์ด อีโคสปอร์ท เป็นผลจากการผสมผสานระหว่างรถเก๋งระดับ บี เซกเมนท์ เข้ากับความเป็นตัวลุยแบบเอสยูวี มิติตัวถังใหญ่กว่าแฮทช์แบคร่วมค่าย อย่าง ฟิเอสตา (FIESTA) ทุกสัดส่วน โดย อีโคสปอร์ท มีความยาว/กว้าง/สูง อยู่ที่ 4,245/1,765/1,708 มม. และระยะฐานล้อ 2,521 มม. สัดส่วนตัวรถยาวและสูงกว่า นิสสัน จูค พอสมควร แต่ระยะฐานล้อ เกือบเท่ากัน
ภายนอกมีรูปแบบของรถเอสยูวีให้เห็นพอสมควร ไฟหน้าทรงสวยแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ พร้อมไลท์ไกด์ มาพร้อมระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ในรุ่นทอพ กระจังหน้าตัดเส้นสายด้วยโครเมียม เพิ่มความหรูหรา กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ยางอะไหล่แขวนไว้ด้านนอกประตูบานท้าย ถ่ายทอดภาพลักษณ์ของรถเอสยูวีแนวอนุรักษ์ เส้นสายรอบคันออกแบบได้คมเข้มและต่อเนื่องรับกัน ไฟท้ายขาว/แดง สวยงามทันสมัย เสริมความหรูหราด้วยแนวเส้นไฟท้ายแบบแอลอีดี และยังเว้าเป็นช่องสำหรับมือเปิดประตูบานท้ายอีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร มีความกว้างขวางที่น่าพอใจ แม้โครงสร้างพื้นฐาน คือ บี เซกเมนท์ แต่นำมายืดขยายสัดส่วนออกไป ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เหนือศีรษะที่มากกว่า นิสสัน จูค และแฮทช์แบคทั่วไป ส่งผลให้ดูโปร่งโล่งสบาย ไม่อึดอัด ทัศนวิสัยดี สำหรับระบบความบันเทิง ฟอร์ด ยังใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง (SYNC) ซึ่งปรับปรุงให้ทำงานสะดวก และง่ายดายกว่าเดิม
คอนโซลหน้ามีความโฉบเฉี่ยวไม่แพ้รถเก๋ง รูปแบบใกล้เคียงกับ ฟิเอสตา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถค่ายนี้ ตกแต่งกรอบสีเทา เพิ่มความหรูหรา แต่เมื่อส่องกระจกมองข้าง กรอบช่องแอร์กลับสะท้อนผ่านกระจก ทำให้บดบังทัศนวิสัยไปบ้าง
ในรุ่นทอพ ติดตั้งหลังคาซันรูฟ อุปกรณ์เสริมความหรู เบาะนั่งแบบ 5 ที่นั่ง หุ้มด้วยหนัง นั่งสบายและกระชับ สามารถปรับเอนได้เล็กน้อย และพับแยกได้แบบ 60:40 แถว 2 ปรับพับขึ้น หากพับเบาะแถว 2 หมดจะมีพื้นที่บรรทุกสูงสุดถึง 705 ลิตร
พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง มีระบบมัลทิฟังค์ชัน ระบบพวงมาลัยเป็นแบบเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ขับเลี้ยวในเมืองเบามือ คล่องตัว ติดตั้งระบบกุญแจรีโมทที่ทันสมัย พร้อมปุ่มสตาร์ทอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศ หน้าจอแบบดิจิทอล ทันสมัย ออกแบบเป็นทรงกลม แยกส่วน มาตรวัดติดตั้งจอแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน พร้อมอีโคโหมด
ที่ดูแปลกตา และขัดกับความรู้สึกขณะใช้งานไปบ้าง ก็คือ ฝาประตูท้ายที่ใช้แบบเปิดข้าง แทนแบบยกขึ้น รุ่นนี้เหมือนจะผิดฝั่งผิดฝากับบ้านเรา เพราะบ้านเราจอดริมฟุตบาทต้องชิดซ้าย แต่ประตูท้ายดันเปิดขวาแล้วสวิงมาซ้าย ทำให้เดินเข้า/ออกเพื่อขนสัมภาระได้ลำบาก นอกจากนี้ รถที่จอดต่อท้ายชิดๆ กัน ยิ่งทำให้ เปิดประตูท้ายได้ยากมากขึ้น
ฟอร์ด ให้ความมั่นใจว่า อีโคสปอร์ท เป็นรถที่มีระดับเสียงรบกวนน้อย และผลจากการวัดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร อีโคสปอร์ท มีระดับเสียงรบกวนในเกณฑ์ค่อนข้างดีในช่วงความเร็วสูง วัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทำได้ 61/63/66/68 เดซิเบล เงียบกว่า นิสสัน จูค พอสมควร
เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร TI-VCT วาล์วแปรผันแบบอิสระคู่ DOHC ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 6,300 รตน. และแรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. บลอคเดียวกับ ฟิเอสตา รุ่น 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ขับเคลื่อนกับเกียร์อัตโนมัติ คลัทช์คู่ 6 จังหวะ (POWERSHIFT)
เครื่องยนต์บลอคนี้ แม้ว่าจะติดตั้งใน อีโคสปอร์ท รูปทรงใหญ่กว่าแฮทซ์แบคอย่าง ฟิเอสตา ยังสามารถตอบสนองอัตราเร่งได้ทันใจ จังหวะเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลและต่อเนื่อง ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่เชื่องช้า
อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. 0-400 ม. และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 14.0/19.7/35.4 วินาที ตามลำดับ เช่นเดียวกับจังหวะเร่งแซงช่วงในเมือง 60-100 กม./ชม. และนอกเมือง 80-120 กม./ชม. ทำได้ 7.8/10.3 วินาที อยู่ในเกณฑ์พอใช้ สมรรถนะให้มาเพียงพอกับการใช้งาน ไม่ได้จี๊ดจ๊าดเกินตัว อัตราเร่งจึงเป็นรองคู่แข่ง อย่าง นิสสัน จูค อยู่บ้าง เนื่องจากเครื่องยนต์ของ นิสสัน จูค มีความจุมากกว่า และให้กำลังเยอะกว่า
วัดอัตราสิ้นเปลืองจากความเร็วคงที่ พบว่าในช่วงความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองที่ประหยัด ทำได้ดี โดยทำได้ 23.0/20.5/15.9/12.4 กม./ลิตร ประหยัดกว่า นิสสัน จูค ตั้งแต่ช่วงความเร็ว 80-120 กม./ชม. ส่วนที่ความเร็ว 60 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองมากกว่า นิสสัน จูค อยู่เล็กน้อย
ระบบรองรับของ อีโคสปอร์ท ให้ความนุ่มหนึบ ไม่เสียชื่อรถเชื้อสายอเมริกัน โดยเลือกใช้ระบบรองรับหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ทอร์ชันบีม มีความสูงของพื้นรถถึง 200 มม. สามารถข้ามความสูงระดับฟุตบาทได้สบาย
ช่วงล่างนุ่มแน่น ขับและนั่งสบายตลอดการเดินทาง ทั้งในสภาพถนนขรุขระ หรือในทางราบเรียบ ทางผู้ผลิตยังระบุด้วยว่า อีโคสปอร์ท สามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 550 มม. ระบบเบรคด้านหน้าแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดุม ล้อเป็นอัลลอย ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/60 R16 เสริมตัวช่วยด้านความปลอดภัยครบครัน ตั้งแต่ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว อีเอสพี ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน เอชแอลเอ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
แม้ว่า อีโคสปอร์ท จะเพียบพร้อมไปด้วยตัวช่วยมากมาย แต่จากผลทดสอบเบรค พบว่า มีระยะเบรคในช่วง 60/80-0 กม./ชม. และเบรคที่ความเร็วสูง 100-0 กม./ชม. ประสิทธิภาพเบรคจนรถหยุดนิ่งทำได้ไม่โดดเด่นเท่าที่ควร โดยทำไว้ 17.2/29.9/47.9 ม. ไม่ได้สร้างความน่าตื่นตา หรือมั่นใจในเรื่องของเบรคมากนัก แต่ถ้าเป็นการขับใช้งานทั่วไป จังหวะการเบรคต่างๆ ให้ความรู้สึกหน่วง และดึง ได้ดีทีเดียว
ฟอร์ด อีโคสปอร์ท ครอสส์โอเวอร์สมัยใหม่ ดูสวยมีเสน่ห์ เหมาะกับยุคสมัย ใช้รถคันเดียวทั้งเที่ยวและทำงาน ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดี มีซันรูฟที่หรูหรา เครื่องยนต์พอตัว ประหยัด อุปกรณ์ใช้สอยให้มาครบ มีตัวช่วยด้านความปลอดภัย ไม่น้อยหน้าใคร พร้อมรุ่นย่อยให้เลือกเยอะ คุ้มค่าคุ้มราคา
ข้อมูลจำเพาะ ฟอร์ด อีโคสปอร์ท 1.5 แอล ไททาเนียม เอที
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2790-9000
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,245/1,765/1,708
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,519/1,524
ฐานล้อ (มม.) 2,521
น้ำหนัก (กก.) 1,465
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 45
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DURATEC
ความจุ (ซีซี) 1,498
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 80.5/88.4
อัตราส่วนกำลังอัด 11.0:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 110/6,300
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 14.5/4,400
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 6
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง กึ่งอิสระ ทอร์ชันบีม
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน เพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี อีเอสพี
หน้า จาน พร้อมช่องระบายอากาศ
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 829,000
ผลทดสอบจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 6.5
0-80 กม./ชม. 9.9
0-100 กม./ชม. 14.0
0-120 กม./ชม. 20.2
0-140 กม./ชม. 27.8
0-400 ม. 19.7 วินาที ที่ความเร็ว 118.5 กม./ชม.
0-1,000 ม. 35.4 วินาที ที่ความเร็ว 149.7 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 7.8
80-120 กม./ชม. 10.3
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม 17.2 /0.82
80-0 กม./ชม. 29.9/0.84
100-0 กม./ชม. 47.9/0.82
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 41
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 61
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 63
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 66
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 68
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 23.0 4.3
80 20.5 4.9
100 15.9 6.3
120 12.4 8.1
0-100 กม./ชม. ควอร์เตอร์ไมล์ 0-400 ม. ระยะเบรค 100-0 กม./ชม.
14.0 วินาที 19.7 วินาที ที่ 118.5 กม./ชม. 47.9 ม.
มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,245/1,765/1,708 มม. ระยะฐานล้อ 2,521 มม.
-------------------------------------------------------------------------------------------------
NISSAN JUKE 1.6V
นิสสัน จูค ครอสส์โอเวอร์น้องใหม่ สวยแปลกแหวกแนว ภายใต้แนวคิด "BORN TO EXCITE" โดดเด่นด้วยระบบควบคุมการทำงานอัจฉริยะ I-CON และระบบอินเตอร์เนท I-CONNECT สามารถเชื่อมต่อระบบมัลทิมีเดียเอนเตอร์เทนเมนท์ทุกรูปแบบ
นิสสัน จูค ไม่ได้เน้นความใหญ่โต ด้วยดีไซจ์นที่ถูกสร้างเป็นครอสส์โอเวอร์ แนวแฟชัน มีความยาว/กว้าง/สูง อยู่ที่ 4,135/1,765/1,580 มม. และระยะฐานล้อ 2,520 มม. สัดส่วนตัวรถจึงสั้นและแคบกว่า ฟอร์ด อีโคสปอร์ท ค่อนข้างชัดเจน ส่วนขนาดความกว้างและฐานล้อนั้นพอๆ กัน
รูปลักษณ์ของ นิสสัน จูค แหวกแนวสะดุดตา โดยเฉพาะโฉมหน้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โคมไฟสูง/ต่ำแบบซีนอน ทรงกลม อยู่ตรงบริเวณกันชนหน้า ใต้กระจังหรือแผงรับลม ส่วนชุดไฟเลี้ยวและไฟหรี่ไปอยู่ในตำแหน่งของไฟใหญ่แทน เป็นการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ไฟท้ายรูปทรงบูเมอแรง เส้นด้านข้างแบบ HIGH WAISTLINE มือเปิดประตูหลังกลมกลืนไปกับขอบกระจก สะท้อนอารมณ์สปอร์ท พร้อมสปอยเลอร์หลัง
ภายในเน้นอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย แฝงความสปอร์ท โดนใจวัยรุ่น ตกแต่งด้วยโทนสีดำ-แดง แผงหน้าปัดทรงกลม พร้อมมาตรวัดขนาดใหญ่ แผงคอนโซลกลางและแผงข้างประตูโทนสีแดง เบาะนั่งทรงสปอร์ทโอบกระชับลำตัวผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร บุหนังสีดำเดินด้ายแดง แนวหลังคาลาดเทมาด้านหลัง ตามสไตล์ของรถครอสส์โอเวอร์ ทำให้พื้นที่ด้านบนเหนือศีรษะค่อนข้างน้อย ผู้โดยสารด้านหลัง ตัวสูงใหญ่ ค่อนข้างอึดอัด จังหวะกระโดดคอสะพาน ศีรษะอาจกระแทกหลังคาได้ พนักพิงเบาะหลังพับแยกได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง พวงมาลัย 3 ก้านทรงสปอร์ท พร้อมระบบมัลทิฟังค์ชัน ควบคุมเครื่องเสียง และรองรับ BLUETOOTH
นิสสัน จูค ติดตั้งระบบปรับอากาศอัจฉริยะ I-CON ที่มีโหมดควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร (CLIMATE MODE) ปรับอุณหภูมิและแรงลมได้อัตโนมัติ และตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีโหมดควบคุมการขับขี่ (DRIVE MODE) ที่เลือกได้ 3 รูปแบบ ทั้งโหมดการขับขี่แบบปกติ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ท และโหมดการขับขี่แบบประหยัด
เครื่องเสียงระบบ I-CONNECT ตอบสนองคอบันเทิงแบบทันสมัย โดนใจวัยรุ่น หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อ WI-FI, BLUETOOTH รวมถึงระบบเชื่อมต่อ IPOD, USB, MICRO SD CARD และ AUX สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เนทผ่าน WI-FI หน้าจอสามารถถอดพกพาเคลื่อนที่ไปใช้งานได้ แต่ต้องพ่วงกับเพาเวอร์แบงค์ หรือแบทเตอรีสำรอง เท่านั้น
วัดระดับเสียงรบกวนจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม.ชม. ทำได้ 63/65/67/71 เดซิเบล พอสรุปได้ว่า นิสสัน จูค มีระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร อยู่ในเกณฑ์พอใช้ในช่วงความเร็วสูง และดังกว่า ฟอร์ด อีโคสปอร์ท อยู่เล็กน้อยทุกช่วงความเร็ว
เครื่องยนต์รหัส HR16 ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ ผสานกับระบบวาล์วแปรผันคู่ TWIN C-VTC แรงบิดสูงสุด 15.7 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. กำลังสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 5,600 รตน. ใช้ระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT ใหม่ เลือกเปลี่ยนเกียร์ได้เหมาะสม พร้อมระบบเฟืองทดกำลังขับเคลื่อนแบบ SUB-PLANETARY GEAR
สมรรถนะโดดเด่นพอตัว เครื่องขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีดคู่ ที่ใช้ใน ซิลฟี และพัลซาร์ ตอบสนองการขับขี่ได้ดี อัตราเร่งค่อนข้างโดดเด่น ไม่อืดหรือรอรอบนาน จังหวะแซงกดคันเร่งเพิ่มก็สามารถพารถทะยานขึ้นไปได้อย่างไม่ยากเย็น เมื่อลองใช้โหมดสปอร์ท ตอบสนองไว ลากรอบได้ยาว ส่วนโหมดอีโค จะเน้นการขับขี่แบบประหยัด ใช้รอบเครื่องยนต์ไม่สูง
อัตราเร่งเราวัดจากโหมดการขับขี่แบบปกติ ช่วงตีนต้น 0-100 กม./ชม. 0-400 ม. และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 12.4/18.7/34.1 วินาที ตามลำดับ เช่นเดียวกับจังหวะเร่งแซงช่วงในเมือง 60-100 กม./ชม. และนอกเมือง 80-120 กม./ชม. ในเวลา 6.5/8.5 วินาที ทำได้ในระดับค่อนข้างดี สมรรถนะเร้าใจ จี๊ดจ๊าดดี อัตราเร่งดีกว่าคู่แข่งอย่าง ฟอร์ด อีโคสปอร์ท ค่อนข้างชัดเจน
วัดอัตราสิ้นเปลืองจากความเร็วคงที่ พบว่าอัตราสิ้นเปลืองในช่วงความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองที่ค่อนข้างประหยัด โดยทำได้ 23.0/20.5/15.9/12.4 กม./ลิตร เมื่อเทียบกับ ฟอร์ด อีโคสปอร์ท จะประหยัดกว่าแค่ช่วงความเร็ว 60 กม./ชม. นอกนั้นมีอัตราสิ้นเปลืองมากกว่าเล็กน้อย ทุกช่วงระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรคหน้าแบบจาน พร้อมครีบระบายความร้อน เบรคหลังเป็นดุม พร้อมระบบป้องกันล้อลอค เอบีเอส มีระบบเสริมแรงเบรค บีเอ และระบบกระจายแรงเบรค อีบีดี ตัวช่วยเสริมระบบเบรค ให้มาค่อนข้างครบ เซทช่วงล่างเน้นความหนึบ อารมณ์สปอร์ท ตามสไตล์ของช่วงล่าง นิสสัน ยุคใหม่ บังคับควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ขับขี่ในเมืองรวมถึงเมื่อใช้ความเร็วสูง การตอบสนองของพวงมาลัยดี ไม่เบาและหนักจนเกินไป แต่ผ่านเส้นทางขรุขระมีอาการดีดดิ้นเล็กน้อยตามสไตล์ของช่วงล่างหนึบ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายก้านสวยงาม พร้อมยางขนาด 215/55 R17
จากผลทดสอบเบรค พบว่ามีระยะเบรคในช่วง 60/80-0 กม./ชม. และเบรคที่ความเร็วสูง 100-0 กม./ชม. ประสิทธิภาพเบรคจนรถหยุดนิ่งทำได้ค่อนข้างดี โดยทำได้ 16.3/29.5/44.0 ม.
นิสสัน จูค เป็นรถที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ชอบความโดดเด่นมีเอกลักษณ์ชัดเจน เทคโนโลยีทันสมัย ท่องโลกในยุคไอทีได้สบาย ขับสนุก ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในและนอกเมือง
ข้อมูลจำเพาะ นิสสัน จูค 1.6 วี
ผู้จัดจำหน่าย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2401-9600 และ www.nissan.co.th
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,135/1,765/1,580
ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,503/1,509
ฐานล้อ (มม.) 2,520
น้ำหนัก (กก.) 1,193
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 52
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว TWIN C-VVC
ความจุ (ลิตร) 1,598
กระบอกสูบ/ช่วงชัก 78.0/83.6
อัตราส่วนกำลังอัด 9.8:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 116/5,600
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 15.7/4,000
ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีดมัลทิพอยท์ ECCS 32 บิท
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ XTRONIC CVT
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง
หลัง คาน ทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟไฟ้า (EPS)
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี บีเอ
หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 858,000
ผลทดสอบจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 5.8
0-80 กม./ชม. 8.6
0-100 กม./ชม. 12.4
0-120 กม./ชม. 17.3
0-140 กม./ชม. 25.4
0-400 ม. 18.7 วินาที ที่ความเร็ว 123.8 กม./ชม.
0-1,000 ม. 34.1 วินาที ที่ความเร็ว 153.0 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 6.5
80-120 กม./ชม. 8.5
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม 16.3/0.87
80-0 กม./ชม. 29.5/0.85
100-0 กม./ชม. 44.0/0.89
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 40
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 63
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 65
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 67
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 71
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 26.5 3.8
80 19.8 5.1
100 14.8 6.8
120 11.5 8.7
0-100 กม./ชม. ควอร์เตอร์ไมล์ 0-400 ม. ระยะเบรค 100-0 กม./ชม.
12.4 วินาที 18.7 วินาที ที่ 123.8 กม./ชม. 44.0 ม.
มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,135/1,765/1,580 มม. ระยะฐานล้อ 2,520 มม.
เรื่องโดย : ณัฐเวช ยอดแสง nattawate@autoinfo.co.th
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/33310