ทั่วไป
ทดสอบเปรียบเทียบ 4 รุ่น สุดฮอท
ซูซูกิ สวิฟท์ (SUZUKI SWIFT) ถือเป็นรุ่นที่ 2 ที่ทำตลาดในบ้านเรา โดยรุ่นก่อนหน้านี้ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร และนำเข้าทั้งคันจากประเทศอินโดนีเซีย มาครั้งนี้ สวิฟท์ ถูกจัดให้เป็นหัวหอกหลักในการลุยตลาดรถในวงกว้างอย่างเต็มตัว ด้วยตัวถังรุ่นล่าสุด เส้นสายยังอิงจากรุ่นก่อนหน้านี้เป็นส่วนใหญ่ แต่เสริมแต่งความปราดเปรียวมากกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วนขุมกำลังก็ลดขนาดลงมาเหลือ 1.2 ลิตร ตามกฏเกณฑ์ของ อีโคคาร์
แม้ สวิฟท์ จะมีรูปทรงไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้มากนัก แต่ความจริงแล้วมีมิติใหญ่กว่า โดยเฉพาะระยะความกว้างของล้อคู่หน้า/หลังที่ 1,490/1,495 มม. (รุ่นทอพ จีแอลเอกซ์ 1,480/1,485 มม.) เทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ 1,470/1,480 มม. ทำให้ สวิฟท์ แบบอีโคคาร์มีความมั่นคงขณะแล่นที่ดี แม้ช่วงล่างจะถูกปรับแต่งให้มีความนุ่มนวลมากกว่าก็ตามที
เส้นสายภายนอกยังคงสมฉายา มีนี จากญี่ปุ่น เสา เอ สีดำ หลังคาแนวระนาบ ขนานกับพื้น ขณะที่เส้นด้านข้างทรงเฉียง เพิ่มความปราดเปรียว แต่อาจมีผลให้พื้นที่กระจกของผู้โดยสารด้านหลังน้อยลงตามกัน รวมไปถึงกระจกท้ายที่มีมุมมองค่อนข้างบีบเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว สวิฟท์ เป็นอีโคคาร์ที่มีรูปทรง ปราดเปรียวสไตล์สปอร์ท และลงตัวมากที่สุดคันหนึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งหลาย
ภายในของ สวิฟท์ ออกแบบได้สวยงาม เน้นมาดสปอร์ทด้วยโทนสีดำ การประกอบที่แน่นหนา มีคุณภาพดีไม่แพ้รถยนต์ระดับ 1.5 ลิตร เสียด้วยซ้ำ รุ่นทอพ จีแอลเอกซ์ ติดตั้งพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แอร์อัตโนมัติ เบาะด้านคนขับปรับระดับสูง/ต่ำได้ กระจกมองข้างปรับ/พับด้วยไฟฟ้า เบาะด้านหลังพับได้แบบ 60:40 และที่แตกต่างจากคู่แข่งอีกประการ คือ ล้อแมกที่ให้มาถึง 16 นิ้ว
ด้านสมรรถนะ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ของ สวิฟท์ (รุ่นที่เราได้ทดสอบเป็นรุ่นรองทอพ จีแอล) กำลัง 91 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 12.0 กก.-ม. ที่ 4,800 รตน. มีการตอบสนองที่ดีทั้งความเร็วต้น และปลาย จากอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 14.9 วินาที แทบเฉือนกันไม่ลงกับคู่แข่งเครื่องยนต์ 4 สูบ บรีโอ ที่ทำเวลาได้ 14.8 วินาที
จุดเด่น คือ ความเร็วปลาย อัตราเร่ง 0-1,000 ม. ทำได้ดีกว่าคู่แข่ง สวิฟท์ ใช้เวลา 36.0 วินาที ที่ความเร็ว 144.9 กม./ชม. ขณะที่ บรีโอ ทำเวลาได้ 36.3 วินาที ที่ ความเร็ว 139.2 วินาที (ถูกลอคความเร็วปลาย) และ มาร์ช 36.7 วินาที ที่ 137.8 กม./ชม.
เรียกได้ว่ามีสมรรถนะที่น่าพอใจไม่แพ้รูปทรง แม้ช่วงแรกที่ออกตัวจะมีการตอบสนองคันเร่งช้าเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นไม่นาน กำลังก็ไหลมาต่อเนื่อง ไปถึงช่วยความเร็วปลาย ขณะที่พวงมาลัยให้การควบคุมที่ฉับไว มีน้ำหนักทฃมากกว่าอีโคคาร์รุ่นอื่นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นรถอีโคคาร์ นอกจากสมรรถนะที่ดีแล้ว สวิฟท์ มีการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีด้วย ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. แตะ 32.9 กม./ลิตร ขณะที่ช่วง 100 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 19.2 กม./ลิตร ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ ด้วย
ซูซูกิ สวิฟท์ ได้จุดเด่นเรื่องรูปทรงภายนอกลงตัว การตกแต่งภายในมีคุณภาพดีเกินราคา อุปกรณ์มาตรฐาน (ตามแต่รุ่นย่อย) จัดมาครบ สมรรถนะที่น่าพอใจ ทำให้รถคันนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจนยอดจองยาวเหยียด สิ่งที่ทาง ซูซูกิ ต้องใส่ใจ คือ จำนวนของศูนย์บริการที่ต้องรองรับได้ทั่วถึง ซึ่งเป็นงานเร่งด่วนที่ค่ายรถแห่งนี้กำลังทำอยู่อย่างขะมักเขม้น
ข้อมูลจำเพาะ ซูซูกิ สวิฟท์ จีแอลเอกซ์
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 1800-600-900
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,850/1,695/1,510
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,588/1,585
ฐานล้อ (มม.) 2,430
น้ำหนัก (กก.) 975
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 42
เครื่องยนต์
แบบ 4 สูบ
ความจุ (ซีซี) 1,242
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 73.0/74.2
อัตราส่วนกำลังอัด 11.0:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 91/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 12.0/4,800
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ ซีวีที
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง
หลัง ทอร์ชันบีม พร้อมคอยล์สปริง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี
หน้า จาน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 559,000
นิสสัน อัลเมรา (NISSAN ALMERA) อีโคคาร์ ที่แหวกแนวกว่าใครอื่น ด้วยตัวถังแบบซีดาน แถมมีขนาดตัวที่ใหญ่เกินคาด มีความยาวถึง 4,425 มม. และระยะฐานล้อ 2,600 มม. เทียบกันแล้วจะใกล้เคียงกับซีดานระดับ 1.5 ลิตร อย่าง ฮอนดา ซิที (HONDA CITY) ด้วยซ้ำ กับมิติ 4,415 และ 2,550 มม. ตามลำดับ ในต่างประเทศจะใช้ชื่อรุ่นว่า ซันนี (SUNNY) ใช้เครื่องยนต์พิกัด 1.5-1.6 ลิตร แต่ในเมื่อรถคันนี้ถูกวางตำแหน่งเป็นอีโคคาร์แล้ว เครื่องยนต์ที่ใช้จึงมีขนาด 1.2 ลิตร บลอคเดียวกับของเพื่อนร่วมค่ายอย่าง มาร์ช
การตกแต่งภายใน คุ้นตากับของ มาร์ช ด้วยคอนโซลกลางทรงกลม พวงมาลัยใช้ร่วมกันแต่เพิ่มปุ่มมัลทิฟังค์ชัน (ในรุ่น วี และ วีแอล) ตกแต่งเน้นโทนสีดำรอบคัน เจือความหรูด้วยการใช้วัสดุเคลือบโครเมียม ส่วนแอร์อัตโนมัติ และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ มีมาให้เท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตามจุดเด่นสำคัญของซีดานคันนี้ ความกว้างขวางของห้องโดยสาร ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่วางขาเหลือเฟือ นอกจากนี้พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายก็กว้างขวางเช่นกัน แต่น่าเสียดายเล็กน้อยที่เบาะหลังไม่สามารถพับเก็บลงมาได้
ตัวถังขนาดใหญ่กว่าอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ ทำให้ อัลเมรา มีน้ำหนักรวมมากที่สุดตาม โดยในรุ่นทอพ 962-1,027 กก. (มาร์ช 900-965 กก. และ สวิฟท์ 960-975 กก.) ส่วนขุมกำลังที่ใช้ เหมือน มาร์ช ทุกประการ เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 10.8 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน.
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. ทำได้ 32.2/27.7/20.6 กม./ลิตร ซึ่งเป็นที่ตัวที่ทำได้ดีกว่าบรรดาอีโคคาร์สไตล์แฮทช์แบครายอื่นด้วยซ้ำ ! เป็นไปได้ว่าตัวถังแบบซีดานอาจช่วยเรื่องความลู่ลมขณะแล่นที่ความเร็วคงที่ ทำให้การสิ้นเปลืองยังคงทำได้ดีตามมาตรฐานของ อีโคคาร์ และยังเสริมการประหยัดเชื้อเพลิงในเมืองด้วยระบบ IDLING STOP ปรับปรุงให้ทำงานง่ายกว่าของ มาร์ช
อย่างไรก็ตามในแง่ของอัตราเร่งแล้ว อัลเมรา ไม่สามารถหนีกฎทางฟิสิกส์ได้ ด้วยพละกำลังที่เท่าเดิม (เมื่อเทียบกับ มาร์ช) แต่น้ำหนักรวมมากขึ้น อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 16.4 วินาที ขณะที่ มาร์ช ทำได้ 15.1 วินาที และ บรีโอ 14.8 วินาที เป็นไปตามที่เรารู้สึกคืด ยามออกตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ
ยิ่งในส่วนอัตราเร่งช่วงความเร็วปลาย 0-1,000 ม. อัลเมรา ใช้เวลา 37.4 วินาที ที่ความเร็ว 140.4 กม./ชม. (มาร์ช 36.7 วินาที ที่ 137.8 กม./ชม. และ บรีโอ 36.3 วินาที ที่ความเร็ว 139.2 กม./ชม.)
รถคันนี้อาจมีอัตราเร่งที่ช้ากว่าคันอื่นบ้าง แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันก็ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร สามารถแล่นถึงความเร็วกว่า 130-140 กม./ชม. อย่างไม่ยากเย็น และยังให้ความมั่นใจขณะควบคุมรถ
นิสสัน อัลเมรา อีโคคาร์สไตล์ซีดานคันแรก พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ อุปกรณ์มาตรฐานยังให้มาครบ รวมไปถึงระบบ IDLING STOP ที่ถูกปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้น น้ำหนักตัวที่มากกว่าเดิม ไม่มีผลต่ออัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง แต่สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ คือ อัตราเร่งที่อาจจะอืดกว่าบรรดาแฮทช์แบคทั้งหลายเล็กน้อย อย่างไรเสียสำหรับคนที่เน้นความประหยัด และคุ้มค่า รถซีดานคันนี้ถือว่าให้มามากเกินพออยู่แล้ว
ข้อมูลจำเพาะ นิสสัน อัลเมรา
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2401-9600
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,425/1,695/1,500
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,480/1,485
ฐานล้อ (มม.) 2,600
น้ำหนัก (กก.) 1,027
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 41
เครื่องยนต์
แบบ เบนซิน 3 สูบ 12 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 1,198
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 78.0/83.6
อัตราส่วนกำลังอัด 10.2:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 79/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 10.8/4,400
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิคมัลทิพอยท์
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติแปรผัน
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง ทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี และบีเอ
หน้า จาน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 599,000
นิสสัน มาร์ช (NISSAN MARCH) เป็นรถรุ่นแรกที่เปิดตลาด อีโคคาร์ ด้วยจังหวะที่ตลาดโลกกำลังได้เวลาเปลี่ยนรุ่นพอดิบพอดี โดยในบางประเทศใช้ชื่อรุ่นว่า ไมครา (MICRA) รูปทรงภายนอกเน้นความโค้งมน เรียบง่าย แต่แฝงมิติตัวถังที่ใกล้เคียงรถระดับ บี เซกเมนท์ อย่าง โตโยตา ยาริส (TOYOTA YARIS) ระยะฐานล้อเกือบจะเท่ากัน (มาร์ช 2,450 มม. ขณะที่ ยารีส 2,460 มม.) ขณะที่ความยาวเท่ากันพอดีที่ 3,800 มม.
ผลจากตัวถังที่พอเพียงดังกล่าว ทำให้พื้นที่ภายในของ มาร์ช นั่งได้สะดวกสบาย โดยเฉพาะผู้โดยสารด้านหน้า การแตกแต่ง รวมไปถึงวัสดุที่ใช้มีคุณภาพดีเกินคาด บางรุ่นย่อยมีกระทั่งแอร์อัตโนมัติ กระจกข้างปรับ/พับด้วยไฟฟ้า สัญญาณเตือนกะระยะขณะถอยหลัง และล่าสุดติดตั้งเบาะนั่งคู่หลังพับแยกได้แบบ 60:40 พร้อมพนักศีรษะ นอกจากนี้ยังเพิ่มความหลากหลายของการบรรทุกสัมภาระ และการโดยสาร ในแง่ของการใช้สอยแล้วถือว่ารถรุ่นนี้ให้มาครบไม่แพ้รถยนต์ราคาแพงกว่าบางรุ่นเลยทีเดียว
เครื่องยนต์ที่ใช้มีขนาด 1.2 ลิตร ตามเกณฑ์ของอีโคคาร์ กำลัง 79 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 10.8 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติแปรผัน (XTRONIC CVT)
แม้เป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ กับตัวเลขแรงม้าไม่มากนัก แต่อัตราเร่งถือว่าทำได้ดี ไม่ทิ้งห่างคู่แข่งเท่าใดนัก จากอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. มาร์ช ทำได้ 15.1 วินาที ขณะที่ ฮอนดา บรีโอ 14.8 วินาที และ ซูซูกิ สวิฟท์ 14.9 วินาที
บุคลิกของ มาร์ช จะตอบสนองดีในช่วงต้น แต่ในช่วงความเร็วปลายจะมีแผ่วลงบ้าง อัตราเร่ง 0-1,000 กม. ทำได้ 36.7 วินาที ที่ 137.8 กม./ชม. (บรีโอ 36.3 วินาที ที่ 139.2 กม./ชม. และ สวิฟท์ 36.0 วินาที ที่ 140.4 กม./ชม.) แต่เราพบว่าความเร็วปลายสามารถไหลได้ถึง 150-160 กม./ชม. เรียกได้ว่ามาช้า แต่มาเรื่อยๆ
ด้านการประหยัดเชื้อเพลิง ช่วงความเร็ว 60 กม./ชม. ทำได้ถึง 31.9 กม./ลิตร ขณะที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ทำได้ 20.1 กม./ลิตร ตามมาตรฐานของอีโคคาร์ จุดเด่นสำคัญของ มาร์ช อยู่ที่ระบบ IDLING STOP โดยจะดับเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติเมื่อหยุดรถ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มเติมโดยเฉพาะยามจอดสนิทในเมือง แม้การใช้งานระบบดังกล่าวจะค่อนข้างจุกจิกพอสมควรก็ตาม แต่ถือว่าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่น่าสนใจมาก เพราะรถยนต์ระดับล้านบาทยังไม่มีมาให้ด้วยซ้ำ !
มาร์ช ปรับแต่งการบังคับควบคุม และระบบรองรับ ที่นุ่มนวล ตามสไตล์ของรถที่เน้นการใช้งานในเมือง รวมไปถึงสภาพถนนในบ้านเราด้วย แต่ที่ความเร็วสูงยังให้ความมั่นใจเป็นอย่างดี
จุดเด่นของรถคันนี้ที่เรารับรู้จากการทดสอบ คือประสิทธิภาพของระบบเบรคที่โดดเด่นกว่าอีโคคาร์รุ่นอื่นๆ การเบรคจนกระทั่งหยุดสนิทจากความเร็ว 60 กม./ชม. ใช้ระยะ 15.3 ม. และ 100 กม./ชม. 40.9 ม. เท่านั้น เทียบกับคู่แข่งอย่าง สวิฟท์ ทำได้ 16.2 และ 45.0 ม. และ บริโอ 17.7 และ 46.4 ม. ถือว่าประสิทธิภาพของระบบเบรคดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
นิสสัน มาร์ช แม้จะเป็นอีโคคาร์ ที่ลงทำตลาดเป็นรุ่นแรก แต่ด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้มาเกินตัว การตกแต่งภายในที่มีคุณภาพน่าพอใจ ถือเป็นตัวเลือกสไตล์แฮทช์แบคขนาดเล็ก เน้นความคล่องตัว ที่น่าสนใจไม่เปลี่ยนแปลง
ข้อมูลจำเพาะ นิสสัน มาร์ช 1.2 วีแอล
ผู้จัดจำหน่าย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2401-9600
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,780/1,665/1,515
ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,470/1,475
ฐานล้อ (มม.) 2,450
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 41
เครื่องยนต์
แบบ 3 สูบแถวเรียง DOHC 12 วาล์ว CVTC
ความจุ (ซีซี) 1,198
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 78.0/83.6
อัตราส่วนกำลังอัด 10.2:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 79/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 10.8/4,400
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค มัลทิพอยท์ 32 บิท
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติแปรผัน XTRONIC CVT
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง
หลัง ทอร์ชันบีม คอยล์สปริง
แบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟืองและตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี และบีเอ
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 537,000
ฮอนดา บรีโอ (HONDA BRIO) ร่วมวงรถเล็ก ประหยัดเชื้อเพลิงกับเขาบ้าง เน้นรูปทรงที่คมเข้ม ด้วยสันเหลี่ยมด้านข้าง พาดเฉียง ฝากระโปรง และไฟหน้า โค้งเรียว ชวนให้นึกถึงแฮทช์แบครุ่นพี่อย่าง แจซซ์ (JAZZ) ด้านท้ายแปลกตาด้วยกระจกบานใหญ่ ใช้เป็นประตูท้ายไปในตัว เพื่อลดน้ำหนักโดยรวม และประหยัดต้นทุนการผลิต ยังมีผลให้รถรุ่นนี้ไม่มีการติดตั้งใบปัดน้ำฝนด้านหลังซะงั้น
ขณะที่ล้อแมกมีขนาด 14 นิ้ว เน้นความประหยัดด้วยยาง มิเชอแลง เอเนอร์จี เอกซ์เอม 2 (MICHELIN ENERGY XM2) ขนาด 175/65 R14
หากว่ากันด้วยมิติ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอีโคคาร์ทั้งหลายแล้ว บรีโอ ดูจะเป็นรถยนต์ระดับ เอ เซกเมนท์ อย่างแท้จริง ต่างจากค่ายอื่นที่นำรถระดับ บี เซกเมนท์ มาใส่เครื่องยนต์ขนาดเล็ก 1.2 ลิตร เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ของความเป็น อีโคคาร์ โดย บรีโอ มีความยาว 3,610 มม. และระยะฐานล้อ 2,345 มม. ขณะที่ นิสสัน มาร์ช 3,800 และ 2,450 มม. ส่วน ซูซูกิ สวิฟท์ 3,850 และ 2,430 มม. ตามลำดับ
เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบ 90 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 11.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รตน. มีการตอบสนองที่ดี ทั้งอัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. ในเวลา 14.8 วินาที เฉือนกับ สวิฟท์ อย่างสูสี กับเวลา 14.9 วินาที แม้ความเร็วสูงสุดจะถูกลอคเอาไว้ที่ 140 กม./ชม. แต่ช่วงอัตราเร่งยึดหยุ่น 60-100 กม./ชม. ใช้เวลา 8.0 วินาที (สวิฟท์ คือ 8.3 วินาที และ มาร์ช 8.8 วินาที) และช่วง 80-120 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 9.9 วินาที ขณะที่ สวิฟท์ และ มาร์ช ทำได้ที่ 11.0 และ 11.7 วินาที ตามลำดับ ทิ้งห่างกันชัดเจนพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจมาจากเกียร์แปรผัน (CVT) ที่พ่วงระบบ TORQUE CONVERTER ทำให้มีอัตราเร่งที่ดีเช่นนี้
อัตราสิ้นเปลืองน่าพอใจ โดยเฉพาะช่วงความเร็ว 60 และ 80 กม./ชม. กับตัวเลข 36.1 และ 29.8 กม./ลิตร มากกว่าคู่แข่งระดับเดียวกัน แต่พอเป็นความเร็ว 100 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองกลับลดลงมาอยู่ที่ 19.8 กม./ลิตร ตามมาตรฐานของอีโคคาร์ ไม่ต่างคู่แข่งเท่าไรในส่วนนี้
นอกจากนี้ระบบรองรับเหมาะสำหรับการเข้าโค้งทั่วไป หนึบพอประมาณ แต่ก็นุ่มนวลพอที่จะนวดไปตามพื้นผิวถนนที่ขรุขระได้ด้วย เป็นบุคลิกที่สัมผัสได้ในบรรดารุ่นพี่ร่วมค่าย ฮอนดา พวงมาลัยเบาแรง แต่ยังให้การตอบสนองที่ดี เหมาะสำหรับความเร็วต่ำขณะลัดเลาะไปตามถนนในเมือง แต่ที่ความเร็วสูง อาจต้องใช้ความตั้งใจควบคุมทิศทางมากกว่าเดิมบ้าง
การปรับแต่งรถที่มีสมรรถนะที่ดี และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ ราวกับเป็นงานที่ทาง ฮอนดา ถนัดมาแต่ไหนแต่ไร จนไม่เหลือเวลา และต้นทุนที่จะเอาใจใส่ในส่วนอื่นๆ เช่น บรรดาอุปกรณ์มาตรฐานทั้งหลายที่น้อยกว่าคู่แข่ง รวมไปถึงระบบเบรค ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. กระทั่งหยุดสนิท บรีโอ ใช้ระยะ 17.7 ม. มากกว่า มาร์ช ที่ทำได้ 15.3 ม. กับ สวิฟท์ 26.2 ม และที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ใช้ระยะเบรค 30.7 ม. (มาร์ช 26.7 ม. และ สวิฟท์ 28.8 ม.) ถือเป็นอีกส่วนที่ควรปรับปรุง
ฮอนดา บรีโอ ให้อุปกรณ์ความปลอดภัยมาครบ ทั้งแอร์แบคคู่ และระบบเบรคเอบีเอส สำหรับทุกรุ่นย่อย ทำให้รุ่นพื้นฐาน เอส เกียร์ธรรมดา ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนงบประมาณจำกัด
อย่างไรก็ตามสำหรับรุ่นทอพ วี เกียร์อัตโนมัติ แปรผัน มีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว เน้นทำตลาดลูกค้าตามเมืองใหญ่ แม้จะขาดอุปกรณ์มาตรฐานที่ควรมีไปหลายรายการ แต่ด้วยสมรรถนะที่ดี ระบบรองรับน่าพอใจ และที่สำคัญ คือ ศูนย์บริการที่ทั่วถึง ทำให้แฮทช์แบคตัวเล็กรุ่นนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย
ข้อมูลจำเพาะ ฮอนดา บรีโอ วี เอที
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2533-0999
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,610/1,680/1,485
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,480/1,465
ฐานล้อ (มม.) 2,345
น้ำหนัก (กก.) 950
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 35
เครื่องยนต์
แบบ เบนซิน SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว I-VTEC
ความจุ (ซีซี) 1,198
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 73.0/71.6
อัตราส่วนกำลังอัด 10.2:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 90/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 11.2/4,800
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดมัลทิพอยท์
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ แปรผัน
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระ ทอร์ชันบีม
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ เพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี
หน้า จาน
หลัง ดุม
ราคา (บาท) 508,500
อัตราเร่ง (วินาที) ซูซูกิ สวิฟท์ || นิสสัน มาร์ช || นิสสัน อัลเมรา || ฮอนดา บรีโอ
0-60 กม./ชม. 6.6 || 6.6 || 7.2 || 7.2
0-80 กม./ชม. 10.2 || 10.1 || 11.1 || 10.7
0-100 กม./ชม. 14.9 || 15.1 || 16.4 || 14.8
0-120 กม./ชม. 21.2 || 22.3 || 23.9 || 20.6
0-400 ม. 19.8 @115.8 || 20.0 @ 113.9 || 20.6 @ 112.5 || 20.1 @ 118.2
0-1,000 ม. 36.0 @144.9 || 36.7 @ 137.8 || 37.4 @ 140.4 || 36.3 @ 139.2
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 8.3 || 8.8 || 9.2 || 8.0
80-120 กม./ชม. 11.0 || 11.7 || 12.1 || 9.9
ห้ามล้อเมื่อหยุดรถกะทันหันจากความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม 16.2/0.88 || 15.3/0.92 || 16.1/0.88 || 17.7/0.80
80-0 กม./ชม. 28.8/0.87 || 26.7/0.94 || 29.1/0.87 || 30.7/0.82
100-0 กม./ชม. 45.0/0.87 || 40.9/0.94 || 45.9/0.86 || 46.4/0.85
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร (ลิตร/100 กม.)
60 32.9 (3.1) || 31.9 (3.2) || 32.2 (3.2) || 36.1 (2.8)
80 24.8 (4.1) || 26.0 (3.9) || 27.7 (3.7) || 29.8 (3.4)
100 19.2 (5.2) || 20.1 (5.0) || 20.6 (4.9) || 19.8 (5.1)
120 14.6 (6.9) || 13.2 (7.6) || 16.2 (6.3) || 15.7 (6.4)
ภายนอก
ซูซูกิ สวิฟท์
= ความยาว 3,850 มม. มากที่สุด เมื่อเทียบกับอีโคคาร์สไตล์แฮทช์แบค
= ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว ในรุ่นทอพ จีแอลเอกซ์ มีขนาดใหญ่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
= กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าทุกรุ่นย่อย รุ่นจีแอลเอกซ์ ติดตั้งไฟเลี้ยวในตัว
= พละกำลัง 91 แรงม้า มากที่สุดในตลาดอีโคคาร์ขณะนี้
นิสสัน มาร์ช
= ระยะฐานล้อ 2,450 มม. มากที่สุดในหมู่อีโคคาร์สไตล์แฮทช์แบค
= เซนเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด ในรุ่นอีแอล และวีแอล
= ล้อแมก 15 นิ้ว พร้อมยาง แมกซ์ซิส มีระยะเบรคที่น่าพอใจ
= กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ เมื่อลอครถ ในรุ่นอีแอล และวีแอล
นิสสัน อัลเมรา
= อีโคคาร์สไตล์ซีดาน ระยะฐานล้อ 2,600 มม. เทียบเท่ารถระดับ บี เซกเมนท์
= ติดตั้งสปอยเลอร์หลังมาให้ทุกรุ่น พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3
= น้ำหนักตัวรถ 9621,027 กก. ไม่ต่างจากเหล่าแฮทช์แบคมากนัก
= เกียร์อัตโนมัติแปรผัน XTRONIC CVT ทำความเร็วปลายได้ดี
ฮอนดา บรีโอ
= เครื่องยนต์ I-VTEC เทคโนโลยีเดียวกับรถรุ่นพี่อย่าง ซีวิค หรือ แอคคอร์ด
= เกียร์อัตโนมัติแปรผันพ่วงระบบ TORQUE CONVERTER อัตราเร่งดี
= ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า และเอบีเอส ทุกรุ่นย่อย
= ศูนย์บริการกระจายอยู่ทั่วถึง
ภายใน
ซูซูกิ สวิฟท์
= ติดตั้งพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน ในรุ่นจีแอลเอกซ์
= ภายในมาดสปอร์ท เบาะใช้โทนสีดำ
= เบาะหลังพับแยกได้แบบ 60:40
= พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง (ยกเว้นรุ่น จีเอ)
นิสสัน มาร์ช
= แอร์อัตโนมัติในรุ่นวี และวีแอล
= เบาะหลังพับแยกได้แบบ 60:40
= ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ในรุ่นอีแอล และวีแอล
= เบาะคนขับปรับระดับสูง/ต่ำได้ (ยกเว้นรุ่น เอส)
นิสสัน อัลเมรา
= พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายเหลือเฟือ
= พื้นที่วางขาผู้โดยสารด้านหลังเทียบเท่า เทอานา
= ระบบ IDLING STOP ใช้งานง่ายขึ้น
= พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันในรุ่นวี และวีแอล
ฮอนดา บรีโอ
= กระจกบานท้ายขนาดใหญ่ เพิ่มทัศนวิสัย
= พวงมาลัยจับถนัดมือ
= เครื่องเสียง 2 DIN ระบบ USB และ AUX
เรื่องโดย : ภูเขม หน่อสวรรค์ poukhem@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2555
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/30657