บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและใหญ่ที่สุดของโลกซึ่งเรียกขานกันสั้นๆ ว่า โตโยตา (TOYOTA) นับเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีสินค้าให้คนรักรถเลือกใช้ได้หลากหลายมาก จนน่าจะกล่าวได้ว่า มากกว่าบริษัทรถยนต์ทุกๆ รายในโลกใบนี้ คือ มีตั้งแต่รถเก๋งขนาดกระจิริดอย่าง โตโยตา ไอคิว (TOYOTA IQ) ไปจนถึงรถหรูผลิตด้วยมืออย่าง โตโยตา เซนทูรี (TOYOTA CENTURY) มีตั้งแต่อีโคคาร์ที่รู้จักกันดีในบ้านเราอย่าง โตโยตา วีออส (TOYOTA VIOS) ไปจนถึงรถสปอร์ทความเร็วสูงอย่าง โตโยตา 86 (TOYOTA 86) และมีแม้กระทั่งรถที่พบได้ในประเทศอื่น แต่อย่าพยายามไปเสาะหาในเมืองแม่อย่าง โตโยตา ไฮแลนเดอร์ (TOYOTA HIGHLANDER) ที่เพิ่งผ่านตาไปสดๆ ร้อนๆ

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและใหญ่ที่สุดของโลกซึ่งเรียกขานกันสั้นๆ ว่า โตโยตา (TOYOTA) นับเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีสินค้าให้คนรักรถเลือกใช้ได้หลากหลายมาก จนน่าจะกล่าวได้ว่า มากกว่าบริษัทรถยนต์ทุกๆ รายในโลกใบนี้ คือ มีตั้งแต่รถเก๋งขนาดกระจิริดอย่าง โตโยตา ไอคิว (TOYOTA IQ) ไปจนถึงรถหรูผลิตด้วยมืออย่าง โตโยตา เซนทูรี (TOYOTA CENTURY) มีตั้งแต่อีโคคาร์ที่รู้จักกันดีในบ้านเราอย่าง โตโยตา วีออส (TOYOTA VIOS) ไปจนถึงรถสปอร์ทความเร็วสูงอย่าง โตโยตา 86 (TOYOTA 86) และมีแม้กระทั่งรถที่พบได้ในประเทศอื่น แต่อย่าพยายามไปเสาะหาในเมืองแม่อย่าง โตโยตา ไฮแลนเดอร์ (TOYOTA HIGHLANDER) ที่เพิ่งผ่านตาไปสดๆ ร้อนๆ เฉพาะในส่วนของรถกิจกรรมกลางแจ้งทั้งพันธุ์แท้และข้ามพันธุ์ ยักษ์ใหญ่รายนี้มีสินค้าให้เลือกใช้สารพัดแบบสารพัดขนาด ชนิดนับไม่ถ้วนด้วยนิ้วมือทั้งสองข้าง คือ มีตั้งแต่รถขนาดเล็กกะทัดรัดอย่าง โตโยตา รัช (TOYOTA RUSH) ซึ่งยังไม่เคยเห็นในบ้านเรา ไปจนถึงรถขนาดใหญ่โตมโหฬารอย่าง โตโยตา เซกูโออีอา (TOYOTA SEQUOIA) ซึ่งมีขายแต่ในตลาดอเมริกาเหนือ ไม่มีขายในญี่ปุ่น มีทั้งรถที่ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน มีทั้งรถที่ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์ดีเซล และมีแม้กระทั่งรถที่ขับแบบไฮบริด ที่ตอนนี้ยังไม่มี แต่อีกไม่นานเกินรอก็คงจะมี ก็คือ รถที่ขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีเครื่องยนต์ ในบรรดารถกิจกรรมกลางแจ้งสารพัดแบบสารพัดขนาดที่กล่าวข้างต้น ไม่มีตัวเลขอะไรยืนยัน แต่ก็เชื่อว่ารถติดป้ายชื่อ โตโยตา รัฟโฟร์ (TOYOTA RAV4) ที่เลือกมาปิด"ระเบียงรถใหม่"ในเดือนนี้ น่าจะเป็นรถที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันดีที่สุด รวมทั้งคนรักรถในประเทศไทยของเรา ยักษ์ใหญ่ของเมืองยุ่นเริ่มนำรถติดป้ายชื่อ โตโยตา รัฟโฟร์ (TOYOTA RAV4) ออกสู่ตลาดเมื่อปี 1994 รถรุ่นแรกซึ่งมีทั้งแบบ 3 ประตู แบบ 5 ประตู และมีรหัสรุ่น XA10 อยู่ในสายการผลิตในช่วงปี 1994-2000 แล้วก็ถูกแทนที่ด้วยรถรุ่นที่ 2 ซึ่งมีรหัสรุ่น XA20 และก็เหมือนกับรถรุ่นแรกตรงที่มีการผลิตทั้งในญี่ปุ่น และที่เมือง ซานตา โรซา ซิที (SANTA ROSA CITY) ในฟิลิปปินส์ รถรุ่นนี้อยู่ในสายการผลิตเพียง 5 ปี คือ จนถึงปี 2005 ก็มีรถรุ่นที่ 3 รหัส XA30 ซึ่งมีแต่ตัวถัง 5 ประตูมาแทนที่ ส่วนที่เห็นอยู่นี้เป็นรถรุ่นที่ 4 เพิ่งปรากฏตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์ลอสแองเจลิสในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 และขณะนี้ออกขายในเมืองมะกันไปแล้วในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2013 แต่ยังไม่มีขายในญี่ปุ่น รถรุ่นล่าสุดนี้อยู่ในตัวถังทรงสองกล่อง ยาว 4.570 ม. กว้าง 1.845 ม. และสูง 1.660 ม. ติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว นั่งได้รวม 5 คน เป็นตัวถังที่ยาวขึ้นถึง 21.5 ซม. กว้างขึ้นถึง 3.0 แต่เตี้ยลง 2.5 ซม. เมื่อเทียบกับตัวถังของรถรุ่นก่อน รูปทรงองค์เอวของตัวถังภายนอกมีเส้นสายที่ทำให้ดูดีกว่ารถรุ่นก่อน แต่หน้าตายังสองจิตสองใจไม่กล้าฟันธงว่าชวนมองกว่ารถรุ่นก่อน เช่นเดียวกับรุ่นที่เพิ่งถูกปลดจากสายการผลิต โตโยตา รัฟโฟร์ ที่ออกโชว์รูมในเมืองมะกันมีทั้งแบบขับล้อหน้า และแบบขับทุกล้อ ทั้ง 2 แบบมีการตกแต่ง/อุปกรณ์ให้เลือกรวม 3 ระดับ กำกับด้วยรหัส LE-XLE-LIMITED แต่เครื่องยนต์ไม่เปิดโอกาสให้เลือก เพราะมีเพียงขนาดเดียว คือ เครื่องเบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 2,494 ซีซี 129 กิโลวัตต์/176 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้า หรือทั้งคู่หน้าและคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกรวม 9 สี คือ สีเงิน CLASSIC SILVER METALLIC สีขาว SUPER WHITE สีขาว BLIZZARD PEARL สีเทาเข้ม MAGNETIC GRAY METALLIC สีดำ BLACK สีแดง BARCELONA RED METALLIC สีน้ำตาล PURITE MICA สีเขียว SPRUCE MICA และสีฟ้า SHORELINE BLUE ค่าตัว MSRP ซึ่งเป็นราคาขายปลีกที่ผู้ผลิตแนะนำ แบบขับล้อหน้าอยู่ระหว่าง 23,300-27,010 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือเท่ากับประมาณ 722,000-837,000 บาทส่วนแบบขับทุกล้อแพงขึ้นนิดหน่อย คือ 24,700-28,410 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 766,000-881,000 บาท