ทั่วไป
เทคโนโลยีสมัยใหม่ ช่วยให้หยั่งรู้สภาพการจราจรล่วงหน้า สามารถเลือก หรือเลี่ยงเส้นทางได้ตามใจ
เทคโนโลยีสมัยใหม่ ช่วยให้หยั่งรู้สภาพการจราจรล่วงหน้า สามารถเลือก หรือเลี่ยงเส้นทางได้ตามใจ
3-4 ปีก่อน นักท่องอินเตอร์เนทคงได้รู้จักเวบไซท์แผนที่ยอดฮิท GOOGLE EARTH ที่ช่วยให้คุณสามารถดูภาพถ่ายดาวเทียมที่ใดก็ได้ในโลก แถมยังสนุกตรงที่มันเป็นภาพมุมสูงที่ไม่ค่อยได้เห็น แม้แต่สถานที่คุ้นเคย อย่างบ้านของคุณเอง เกาะกระแสฉบับนี้เราจะนำเทคโนโลยีการตรวจสภาพจราจร ที่ต่อยอดมาจากเวบไซท์ดังกล่าว ซึ่งคิดค้น และพัฒนาขึ้นโดยคนไทย คุณสามารถเห็นภาพการจราจรบนถนนต่างๆ ได้แบบสดๆ ผ่านกล้อง CCTV ที่ติดตั้งทั่วกรุง
การเดินทางด้วยรถยนต์ภายในกรุงเทพ ฯ ใครๆ ก็รู้กันดีว่าไปที่ไหน ก็รถติด โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน จะติดขัดมากเป็นพิเศษ ศูนย์เทคโนโลยีอีเลคทรอนิคส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงพัฒนาระบบจราจรอัจฉริยะ ชื่อน่ารัก "ทแรฟฟี" (TRAFFY) ที่สามารถรายงานสภาพจราจรได้ ณ เวลาปัจจุบัน (REAL TIME)
ทแรฟฟี คือ อะไร ?
ทแรฟฟี คือ ชื่อของโพรแกรมตรวจสอบสภาพการจราจรออนไลน์ แสดงในรูปแบบของ GOOGLE MAPS ผ่านเว็บไซท์ www.traffy.in.th ซึ่งสามารถเห็นเส้นทางการจราจรที่คล่องตัว หรือติดขัดด้วยสีเขียว สีเหลือง และสีแดง (เหมือนป้ายจราจรอัจฉริยะ) โดยดึงข้อมูลประกอบการรายงานมาจากป้ายจราจรอัจฉริยะ 40 ป้าย และกล้อง CCTV รอบกรุงเทพ ฯ โดยได้รับความร่วมมือจากตำรวจทางหลวงกรุงเทพมหานคร สวพ. 91 ขนส่งมวลชน การทางพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถรายงานสภาพการจราจรออนไลน์แบบเกาะติดทุกเสี้ยววินาที โดยจะเห็นเป็นภาพผ่านกล้อง CCTV ทำให้ผู้ใช้เส้นทางสามารถตรวจสอบ และวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้ โดยมีรายละเอียดหลักดังนี้
1. ตรวจสอบสภาพการจราจร จะเห็นได้จากสีที่แสดงเอาไว้ สีแดง หมายถึง ติดขัด สีเหลือง หมายถึง หนาแน่น และ สีเขียว หมายถึง คล่องตัว
2. ตรวจสอบเส้นทาง สามารถกำหนดจุดเริ่มต้น และที่หมายปลายทางที่คุณจะไป โดยระบบจะแสดงให้ทราบว่า จะต้องใช้เส้นทางใดดีที่สุด หรือเส้นทางไหนควรเลี่ยง
3. สามารถแสดงรายละเอียดที่จำเป็นบนแผนที่ เช่น จุดป้ายจราจรอัจฉริยะ จุดเกิดอุบัติเหตุ จุดกำลังก่อสร้าง ฯลฯ
4. สามารถดูสภาพการจราจร ณ เวลาจริงๆ จากกล้อง CCTV วงจรปิด ที่ติดอยู่ทั่ว กรุงเทพ ฯ ได้
5. สามารถที่จะมีส่วนร่วมรายงานการจราจร ผ่านโทรศัพท์มือถือ และส่งรูปเข้าสู่ระบบ พีทแรฟฟี (PTRAFFY) เพื่อนำไปประมวลผลวิเคราะห์การจราจรต่อไป
เชื่อมระบบกับโทรศัพท์มือถือได้
โทรศัพท์มือถือในมือคุณ ก็สามารถตรวจสภาพจราจรของ ทแรฟฟี ได้ โดยต้องเป็นระบบ ซิมเบียน (SYMBIAN) และระบบวินโดว์สโมไบล์ (WINDOWS MOBILE)หรือที่เรียกกันว่า PDA ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ โดยไม่ต้องง้อระบบ จีพีเอส (GPS) เหมือนโพรแกรมเวอร์ชันก่อนๆ เจ้าของโทรศัพท์แต่ละเครื่อง จะสามารถรู้ตำแหน่งที่อยู่ของตนจากดาวเทียมของเครือข่าย โดยผู้ใช้สามารถโหลดโพรแกรม ทแรฟฟี ได้จาก เวบไซท์ข้างต้น ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. พีทแรฟฟี (PTRAFFY) เป็นการรายงานสภาพการจราจรโดยอาสาสมัครผ่านโทรศัพท์มือถือ PDA ซึ่งโทรศัพท์จำพวกนี้ จะใช้กับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส โมไบล์ เป็นหลัก เช่น ยี่ห้อ ASUS P526, O2 ATOM LIFE, HTC P3400, DOPOD 818 PRO เป็นต้น
2. เจทแรฟฟี (JTRAFFY) รายงานสภาพการจราจรผ่านมือถือที่รองรับโพรแกรมภาษา จาวา (JAVA) เช่นยี่ห้อ NOKIA, SONY ERICSON, SAMSUNG, MOTOROLA เป็นต้น
3. เอมทแรฟฟี (MTRAFFY) ใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือระบบ ซิมเบียน เช่น ยี่ห้อ NOKIA 6680, NOKIA N70, NOKIA N95 เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ไม่มีโทรศัท์มือถือที่รองรับระบบ ทแรฟฟี ได้ ทีมนักวิจัยได้พัฒนาระบบรายงานสภาพการจราจรผ่านเสียงพูด จากระบบอัตโนมัติที่บันทึกข้อมูลสภาพการจราจรไว้ โดยทดลองใช้ระบบดังกล่าวได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2565-7007 ซึ่งมีทั้งหมด 10 คู่สาย และมีรายชื่อถนน 70 เส้น ระบบนี้เพิ่งพัฒนาขึ้น ใช้ได้แล้วแต่ยังไม่ได้เปิดตัวเป็นทางการ
แล้วถ้าเป็นเนวิเกเตอร์ ในรถล่ะ ?
ใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้ว เพราะวันนี้มีผู้กำลังนำเอาข้อมูล มาเชื่อมต่อกับระบบนำทางด้วยดาวเทียม (GPS) เพื่อให้คนใช้รถสามารถรู้สภาพการจราจรขณะนั้นได้ในเวลาปัจจุบัน เพื่อสามารถวางแผนการเดินทางได้ โดยขณะนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้จับมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และอีกหลายองค์กรของรัฐบาล และเอกชน ร่วมกันจัดตั้งโครงการนำร่องที่ชื่อว่า "ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย" ซึ่งขณะนี้กำลังพัฒนาซอฟท์แวร์อยู่ รอกันหน่อย ที่สำคัญที่สุด คือ สามารถใช้ได้ "ฟรี" ฉะนั้น ใครที่มีระบบ GPS ติดรถอยู่ รอฟังข่าวดีได้เลย
สงสัยเพิ่มเติมติดต่อ ดร. วสันต์ ภัทรอธิคม หน่วยปฎิบัติการวิจัยเทคโนโลยีเครือข่าย NECTEC โทร. 0-2564-6900 ต่อ 2528, 08-6901-6124 หรือ EMAIL wasan@nectec.or.th
แม้ไม่ใช้มือถือ ก็หนีรถติดได้ เพราะเรากำลังจะบอกว่า ชาวกรุงเทพ ฯ ให้เลี่ยงเส้นทางเหล่านี้ได้เลย เนื่องจากจะมีการปิดสะพานเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมทั้งหมด 10 แห่ง และรื้อสร้างใหม่อีก 1 แห่ง ได้แก่
1. สะพานข้ามแยกรัชโยธิน เริ่ม 1 กันยายน 2552 ใช้เวลา 30 วัน ปิดการจราจรด้านละ 15 วัน
2. สะพานข้ามแยกบางพลัด เริ่ม 15 กันยายน 2552 ใช้เวลา 90 วัน ปิดการจราจรด้านละ 45 วัน
3. สะพานข้ามแยกพงษ์เพชร เริ่ม 1 ตุลาคม 2552 ใช้เวลา 90 วัน ปิดการจราจรด้านละ 45 วัน
4. สะพานพระรามที่ 4 เริ่ม 1 ตุลาคม 2552 ใช้เวลา 90 วัน ปิดการจราจรด้านละ 45 วัน
5. สะพานข้ามแยกคลองตัน เริ่ม 1 ธันวาคม 2552 ใช้เวลา 180 วัน ปิดการจราจรฝั่งละ 90 วัน โดยแบ่งปิดการจราจรเป็น 2 ครั้งๆ ละ 45 วัน
6. สะพานข้ามแยกวงศ์สว่าง เริ่ม 1 มกราคม 2553 ใช้เวลา 90 วัน ปิดการจราจรฝั่งละ 45 วัน
7. สะพานข้ามแยกเกษตร เริ่ม 1 เมษายน 2553 ใช้เวลา 30 วัน ปิดการจราจรทั้งสะพาน
8. สะพานข้ามสามเหลี่ยมดินแดง เริ่ม 1 เมษายน 2553 ใช้เวลา 30 วัน ปิดการจราจรทั้งสะพาน
9. สะพานข้ามแยกประชานุกูล เริ่ม 1 พฤษภาคม 2553 ใช้เวลา 90 วัน ปิดการจราจรด้านละ 45 วัน
10. สะพานข้ามแยกท่าพระ เริ่ม 1 พฤษภาคม 2553 ใช้เวลา 90 วัน ปิดการจราจรด้านละ 45 วัน
นอกจากนั้นยังรื้อสร้างใหม่อีก 1 แห่ง คือ สะพานเหล็กข้ามแยกอโศก-เพชรบุรี เริ่ม15 กันยายน 2552 ถึง 15 มิถุนายน 2553 ใช้เวลา 300
วัน สามารถติดต่อสอบถาม และร้องเรียนได้ที่สายด่วน กทม.1555
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ witthawin@autoinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2552
คอลัมน์ Online : ทั่วไป
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/28076