ทั่วไป
กว่า 2 ทศวรรษมาแล้วที่สมาคมนักขียนแห่งประเทศไทย ไม่ละเลยที่จะมีรายการหนึ่งในกิจกรรมวันนักเขียนประจำปี 5 พฤษภาคม นั่นคือ รายการมอบรางวัลศรีบูรพา
กว่า 2 ทศวรรษมาแล้วที่สมาคมนักขียนแห่งประเทศไทย ไม่ละเลยที่จะมีรายการหนึ่งในกิจกรรมวันนักเขียนประจำปี 5 พฤษภาคม นั่นคือ รายการมอบรางวัลศรีบูรพา
รางวัลศรีบูรพา เป็นกิจกรรมหนึ่งของกองทุนศรีบูรพา ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรำลึกและเผยแพร่เกียรติประวัติของ กุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือ ศรีบูรพา (ปี 2448-2517) นักประชาธิปไตย นักเขียน และนักหนังสือพิมพ์คนสำคัญของไทย (และต่อมาเมื่อปี 2548 องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ประกาศยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก) เพื่อมอบแก่ศิลปิน นักคิด นักเขียน และนักหนังสือพิมพ์ ผู้มีผลงานอันทรงคุณค่า มีชีวิตที่เป็นแบบอย่างการใช้ชีวิตที่ดีงาม และแบบฉบับการสร้างสรรค์งานที่มีคุณค่าต่อสังคม
กองทุนศรีบูรพา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2530 หลังจากที่ภรรยา คือ ชนิด สายประดิษฐ์ (ซึ่งเป็นนักเขียน-นักแปลคนสำคัญคนหนึ่งของไทย) รวมทั้งทายาท คือ สุรพันธ์ สายประดิษฐ์ และญาติมิตรที่เคารพนับถือได้เชิญอัฐิ กุหลาบ สายประดิษฐ์ มาจากเมืองจีน หลังจากที่ได้ลี้ภัยอยู่ในเมืองจีนตั้งแต่ปี 2501 และถึงแก่กรรมที่นั่นเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2517 หลังงานทำบุญอุทิศส่วนกุศลถึงผู้วายชนม์แล้ว มีทุนทรัพย์ที่ญาติมิตรร่วมทำบุญเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง สุวัฒน์ วรดิลก นักเขียนคนสำคัญ (ผู้มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งชมรมนักเขียน 5 พฤษภาคม ซึ่งกลายมาเป็นสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และต่อมาเขาเองก็ได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ปี 2534) ซึ่งเคารพนับถือวัตรปฏิบัติของ กุหลาบ สายประดิษฐ์ อย่างมาก จึงเป็นแกนนำก่อตั้งกองทุนศรีบูรพา หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของกองทุน คือ การมอบทุนรางวัลศรีบูรพาเป็นประจำทุกปี
กองทุนศรีบูรพามี สุวัฒน์ วรดิลก เป็นประธานดำเนินงานมาจนกระทั่งจากไปในปี 2550 ได้เริ่มมอบรางวัลแก่ผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยมีเงื่อนไขการพิจารณาดังนี้
1. เป็นนักคิด นักเขียน นักแปล กวี นักหนังสือพิมพ์ หรือศิลปิน ที่มีชีวิตที่เป็นแบบอย่างการใช้ชีวิตที่ดีงามและแบบฉบับการสร้างสรรค์งานที่มีคุณค่าต่อสังคม และมนุษยชาติมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน อย่างเช่น "ศรีบูรพา"
2. มีผลงานติดต่อกันมายาวนานไม่น้อยกว่า 30 ปี และต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
3. ยังมีชีวิตอยู่
กองทุนศรีบูรพา เริ่มมอบรางวัลมาตั้งแต่ปี 2531 (เว้นปี 2533 และ 2548) มีผู้ได้รับรางวัลมาแล้ว 22 คน ตามลำดับดังนี้ ศักดิชัย บำรุงพงศ์ ("เสนีย์ เสาวพงศ์" -2531) อำพัน ไชยวรศิลป์ ("อ.ไชยวรศิลป์"-2532) นิลวรรณ ปิ่นทอง (2534) อาจินต์ ปัญจพรรค์ (2535) สุจิตต์ วงษ์เทศ (2536) สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ("ส.ศิวรักษ์"-2537) กรุณา กุศลาสัย (2538) เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (2539) สุชาติ สวัสดิ์ศรี (2540) วิทยากร เชียงกูล (2541) สุภัทร สวัสดิรักษ์ (2542) สมชัย กตัญญุตานนท์ ("ชัย ราชวัตร"-2543) เสถียร จันทิมาธร (2544) นิธิ เอียวศรีวงศ์ (2545) ธีรยุทธ บุญมี/เสกสรรค์ ประเสริฐกุล (2546) สมบูรณ์ วรพงษ์ (2547) สุรชัย จันทิมาธร(2549) วัฒน์ วรรลยางกูร (2550) สุทธิชัย หยุ่น (2551) ชาญวิทย์ เกษตรศิริ (2552) พระไพศาล วิสาโล(2553)
อนึ่ง ในปี 2548 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 100 ปีชาตกาลศรีบูรพา (กุหลาบ สายประดิษฐ์) คณะอนุกรรมการฝ่ายรางวัลเกียรติคุณ ในคณะกรรมการจัดงาน 100 ปีศรีบูรพา (กุหลาบ สายประดิษฐ์) ได้ประกาศมอบ รางวัลเกียรติคุณ 100 ปี ศรีบูรพา 3 สาขา ให้แก่ สุวัฒน์ วรดิลก สาขานักคิด-นักเขียน ขรรค์ชัย บุนปาน สาขานักหนังสือพิมพ์ และศาสตราจารย์เสน่ห์ จามริก สาขานักต่อสู้เพื่อสันติภาพ
สำหรับปี 2554 นี้ คณะกรรมการกองทุนศรีบูรพา มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ เป็นผู้เหมาะสม สมควรได้รับรางวัลศรีบูรพา นับเป็นผู้ได้รับรางวัลคนที่ 23
อนึ่ง พิธีมอบรางวัลศรีบูรพา กำหนดขึ้นพร้อมกับการจัดงาน "วันนักเขียน-5 พฤษภา เป็นประจำโดย สุวัฒน์ วรดิลก เน้นย้ำว่า รางวัลศรีบูรพาเป็นรางวัลที่นักเขียนมอบให้แก่นักเขียน ฉะนั้นจึงต้องมอบเป็นเกียรติต่อหน้านักเขียนทั่วไปในวันสำคัญของนักเขียน
วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ มีประวัติโดยย่อดังนี้ เกิดเมื่อ 28 มกราคม 2504 เป็นชาวสีลมโดยกำเนิด เข้าเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพ ฯ ตั้งแต่ชั้น ป. 1 จนจบ มศ. 5 จบปริญญาตรี สาขาวิชาวรรณคดีอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้าทำงานในกองบรรณาธิการวารสารเมืองโบราณ และต่อมาร่วมก่อตั้งนิตยสารสารคดี เมื่อปี 2528 จนได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองบก. และล่าสุดเป็นบก. บริหาร ตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งรองผู้อำนวยการ สถานีโทรทัศน์ ทีวีไทย
เคยได้รับทุนจาก ASIA FOUNDATION ไปศึกษาดูงานการทำสื่อด้านธรรมชาติศึกษา ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 2 เดือน เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปปาฐกถาเรื่อง 50 ปีความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และปี 2540 ได้รับทุนจากสถานทูตอังกฤษ ไปศึกษาดูงานด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศอังกฤษเป็นเวลา 1 เดือน
เป็นนักกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น เป็นเลขาธิการมูลนิธิ สืบ นาคะเสถียร ประธานชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย รองประธานมูลนิธิโลกสีเขียว กรรมการตัดสินรางวัลอมตะ รางวัลนายอินทร์อวอร์ด ปัจจุบันเป็นรองประธานมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร และผู้บรรยายพิเศษในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง
มีผลงานรวมเล่ม เช่น ณ ที่ดวงตะวันฉายแสง ชีวิตและความตายของสืบ นาคะเสถียร
ก่อนจะไม่มีลมหายใจสำหรับพรุ่งนี้ (ปี 2536-ได้รับรางวัลชมเชยประเภทสารคดีจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ) โลกใบเล็ก ป๋วย อึ๊งภากรณ์ คนกล้า ความจริงที่หายไป จากคลองด่านถึงเชียงดาว (ปี 2548-ได้รับรางวัลชมเชยประเภทสารคดีจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 เล่ม หนังสือดีวิทยาศาสตร์ในเมืองไทย) เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ ฯลฯ เขียนสารคดีขนาดยาวมาแล้วประมาณ 100 ชิ้น
เป็นคนที่มีความเชื่อว่า การใช้ชีวิตให้มีความสุขควรประกอบด้วย 3 สิ่ง คือ ทำงานที่ใจรัก ช่วยเหลือคนรอบข้าง และเดินทางท่องเที่ยว @
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง formula@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2554
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/29632