X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
รถใหม่
16 Aug 2010
แฮทช์แบคสุดจ๊าบขับแบบไฮบริด
ขณะที่เริ่มเปิด "ระเบียงรถใหม่" ประจำเดือนสิงหาคม ฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ยังไม่จบรอบแรก ยังไม่ทราบว่า 16 ทีม ที่จะก้าวเท้าเข้าสู่รอบที่ 2 มีทีมไหนบ้าง ? ที่ทราบแน่แล้วก็คือ ทีมลูกหนังของแอฟริกาใต้สามารถสร้างสถิติใหม่ ในฐานะเจ้าภาพทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่กระเด็นตกรอบแรก ในขณะที่อดีตแชมพ์โลกอย่างฝรั่งเศสต้องเดินทางกลับบ้านเร็วกว่าที่ใครๆ จะคาดคิด เพราะลงสนาม 3 ครั้ง โดยไม่รู้จักคำว่าชัยชนะ และสามารถส่ง จาบูลานี(JABULANI) ลูกบอลเจ้าปัญหาเข้าไปตุงตาข่ายได้เพียงครั้งเดียว และที่ย่ำแย่ไม่แพ้กันก็คือ 2 อดีตแชมพ์โลกอย่างอิตาลีและอังกฤษ ที่ไม่ทราบว่าจะกระเสือกกระสนผ่านรอบแรกไปได้หรือไม่ ? เพราะผลงานใน 2 นัดของรอบแรกทำให้กองเชียร์ใจหายใจคว่ำไปตามๆ กัน ขณะที่ "ฟอร์มูลา" ฉบับนี้วางตลาด คงทราบกันไปเรียบร้อยแล้วว่าถ้วยแชมพ์โลกตกอยู่ในกำมือของทีมใด ? ทีมเต็งตลอดกาลอย่างบราซิล ? ทีมที่มากสีสันอย่างอาร์เจตินา ? ทีมจอมอาภัพอย่างฮอลแลนด์ ? ทีมอินทรีเหล็กอย่างเยอรมนี ? หรือม้ามืดพลังโสมอย่างเกาหลีใต้ ? ที่แน่ๆ สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับฟุตบอลโลกครั้งแรกของทวีปแอฟริกาที่ผู้คนจะจดจำไปอีกนาน คือเสียงหื่อหึ่งอันแสนจะยั่วยวนกวนประสาทของเจ้าแตรพลาสติค วูวูเซลา (WUWUZELA) นั่นเอง เดือนนี้ "ระเบียงรถใหม่" นำรถใหม่มาเสนอรวม 7 คัน ทุกคันล้วนเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริด หรือ HYBRID DRIVE โดยที่บางคันเป็นรถตลาดที่เริ่มออกจำหน่ายไปเรียบร้อยแล้ว บางคันเป็นรถตลาดที่กำลังจะออกจำหน่าย และบางคันยังมีฐานะเป็นเพียงรถแนวคิด ซึ่งไม่แน่ว่าเมื่อใดจะกลายเป็นรถตลาด เริ่มกันด้วยรถที่จ่าหัวไว้ คือ เลกซัส ซีที 200 เอช (LEXUS CT200H) ผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดของยอดผู้ผลิตรถหรูเมืองยุ่น ซึ่งอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งล่าสุด เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นรถแฮทช์แบคระดับสุดหรู สไตล์เดียวกับ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-1 (BMW 1-SERIES) ของค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" และ เอาดี เอ 3 (AUDI A3) ของค่าย "สี่ห่วง" จะเริ่มการผลิตตอนปลายปี 2010 และออกจำหน่ายในตลาดทั่วโลกตอนต้นปี 2011 โดยที่ในตอนแรกจะมีตัวถังเพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบคดังที่เห็นในภาพ ส่วนตัวถัง 3 ประตูแฮทช์แบคหน้าตาคล้ายๆ กัน คาดว่าจะตามมาในภายหลัง ตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค ยาว 4.320 ม. กว้าง 1.765 ม. และสูง 1.430 ม. ของ เลกซัส ซีที 200 เอช วางตัวอยู่บนพแลทฟอร์มที่ออกแบบขึ้นใหม่และนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรถแบบนี้ เป็นพแลทฟอร์มที่มีช่วงฐานล้อยาว 2.600 ม. มีช่วงยื่นหน้าและยื่นหลัง ที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า FRONT OVERHANG และ REAR OVERHANG ยาว 0.915 ม. และ 0.805 ม. ตามลำดับ รูปทรงองค์เอวของตัวถังภายนอกดูไม่หวือหวา และไม่มีจุดใดสะดุดตาเป็นพิเศษ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าแบบไฮบริด ยกชุดมาจากรถร่วมเครือ คือ รถไฮบริด โตโยตา ปรีอุส (TOYOTA PRIUS) ที่กำลังขายดิบขายดีอยู่ในขณะนี้ เป็นระบบขับแบบไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบเรียง 1,797 ซีซี 99 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 60 กิโลวัตต์/82 แรงม้า ให้กำลังสูงสุดรวม 135 แรงม้า อย่างไรก็ตาม มีการปรับแต่งรายละเอียดในบางจุด ทำให้คาดหมายกันว่า น่าจะให้กำลังสูงสุดสูงกว่าชุดไฮบริดดั้งเดิมที่ใช้อยู่ในรถ โตโยตา ปรีอุส แม้ว่าในขณะนี้ เลกซัส ยังไม่ได้ยืนยันตัวเลขที่แน่นอน ระบบเกียร์ที่ใช้ยังคงเป็นเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่องอย่างที่เรียกขานกันในภาษาอังกฤษว่า ELECTRICALLY CONTROLLED CONTINUOUSLY VARIABLE TRANSMISSION หรือเรียกกันโดยย่อว่า เกียร์ E-CVT ส่วนแบทเตอรีที่ใช้ก็ยังคงเป็นแบทเตอรี นิคเคิล-เมทัล ไฮดไรด์ (NICKEL-METAL HYDRIDE) แบบเดียวกับที่ใช้ในรถ โตโยตา ปรีอุส ระบบขับแบบไฮบริดดังกล่าวข้างต้น มีลักษณะการทำงานให้เลือกได้ 4 แบบ คือ ECO NORMAL SPORT และ EV โดยที่ 2 แบบแรกเน้นความสะดวกสบายและการประหยัดเชื้อเพลิง แบบที่ 3 เน้นสมรรถนะการขับขี่แบบรถสปอร์ท ส่วนแบบหลังสุดเป็นการขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะเดินทางได้ไกลประมาณ 2 กม.โดยปลอดไอพิษใดๆ เกือบลืมบอกไปว่า เลกซัส ซีที 200 เอช เป็นรถไฮบริดที่ออกแบบและพัฒนาโดยมีทวีปยุโรปเป็นตลาดเป้าหมาย ผู้รับผิดชอบโครงการ คือ โอซามุ ซาดาคาตะ (OSAMU SADAKATA) วิศวกรเลือดซามูไร ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยชิซูโอกะ และเริ่มทำงานกับยักษ์ใหญ่เมืองยุ่นเมื่อปี 1983 ก่อนหน้านี้เขาเคยรับผิดชอบการออกแบบและพัฒนารถไฮบริดมาแล้ว 2 รุ่น คือ รถกิจกรรมกลางแจ้ง เลกซัส อาร์เอกซ์ 400 เอช (LEXUS RX400H) กับรถซาลูนสุดหรู เลกซัส แอลเอส 600 เอช (LEXUS LS600H)
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา chusak@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2553
คอลัมน์ Online : รถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://www.autoinfo.co.th/archive/28766
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th