พิเศษ
รถเล็ก ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเล็ก ใครที่เคยใช้รถคันใหญ่กว่ามาตลอด มักกลัวที่จะต้องใช้รถเล็ก เพราะถ้าเล็กกว่า ก็น่าจะอึดอัดกว่า ประโยชน์ใช้สอยไม่น่าจะสู้กันได้ แต่เมื่อเศรษฐกิจบีบบังคับให้ต้องประหยัด หรือความแออัดบนท้องถนนมีมากขึ้น ผู้คนเลยเปลี่ยนใจมาใช้รถเล็กกันเพียบ ฉะนั้น ถ้าคุณสนอยู่เหมือนกัน ลองมาทำความรู้จักกับบรรดารถคันเล็กๆ กันสักหน่อย แล้วค่อยตัดสินใจ
รถเล็ก ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเล็ก ใครที่เคยใช้รถคันใหญ่กว่ามาตลอด มักกลัวที่จะต้องใช้รถเล็ก เพราะถ้าเล็กกว่า ก็น่าจะอึดอัดกว่า ประโยชน์ใช้สอยไม่น่าจะสู้กันได้ แต่เมื่อเศรษฐกิจบีบบังคับให้ต้องประหยัด หรือความแออัดบนท้องถนนมีมากขึ้น ผู้คนเลยเปลี่ยนใจมาใช้รถเล็กกันเพียบ ฉะนั้น ถ้าคุณสนอยู่เหมือนกัน ลองมาทำความรู้จักกับบรรดารถคันเล็กๆ กันสักหน่อย แล้วค่อยตัดสินใจ
เดี๋ยวนี้กระแสรถเล็กกำลังมาแรง พิสูจน์ได้จากอาการ ขายดี อาจเพราะรถติดมากขึ้น การจราจรคับคั่งขึ้น ราคาน้ำมันแพงขึ้น ประกอบกับมีผู้จำหน่ายรถที่เข้ามาเป็น ผู้เล่น ในตลาดรถยนต์เล็กๆ มากขึ้นอีกด้วย
หากพิจารณาถึงยอดขายรถเล็กของผู้นำตลาด 2 ยี่ห้อหลักอย่าง ฮอนดา (ซิที/แจซซ์) และ โตโยตา (วีออส/ยารีส) แต่ละค่ายมียอดขายรถเล็กตลอดทั้งปี 2552 คิดเป็นสัดส่วนต่อรถยนต์นั่งทุกรุ่นถึงร้อยละ 60.55 และ 60.96 ตามลำดับ ซึ่งต่างจากปี 2551 ที่มีสัดส่วนรถเล็กต่อรถยนต์นั่งทุกรุ่นน้อยกว่า คือ ร้อยละ 52.87 และ 55.65 ตามลำดับ
เชื่อว่าวันนี้ผู้ใช้รถที่เคยใช้รถคันโตกว่า กำลังพยายามหารถที่ราคาถูกลง คันเล็กลง ประหยัดน้ำมันลง มาใช้เป็นรถคันที่สองของบ้าน ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสของผู้ที่อยากจะซื้อรถยนต์คันแรก กระทั่งผู้ที่มีงบประมาณจำกัดได้มีอำนาจจับจ่ายใช้สอยกันบ้าง
เมื่ออยากจะใช้รถเล็ก หรือจะเปลี่ยนขนาดรถจากใหญ่มาเป็นคันเล็กๆ อาจมีหลายเรื่องที่ถูกใจ และต้องทำใจ ต่อไปนี้ คือ คู่มือ สำหรับคนใช้รถใหญ่กว่าที่กำลังสนใจรถเล็ก ข้อดี ข้อเสีย ของมัน คือ อะไร จะเปลี่ยนดีไหม ถ้าเปลี่ยนแล้วจะ รับได้ หรือไม่ ?
แค่ไหนถึงเรียกว่ารถเล็ก
นิยามคำว่ารถเล็กของแต่ละคน แต่ละประเทศไม่เหมือนกัน สำหรับ ฟอร์มูลา เคยจัดหมวดหมู่รถตามขนาดตัวถังเป็นหลัก เครื่องยนต์เป็นรอง และไม่เกี่ยวกับราคาขาย เสนอต่อผู้อ่านไปแล้วครั้งหนึ่ง ประกอบกับปัจจุบัน มีการเรียกหมวดหมู่รถแบบใหม่ มีต้นกำเนิดจากฝั่งยุโรป ที่มักเรียกกันเป็น เซกเมนท์ แถมจัดลำดับคล้ายขนาด คัพ ของเสื้อชั้นในผู้หญิง เพื่อความเข้าใจตรงกัน จะขอเปรียบเทียบ และยกตัวอย่างง่ายๆ ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถเก๋งกับแฮทช์แบคเท่านั้น
รถหรูหราขนาดใหญ่ (LUXURY LARGE): เอฟ เซกเมนท์ อาทิ โรลล์ส-รอยศ์ แฟนทอม เป็นต้น
รถขนาดใหญ่ (LARGE): อี เซกเมนท์ อาทิ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์/บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7/เอาดี เอ 8
รถขนาดกลางใหญ่ (UPPER MEDIUM): ดี เซกเมนท์ อาทิ โตโยตา แคมรี/นิสสัน เทอานา/เมร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสส์/บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5/โวลโว เอส 80/เอาดี เอ 6/ฮอนดา แอคคอร์ด/ฮันเด โซนาตา
รถขนาดกลางเล็ก (LOWER MEDIUM): ซี เซกเมนท์ หรือมักเรียกกันว่ารถขนาดคอมแพคท์ อาทิ เชฟโรเลต์ ออพทรา/โตโยตา โคโรลลา อัลทิส/ฟอร์ด โฟคัส/นิสสัน ทิอิดา/มาซดา 3/มิตซูบิชิ แลนเซอร์/เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์/บีเอมดับเบิลยู, ซีรีส์ 3/โวลโว เอส 40/เอาดี เอ 4/ฮอนดา ซีวิค (รถญี่ปุ่นในข้างต้น ปัจจุบันขยับขยายมิติจากรถขนาดเล็กมาเป็นขนาดกลางเล็กกันแทบหมดแล้ว)
รถขนาดเล็ก (SMALL): บี เซกเมนท์ หรือมักเรียกกันว่ารถขนาด ซับคอมแพคท์ อาทิ เกีย ปิกันโต/เชฟโรเลต์ อาวีโอ/เชอรี คิวคิว/ซูซูกิ สวิฟท์/โตโยตา วีออส/ยารีส/ฟอร์ด ฟิเอสตา/นาซา ฟอร์ซา/นิสสัน มาร์ช/มาซดา 2/ฮอนดา แจซซ์/ซิที
นอกจากนี้ยังมี รถขนาดเล็กมาก: เอ เซกเมนท์ (SUPER MINI) อาทิ ซูซูกิ แวกอน อาร์/ไดฮัทสุ มีรา/โตโยตา อาอีโก/ฟอร์ด คา (บ้านเราไม่มีบริษัทรถยนต์นำเข้ามาจำหน่าย) รวมถึง จี เซกเมนท์ ซึ่งหมายถึงรถประเภท สปอร์ท 2 ที่นั่ง และ เอช เซกเมนท์ ที่หมายถึง รถทรงกล่องสำหรับขนของอีกด้วย
ฉะนั้น สำหรับบทความนี้ รถเล็ก ที่เรากำลังจะเขียนถึง คือ รถขนาดเล็ก: บี เซกเมนท์ เท่านั้น
รถเล็กบ้านเรา
เกีย ปิกันโต 398,000-469,000 บาท
เชฟโรเลต์ อาวีโอ 500,000-709,000 บาท
เชอรี คิวคิว 379,500-422,500 บาท
ซูซูกิ สวิฟท์ 599,000-649,000 บาท
โตโยตา วีออส 514,000-714,000 บาท
โตโยตา ยารีส 539,000-714,000 บาท
นาซา ฟอร์ซา 349,000-379,000 บาท
นิสสัน มาร์ช 375,000-537,000 บาท
มาซดา 2 แฮทช์แบค 535,000-690,000 บาท
มาซดา 2 ซีดาน 535,000-675,000 บาท
ฮอนดา แจซซ์ 560,000-705,000 บาท
ฮอนดา ซิที 534,000-694,000 บาท
รถคันเล็กที่สุดในโลก
กินเนสส์บุค บันทึกไว้ว่า PEEL 50 หรือ P-50 ซึ่งเริ่มผลิตขึ้นในปี 1963 โดยบริษัท PEEL ENGINEERING ในอังกฤษเป็นรถยนต์คันเล็กที่สุดในโลก ออกแบบมาให้นั่งได้คนเดียว ยาว 1,340 มม. กว้าง 990 มม. น้ำหนักเพียง 59 กก. เครื่องยนต์ขนาด 49 ซีซี เท่านั้น
เข้าใจรถเล็ก
เมื่อคนใช้รถคันใหญ่กว่า มีแนวโน้มจะเปลี่ยนใจมาใช้รถเล็ก แต่ยังกังวลใจหลายด้าน เราเลยจับรถขนาดกลางใหญ่ หรือ ดี เซกเมนท์ กับ รถขนาดเล็ก หรือ บี เซกเมนท์ มาเปรียบเทียบกันใน 5 ประเด็น โดยใช้รถยนต์ ฮอนดา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์เมืองไทย โดย แอคคอร์ด เป็นตัวแทนรถขนาดกลางใหญ่ คันเดิมของคุณ เปรียบเทียบกับ ซิที ตัวแทนรถขนาดเล็กที่กำลังคิดว่าจะซื้อดีหรือไม่
ค่าใช้จ่าย
ไม่บอกก็รู้ว่ารถเล็กประหยัดกว่าอยู่แล้ว แต่จะประหยัดกว่ากันเดือนละเท่าไร สบายกระเป๋าลงแค่ไหน
ตอนซื้อ มาดูกันว่าคุณจะจ่ายลดลงเท่าไรถ้าซื้อรถเล็ก แอคคอร์ด ราคาเริ่มต้น 1,265,000 บาท ส่วน ซิที เริ่มต้นที่ 574,000 บาท (ราคารุ่นเกียร์อัตโนมัติ) ต่างกัน 691,000 บาท แอคคอร์ด รุ่นทอพราคาแพงสุด 1,672,000 บาท ซิที ราคาสูงสุด 694,000 บาท ต่างกัน 978,000 บาท เฉลี่ยแล้วถ้าจ่ายสดควักลดลง 834,500 บาท เหลือไว้ซื้อรถขนาดกลางเล็ก อย่าง ซีวิค ได้อีกคัน
แล้วถ้าไม่จ่ายสด แต่ผ่อนจ่ายกับไฟแนนศ์จะจ่ายต่อเดือนต่างกันเท่าไร ? หากดาวน์ 20 % ดอกเบี้ย 2.8 % ผ่อน 60 งวด เท่ากัน (คำนวณจากรุ่นล่างสุดกับทอพสุดของทั้ง 2 รุ่นมาเฉลี่ย)
ผลปรากฏว่า แอคคอร์ด ดาวน์ 293,700 บาท ซิที 126,800 บาท ต่างกัน 166,900 บาท แอคคอร์ด ผ่อนต่อเดือน 22,280 บาท ซิที 9,637 บาท
ตอนซื้อ รถเล็กกับรถกลางใหญ่จ่ายต่างกันเดือนละ 12,643 บาท รายได้ต่อเดือนคุณแค่ไหน สบายกระเป๋าเท่าไร กับระยะเวลา 5 ปี ที่ต้องผ่อนจ่าย ไปคิดคำนวณต่อเองได้เลยตอนใช้
ค่าใช้จ่ายตอนใช้นับเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้ค่าตัวตอนซื้อ เพราะคุณต้องจ่ายๆ แล้วก็จ่าย ตลอดเวลาที่ยังอยู่กับมัน สิ่งที่คุณต้องจ่ายหลักๆ มี 2 เรื่อง คือ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง กับค่าบำรุงรักษาเมื่อเข้าศูนย์บริการ
จากการสุ่มสำรวจของเรา โดยโทรศัพท์ไปยังศูนย์บริการมาตรฐาน ฮอนดา ที่ระบุในคู่มือรถเพื่อสอบถาม ได้ความว่า รวมราคาอะไหล่ที่จำเป็นต้องเปลี่ยน และค่าแรงตลอดระยะเวลา 100,000 กม. แอคคอร์ด จ่าย 24,206 บาท เข้าบำรุงรักษา 10,000 กม./ครั้ง แต่ละครั้งถูกแพงต่างกันไป แต่เฉลี่ยแล้วจ่ายหมื่นละ 2,420 บาท ส่วน ซิที 100,000 กม. จ่ายรวม 22,296 บาท จ่ายหมื่นละ 2,229 บาท
รวม 5 ปี 100,000 กม. (ตามระยะรับประกัน) ต่างกัน 1,910 บาท ปีละ 382 บาท ต่างกันแค่เดือนละ 32 บาท เท่านั้นเอง
มาที่ค่าน้ำมันกันบ้าง อ้างอิงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง จากผลทดสอบด้วยเครื่องมือดาทรอนเมื่อวิ่งความเร็วคงที่ (ผลอาจต่างจากการใช้งานจริงที่ต้องเร่งต้องเบรคบ่อยๆ) โดยทีมทดสอบ ฟอร์มูลา (สนใจรุ่นอื่นๆ อีก คลิคเข้าไปดูได้ที่ www.autoinfo.co.th)
ความเร็ว (กม./ชม.) แอคคอร์ด 2.4 (กม./ลิตร) ซิที 1.5 (กม./ลิตร)
60 18.3 21.7
80 17.9 21.4
100 15.0 17.6
120 12.8 14.0
140 10.6 11.8
เฉลี่ย 14.9 17.3
เมื่อนำผลทุกความเร็วมาเฉลี่ย แล้วคำนวณกับการใช้งาน 5 ปี รวมระยะทางประมาณ 100,000 กม. และเติมน้ำมันเชื้อเพลิง แกสโซฮอล 95 (เพื่อให้ตรงกันกับชนิดน้ำมันที่ใช้ทดสอบ: คำนวณกับราคาเชื้อเพลิงลิตรละ 32.74 บาท ณ วันที่ 20 มีค. 2553)
แอคคอร์ด ต้องใช้น้ำมัน 6,711 ลิตร จ่าย 219,718 บาท ส่วน ซิที ใช้น้ำมันไป 5,780 ลิตร จ่าย 189,237 บาท 5 ปี 100,000 กม. ต่างกัน 30,481 บาท ต่างกันปีละ 6,096 บาท ต่างกันเดือนละ 508 บาท
แถมให้หน่อยสำหรับคนขี้เกียจล้างรถเอง เอาแค่ร้านล้างรถตามปั๊มก็ได้ รถขนาดเล็ก/ใหญ่ ราคาล้างสีดูดฝุ่นต่างกัน รถเล็ก 100 บาท รถใหญ่ 140 บาท ถ้าล้างสัปดาห์ละครั้ง 5 ปี 260 ครั้ง รถเล็กจ่าย 26,000 บาท รถใหญ่จ่าย 36,400 บาท 5 ปี ต่างกัน 10,400 บาท ต่างกันปีละ 2,080 บาท ต่างกันเดือนละ 173 บาท
รวมตอนใช้ รถเล็กจ่ายน้อยกว่าเดือนละ 32+508+173=713 บาท
สรุปว่า ถ้าจะซื้อรถเล็กแทนรถคันใหญ่ จะจ่ายน้อยลงรวมทั้งตอนซื้อ และตอนใช้ (ไม่รวมเงินดาวน์ที่จ่ายน้อยกว่าไป 166,900 บาท ซึ่งจ่ายเป็นก้อน ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด และค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันอื่นๆ และค่าประกันภัยประเภท 1 ที่ต่างกันเกือบหมื่นบาท/ปี ซึ่งเราไม่นำไปรวมด้วย เพราะผู้ใช้อาจเลือกไม่ทำ หรือเลือกทำประเภทอื่นๆ ก็ได้) ได้เดือนละ 12,643+713=13,356 บาท
ราคาขายต่อ
เข้าไปสำรวจราคากลางของเวบไซท์รถมือสองชื่อดัง ซึ่งใช้วิธีเฉลี่ยราคารถปี 2552 ทุกคันที่ประกาศขายในเวบไซท์ เฉพาะ ฮอนดา แอคคอร์ด และ ซิที โฉมปัจจุบัน ผลปรากฏว่า
แอคคอร์ด มี 6 คัน ราคามือสองเฉลี่ย 1,298,000 บาท รถใหม่ราคาขายเฉลี่ย 1,468,500 บาท ใช้แล้ว 1 ปี ราคาตกลงไป 11.6 %
ซิที มี 8 คัน ราคามือสองเฉลี่ย 600,000 บาท รถใหม่ขายเฉลี่ย 634,000 บาท ใช้แล้ว 1 ปี ราคาตกลงไป 5.4 %
สมรรถนะ
หลายคนบอกรถบ้านเราราคาแพงกว่าบ้านอื่นเมืองอื่นเขา ฉะนั้นซื้อรถทั้งทีต้องได้ประโยชน์มากๆ เปิดกระทู้เรื่องรถบนอินเตอร์เนท ถามกันมาบ่อยว่ารถเล็กขึ้นเขาไหวไหม ไปต่างจังหวัดไกลๆ ได้หรือเปล่า...อย่ากังวลไป แบบนั้นมันได้สบายๆ อยู่แล้วล่ะ แค่เปรียบเทียบกันสักหน่อยว่าสมรรถนะ ทั้งอัตราเร่ง การเร่งแซง และระยะเบรคต่างกันแค่ไหน เพราะนั่นส่งผลโดยตรงถึงความปลอดภัยทีเดียว
แอคคอร์ด 2.4 I-VTEC EL เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 180 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 22.6 กก.-ม. ที่ 4,300 รตน. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ น้ำหนักรถเปล่า 1,556 กก. คำนวณได้กำลัง 115.6 แรงม้า/1 ตัน
ซิที 1.5 I-VTEC SV เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 120 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.8 กก.-ม. ที่ 4,800 รตน. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ น้ำหนักรถเปล่า 1,124 กก. คำนวณได้ 100.7 แรงม้า/1 ตัน
ทั้ง 2 คัน ที่ใช้ทดสอบ ใช้ระบบห้ามล้อแบบจานทั้งล้อหน้า และล้อหลัง มี เอบีเอส/อีบีดี และ บีเอ ครบถ้วน
เปรียบเทียบผลทดสอบด้วยเครื่องมือดาทรอน
การทดสอบ แอคคอร์ด ซิที ผลต่าง
อัตราเร่ง
0-100 (กม./ชม.)
เวลา (วินาที) 10.4 12.3 1.9
ระยะทาง (ม.) 167.2 208.6 41.4
0-400 (ม.)
เวลา (วินาที) 17.4 18.5 1.1
ความเร็ว (กม./ชม.) 133.3 122.7 10.6
0-1,000 (ม.)
เวลา (วินาที) 31.2 33.6 2.4
ความเร็ว (กม./ชม.) 176.2 156.0 20.2
จะเห็นได้ว่า ซิที มีอัตราเร่งโดยรวมช้ากว่า แอคคอร์ด ผลการทดสอบทุกรูปแบบ ใช้เวลามากกว่าไป 1-2 วินาทีกว่าๆ ทั้งนี้น่าจะมาจากอัตราส่วนแรงม้า/ตันที่น้อยกว่าเป็นหลัก ส่วนระบบส่งกำลังเป็นรอง แนะนำว่าหากจะคาดเดาอัตราเร่งเปรียบเทียบกันระหว่างรถ 2 คัน ให้คำนวณอัตราส่วนแรงม้า/ตัน และดูแรงบิดสูงสุดประกอบ จะเป็นตัวชี้วัดได้ตรงพอสมควร
การทดสอบ แอคคอร์ด ซิที ผลต่าง อัตราเร่งแซง
40-60 (กม./ชม.)
เวลา (วินาที) 11.4 14.4 3.0
ระยะทาง (ม.) 273.5 351.5 78.0
60-100 (กม./ชม.)
เวลา (วินาที) 6.1 6.6 0.5
ระยะทาง (ม.) 135.2 151.3 16.1
80-120 (กม./ชม.)
เวลา (วินาที) 6.6 9.2 2.6
ระยะทาง (ม.) 184.9 295.5 110.6
จะเห็นได้ว่า ซิที มีอัตราเร่งที่ช้ากว่าทุกช่วงความเร็ว ตั้งแต่ครึ่งวินาทีจนถึง 3 วินาที เฉพาะช่วง 60-100 กม./ชม. ที่มีอัตราเร่งใกล้เคียงกัน คือ 0.5 วินาที ที่แปลกกว่ารถยุคก่อน คือ อัตราเร่งแซงช่วงความเร็วต่ำของ แอคคอร์ด ซึ่งเป็นรถเครื่องยนต์ 2 ลิตร ขึ้นไป เหนือกว่าเครื่องเล็กอย่างเห็นได้ชัด (เดิมมักช้ากว่า และจะมีอัตราเร่งที่ดีเมื่อความเร็วสูงขึ้น) ใช้เวลาน้อยกว่ากันถึง 3 วินาที และใช้ระยะทางน้อยกว่าถึง 78 .0 ม. ไม่ต่างจากช่วงความเร็วสูง 80-120 กม./ชม. ที่มีอัตราเร่งที่ดีกว่าเช่นเดียวกัน ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากระบบวาล์วแปรผันที่ทำให้มีอัตราเร่งดีทุกช่วงความเร็ว
การทดสอบ แอคคอร์ด ซิที ผลต่าง
ระยะเบรค
60-0 (กม./ชม.)
ระยะทาง (ม.) 15.8 18.2 2.4
เวลา (วินาที) 2.6 2.8 0.2
80-0 (กม./ชม.)
ระยะทาง (ม.) 28.6 28.3 0.3
เวลา (วินาที) 3.3 3.1 0.2
100-0 (กม./ชม.)
ระยะทาง (ม.) 45.4 43.7 1.7
เวลา (วินาที) 4.0 3.5 0.5
หัวข้อนี้ แอคคอร์ด หยุดได้สั้นกว่าในความเร็วต่ำ ใกล้เคียงกันมากที่ความเร็วปานกลาง (ซิที ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย) ส่วนความเร็วสูง ซิที ทำระยะเบรคสั้นกว่า แอคคอร์ด เกือบ 2 ม. ซึ่งน่าจะมีสาเหตุจากน้ำหนักตัวของ แอคคอร์ด ที่มากกว่า อย่างไรก็ตามโดยรวมน่าจะพอสรุปได้ว่า ประสิทธิภาพเบรคของทั้ง 2 คัน ไม่ต่างกันมากนัก
แม้รถขนาดเล็ก กับรถขนาดกลางใหญ่ในตลาด ไม่ได้ตายตัวว่าจะใช้เครื่องยนต์ขนาดนี้ และมีกำลังเท่านี้เสมอไป แต่ก็ถือว่าส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน จึงพอสรุปได้ว่าสมรรถนะด้านเครื่องยนต์โดยรวม รถเล็กอย่างไร ก็ยังสู้รถกลางใหญ่ไม่ได้ ผลออกมาไม่ได้แตกต่างกันจนขี้เหร่ แต่อย่าลืมว่ามันก็มีผลต่อความปลอดภัย และความสบาย (ไม่เหนื่อย) ในการขับด้วย ส่วนสมรรถนะด้านการหยุดรถ ถือว่ามีความสมดุลในการคำนวณประสิทธิภาพการห้ามล้อกับน้ำหนักรถ ผลที่ออกมาใกล้เคียงกัน
ภาพลักษณ์
ใครๆ ก็บอกขับรถคันใหญ่กว่า ก็ดูหรูกว่า ดูมีเงินมากกว่าคนขับรถคันเล็กๆ ยิ่งสังคมวัตถุนิยมอย่างปัจจุบันยิ่งแล้วใหญ่ คนขับรถเล็กได้รับเกียรติน้อยกว่าแน่ๆ (ทั้งนี้ช่วยคำนึงถึงหน้าตาและบุคลิกของผู้ขับด้วย)มาดูกันสิว่าจะจริงแค่ไหน จาก 2 การทดลองนี้...
การทดลองที่ 1. ขอจอดที่ผู้อำนวยการ
เราทดลองด้วยการใช้คนที่หน้าตาและบุคลิกใกล้เคียงกัน คนหนึ่งขับ ซิที อีกคนขับ แอคคอร์ด เข้าไปขอจอดรถในงานจัดงานแสดงสินค้าที่มีรถคับคั่ง จนต้องแย่งที่จอดกัน เห็นที่จอดรถของผู้อำนวยการว่างอยู่ จึงขอ รปภ. คนเดียวกัน และด้วยคำพูดสุภาพๆ แบบเดียวกัน ผลปรากฏว่า
รถเล็ก
ซิที : รถแน่นไม่มีที่จอดเลย ขอจอดช่องนี้ได้ไหมครับ ?
รปภ. : ไม่ได้ๆ นี่ที่จอดรถของผู้อำนวยการ ไม่เห็นป้ายหรือ
ซิที : แล้วผมจะจอดตรงไหนได้ครับ ?
รปภ. : ไม่มีก็ต้องจอดแปะเอา (พร้อมชี้มือ)
รถใหญ่
แอคคอร์ด : รถแน่นไม่มีที่จอดเลย ขอจอดช่องนี้ได้ไหมครับ ?
รปภ. : จะจอดตรงนี้หรือครับ อือ...ไม่น่าจะได้นะครับ เพราะเป็นที่ของผู้อำนวยการ
แอคคอร์ด : แล้วผมจะจอดตรงไหนได้ครับ ?
รปภ. : สักครู่นะครับ (ว่าแล้วก็ ว. บอกเพื่อนให้ช่วยเชคช่องจอดว่างจนได้ที่) ...พี่ตาม รปภ. คนนั้นไปเลยครับ
การทดลองที่ 2
เชคความสนใจ
เราทดลองด้วยการขับรถ ซิที และ แอคคอร์ด เข้าไปในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนซัมเมอร์พอดี เพื่อเชคสายตาหวานเชื่อมของสาวๆ ว่าจะมองรถคันไหน และหนุ่มคนไหนในรถมากกว่ากัน (เรื่องนี้วัดได้โดยสัญชาตญาณ) ผลปรากฏว่า ซิที มองมาที่รถ และคนในรถ ซิที 20 คู่ ส่วน แอคคอร์ด ทั้งที่ใหญ่และแพงกว่ากลับมองมาแค่ 16 คู่
การทดลองทั้ง 2 เรื่อง อาจเป็นแค่เรื่อง ขำขำ วัดจริงจังเชิงสถิติไม่ได้ และเป็นแค่เพียงรถตลาดที่ราคาแตกต่างกัน ไม่ใช่รถประหยัดราคาถูกกับรถสปอร์ทคันละหลาย 10 ล้านบาท ที่ไม่ลองก็รู้ว่าผลที่ออกมาคงแตกต่างกันมากมาย แต่ก็ทำให้พอรู้ว่า รถใหญ่ได้รับเกียรติกว่ารถเล็กอยู่บ้าง ส่วนความน่าสนใจความแตกต่างแค่ 10 % ไม่น่าจะมีนัยสำคัญเพียงพอ ผลจึงแทบไม่ต่างกัน
ความสะดวกสบาย
เรื่องสำคัญสำหรับการตัดสินใจว่าจะเลือกใช้รถเล็กหรือใหญ่ น่าจะอยู่ที่ความสะดวกสบายเป็นหลัก มาดูกันว่า ถ้าเปลี่ยนใจไปใช้รถเล็ก ความกว้างขวาง และความสะดวกสบายจะหดหายไปสักเท่าไร
1. ความกว้างภายในห้องโดยสาร: จากผนังประตูซ้ายจรดประตูขวา แอคคอร์ด หน้า/หลัง 157.6/153.2 ซม. ซิที หน้า/หลัง 142.0/139.5 ซม. ซิที แคบกว่า 15.6/13.7 ซม.
2. ความยาวภายในของห้องโดยสาร: จากขอบบนวงพวงมาลัยถึงหมอนหนุนศีรษะเบาะหลัง แอคคอร์ด 168.3 ซม. ซิที 166.0 ซม. ซิที สั้นกว่า 2.3 ซม.
3. ความสูงของห้องโดยสาร: จากพื้นเบาะเมื่อปรับต่ำสุดถึงเพดาน แอคคอร์ด เบาะหน้า/หลัง 103.5/96.2 ซม. ซิที เบาะหน้า/หลัง 98.0/91.2 ซม. ซิที เตี้ยกว่า 5.2/5.0 ซม.
4. ขนาดเบาะ: แอคคอร์ด หน้า ยาว/กว้าง/สูง 52.8/52.3/82.0 ซม. หลัง 51.2/139.0/80.4 ซม. ซิที หน้า ยาว/กว้าง/สูง 52.0/50.8/81 ซม. หลัง 49.1/127.2/70.9 ซม. ซิที สั้น/แคบ/เตี้ย กว่า หน้า 0.8/1.5/1.0 ซม. หลัง 2.1/11.8/9.5 ซม.
5. ระยะห่างระหว่างเบาะหน้าซ้าย/ขวา: แอคคอร์ด 26.6 ซม. ซิที 14.5 ซม. ซิที ห่างน้อยลง 12.4 ซม.
6. ระยะหัวเข่า เมื่อปรับเบาะหน้าให้ขับสบาย: แอคคอร์ด 25.4 ซม. ซิที 22.5 ซม. ซิที สั้นกว่า 2.9 ซม.
7. ความกว้างของที่วางเท้า: แอคคอร์ด 55.4 ซม. ซิที 53.3 ซม. ซิที แคบกว่า 2.1 ซม.
8. ความจุห้องสัมภาระ : แอคคอร์ด ลึก/กว้าง/สูง 114.3/142.3/46.8 ซม. ซิที 95.0/138.0/60.8 ซม. สั้น/แคบ กว่า 19.3/4.3 ซม. แต่ ซิที สูงกว่า 14.0 ซม.
9. อุปกรณ์มาตรฐาน (รุ่นทอพทั้งคู่) ที่ แอคคอร์ด มี และ ซิที เทียบไม่ได้ (อาจถามตัวเองว่าจำเป็นต้องมีไหม)
- ไฟหน้า HID
- ไฟหน้าปรับสูง/ต่ำอัตโนมัติ
- กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลงเองเมื่อถอยหลัง
- ครูสคอนทโรล
- ม่านกระจกหลังปรับไฟฟ้า
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ไฟอ่านหนังสือสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
- ที่เท้าแขนเบาะหลังเปิดทะลุถึงห้องสัมภาระได้
- ระบบนำทาง
- เครื่องเล่น ดีวีดี พร้อมกล้องส่องภาพด้านหลังเมื่อถอยหลัง
- ถุงลมด้านข้าง และม่านนิรภัย
- ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
10. การเลี้ยวและการจอด
ความยาวและความกว้างของรถเล็กที่น้อยกว่ารถใหญ่ รวมถึงวงเลี้ยวที่แคบกว่า จะให้ผลต่างกันแค่ไหนกับการทดลองทั้ง 2 เรื่องนี้ สิ่งที่ต้องรู้ คือ แอคคอร์ด ยาว/กว้าง/สูง 4,935/1,845/1,476 มม. รัศมีวงเลี้ยว 5.7 ม. ซิที ยาว/กว้าง/สูง 4,395/1,695/1,470 มม. รัศมีวงเลี้ยว 5.0 ม.
การทดลองที่ 1
เลี้ยวในมุมแคบ
จอดรถในที่จอดติดกับประตูทางออกกว้าง 3.5 ม. คนขับคนเดียวกัน แอคคอร์ด ตีวงแล้วยังต้อง โยก กันถึง 3 รอบ และต้องมีคนช่วยดูจึงจะหลุดไปได้ ส่วน ซิที ตีวงนิดหน่อย กะให้ดี ไม่ต้องมีคนช่วยดู ทีเดียวก็ผ่านฉลุย
การทดลองที่ 2
ออกจากขอบทาง
จำลองการพารถออกจากการจอดที่ขอบทางระหว่างรถ 2 คัน ที่มีความยาวช่องจอดเพียง 5.4 ม. แอคคอร์ด จอดนิ่งๆ หมุนพวงมาลัยจนสุดแล้วถอยหลัง หมุนพวงมาลัยอีกครั้งแล้วเดินหน้า โยก แบบนี้ 2 ครั้ง ถึงออกมาได้ ส่วน ซิที ทำแบบเดียวกัน แต่แค่รอบเดียวก็ผ่านฉลุย
แน่อยู่แล้วว่ารถกลางใหญ่นั่งสบายกว่ารถเล็ก และเหนือกว่าทุกหัวข้อ โดยเฉพาะความกว้าง รองลงมา คือ ความสูง แต่น่าสังเกตว่าความยาวของห้องโดยสารต่างกันเพียงเล็กน้อย (ซิที สั้นกว่า 2.3 ซม.) เท่านั้น แม้ตัวรถกลางใหญ่จะยาวกว่าถึง 54.0 ซม. และมีฐานล้อยาวกว่า 25.0 ซม. ก็ตามที ซึ่งน่าจะเป็นเทคนิคการออกแบบส่วนตัวของ ซิที ตัวแทนรถขนาดเล็กรุ่นนี้ อุปกรณ์มาตรฐานให้มากน้อยตามราคารถ ส่วนความคล่องตัว รถเล็กชนะขาด
รถเล็กเดี๋ยวนี้ไม่เล็ก
รถเล็กเดี๋ยวนี้ขยายมิติขึ้นทุกสัดส่วน มิติภายนอกอาจ ยาว/กว้าง/สูง ขึ้นไม่เท่าไร แต่ภายในนี่สิใช้เทคนิคการออกแบบ ทำให้ได้เนื้อที่เยอะขึ้นเป็นกอง จนบางมิติกว้างกว่ารถ คอมแพคท์ ยุคก่อนด้วย
เราลองนำ ซิที ใหม่ มาเทียบกับ ฮอนดา ซิที รุ่นแรก ซึ่งถือว่ามีขนาดตัวใหญ่กว่าพรรคพวกรวมเซกเมนท์ และ และเซกเมนท์ที่สูงกว่าบางรุ่นในยุคนั้นด้วย แต่ก็ยังมีขนาดที่ภายนอกเล็กกว่า ซิที โฉมปัจจุบันอยู่พอสมควร ส่วนภายในเล็กกว่ามาก เห็นได้ชัดเจนจากตัวเลขมิติดังต่อไปนี้
1. ความกว้างภายในห้องโดยสาร: จากผนังประตูซ้ายจรดประตูขวา ซิที เก่า หน้า/หลัง 137.4/137.2 ซม. ซิที ใหม่ หน้า/หลัง 142.0/139.5 ซม. ซิที ใหม่ กว้างกว่า 4.6/2.3 ซม.
2. ความยาวภายในห้องโดยสาร: จากขอบบนวงพวงมาลัย-หมอนหนุนศีรษะเบาะหลัง ซิที เก่า 156.0 ซม. ซิที ใหม่ 166.0 ซม. ซิที ใหม่ ยาวกว่าถึง 10.0 ซม.
3. ความสูงของห้องโดยสาร: จากพื้นเบาะเมื่อปรับต่ำสุดถึงเพดาน ซิที เก่า เบาะหน้า/หลัง 94.3/88.7ซม. ซิที ใหม่ เบาะหน้า/หลัง 98.0/91.2 ซม. ซิที ใหม่ สูงกว่า 4.3/2.5 ซม.
4. ห้องสัมภาระ: ซิที เก่า ลึก/กว้าง/สูง 92.8/142.3/51.3 ซม. ซิที ใหม่ 95.0/138.0/60.8 ซม. ซิที ใหม่ ลึก/สูง กว่า 2.2/9.5 ซม. แต่แคบกว่า 4.3 ซม.
สรุป
ถ้าจะเปลี่ยนใจจากรถขนาดกลางใหญ่มาใช้รถเล็ก พิจารณาแล้วค่าใช้จ่ายของรถกลางใหญ่จ่ายแพงกว่ามากตอนซื้อ จ่ายแพงกว่านิดเดียวตอนใช้ ถ้าใครอยากประหยัด รถเล็กคงได้คะแนนนำลิ่ว
อย่างไรก็ตามเรื่องค่าใช้จ่ายตอนซื้อ คงไม่ใช่ปัญหาสำหรับใครหลายคน แถมตอนใช้ก็จ่ายต่างกันไม่กี่มากน้อย คะแนนข้อนี้แม้เราจะให้รถเล็กเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าคุณเปิดกระเป๋าดู แล้วพิจารณาว่า แค่นี้สบาย ก็ข้ามข้อนี้ไปได้เลย
ด้านสมรรถนะ ตัวแปรอยู่ที่รุ่นรถที่เรานำมาเป็นตัวแทน อย่างที่บอกว่าขนาด และกำลังของเครื่องยนต์ไม่ได้เท่ากันเสมอไป แต่ถือว่าส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน หากจะเน้นหัวข้อนี้เป็นสำคัญ ก็ขอให้ลองขับ หรือพิจารณาแรงม้า/ตัน และแรงบิดอย่างที่แนะนำไปด้วย
ด้านภาพลักษณ์ รถกลางใหญ่เหนือกว่าแน่ๆ แต่ถ้าเป็นรถตลาดเหมือนกัน ความสนใจก็จะไม่ต่าง
สุดท้ายความสะดวกสบาย แม้รถกลางใหญ่จะเหนือกว่าทุกมิติ แต่ก็ความยาวของห้องโดยสารที่รถเล็กสามารถ ยืด ออกมาได้อย่างน่าแปลกใจ ฉะนั้น บอกได้คำเดียวว่า
รถเล็กยุคนี้น่าใช้ไม่ใช่เล่น
หวังว่าข้อเปรียบเทียบจากการพิจารณา และการทดลองของ ฟอร์มูลา จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ขอให้มีความสุขกับรถคันใหม่...ไม่ว่าจะคันใหญ่ หรือคันเล็ก
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี formula@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2553
คอลัมน์ Online : พิเศษ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/28651