พิเศษ
น่าจับตามองว่า ตลาดน้ำมันเครื่องที่มียอดจำหน่ายกว่า 450 ล้านลิตร/ปี จะได้รับผลกระทบจากการหดตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์มากน้อยเพียงใด "ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์ เพิ่มศักดิ์ โกศลพันธุ์ ประธานบริหาร บริษัท วาโวลีน (ประเทศไทย) จำกัด ถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนทิศทางของตลาดน้ำมันเครื่องเมืองไทย
น่าจับตามองว่า ตลาดน้ำมันเครื่องที่มียอดจำหน่ายกว่า 450 ล้านลิตร/ปี จะได้รับผลกระทบจากการหดตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์มากน้อยเพียงใด "ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์ เพิ่มศักดิ์ โกศลพันธุ์ ประธานบริหาร บริษัท วาโวลีน (ประเทศไทย) จำกัด ถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนทิศทางของตลาดน้ำมันเครื่องเมืองไทย
ฟอร์มูลา : บริษัท ฯ มีผลิตภัณฑ์กลุ่มใดบ้าง ?
เพิ่มศักดิ์ : บริษัท ฯ มีสินค้าครบวงจรเป็น ONE STOP SERVICE สำหรับนักธุรกิจที่ต้องการเป็นเจ้าของศูนย์บำรุงรักษารถยนต์ หรืออู่ซ่อมรถยนต์ โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น ผลิตภัณฑ์ด้านการหล่อลื่น ซึ่งมีครบทุกเซกเมนท์ตามความต้องการของตลาดในปัจจุบัน คือ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับยานพาหนะ แบ่งเป็น น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล น้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ น้ำมันเกียร์ เฟืองท้าย น้ำมันเบรค จาระบี รวมทั้งน้ำมันเอาท์บอร์ดที่ใช้กับยานพาหนะทางน้ำ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม แบ่งเป็น น้ำมันไฮดรอลิค น้ำมันเกียร์ น้ำมันที่ใช้ในเครื่องทำความเย็น
กลุ่มผลิตภัณฑ์พิเศษอื่นๆ เช่น ไส้กรอง ผลิตภัณฑ์รักษาหม้อน้ำรถยนต์บแรนด์ ZEREX ผลิตภัณฑ์กันสนิมบแรนด์ TECTYL และผลิตภัณฑ์น้ำยาเคมีบแรนด์ PYROIL นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลรักษารถยนต์บแรนด์ EAGLE ONE และ CAR BRITE ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เคลือบสีขัดเงา ทั้งภายนอก/ภายใน เคลือบเบาะ ทำความสะอาดพรม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบล้อ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่นำเข้าจากบริษัทแม่ ประเทศสหรัฐอเมริกา
วาโวลีน ฯ เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในปี 2541 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่มคนไทยร้อยละ 30 และ วาลโวลีน อินเตอร์เนชันแนล (VALVOLINE INC.) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ แอชแลนด์ (ASHLAND) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนร้อยละ 70 มีทุนจดทะเบียนก่อตั้ง 40 ล้านบาท โดยการเข้ามาลงทุนในเมืองไทยนั้น เนื่องจากบริษัทแม่ เล็งเห็นโอกาส และการเติบโตของตลาดน้ำมันเครื่องเมืองไทย
ฟอร์มูลา : วางนโยบายการตลาดไว้อย่างไร ?
เพิ่มศักดิ์ : กว่า 10 ปี ที่ผ่านมา วาลโวลีน เป็นที่รู้จัก และมีการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในตลาดเมืองไทย เนื่องจากนโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ คือ การให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า รวมทั้งความหลากหลายของสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือก ภายใต้สโลแกน GOOD-BETTER-BEST คือ คุ้มค่า คุ้มราคา-ให้การปกป้องที่ดีกว่า-ประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ เมื่อผู้บริโภคต้องการซื้อน้ำมันเครื่องสำหรับรถพิคอัพ วาลโวลีน ก็มีผลิตภัณฑ์ POWER COMMONRAIL น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ที่ให้พลังสูงสุด สำหรับเครื่องยนต์คอมมอนเรล DIESEL POWER PICK-UP น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ สำหรับเครื่องยนต์พิคอัพดีเซล และ DIESEL SYNTHETIC น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % ผสมสาร PAO (POLY ALPHA OLEFINS)
นอกจากนี้ บริษัท ฯ ทำตลาดด้วยการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ปัจจุบันมีลูกค้าทั่วประเทศกว่า 3,500 ราย ส่วนใหญ่เป็นศูนย์บริการบำรุงรักษารถยนต์ อู่ซ่อมรถยนต์ ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ร้านอะไหล่ทั่วไป กลุ่มผู้ใช้ตรง และโรงงานอุตสาหกรรม โดยบริษัท ฯ พยายามดำเนินนโยบายเพื่อให้ลูกค้ามีกำไรจากการจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ ยังมุ่งสร้างการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้า สำหรับนโยบายด้านโพรโมชันสินค้า มีบ้าง แต่ไม่มากนัก เพราะบริษัท ฯ ต้องการสร้างภาพลักษณ์ด้านคุณภาพของสินค้ามากกว่า รวมทั้ง พยายามหาเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ฟอร์มูลา : ผลประกอบการของบริษัท ฯ ในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ?
เพิ่มศักดิ์ : บริษัท ฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 20 ต่อเนื่องทุกปี โดยปีแรกของการดำเนินธุรกิจ บริษัท ฯ มียอดจำหน่ายเพียง 40 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดจำหน่ายกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งปีที่ผ่านมา บริษัท ฯ ก็เติบโตตามเป้าหมาย เนื่องจากเป็นบริษัท ฯ ใหม่ ฐานยังเล็ก ส่วนแบ่งการตลาดก็ยังมีไม่มาก ดังนั้น โอกาสในการเติบโตจึงเป็นไปได้ง่าย สำหรับปีนี้ ตั้งเป้าการเติบโตไว้ร้อยละ 15-20 ทั้งนี้ แม้ว่าการแข่งขันในตลาดน้ำมันเครื่องจะรุนแรงมาก แต่บริษัท ฯ มั่นใจว่า ด้วยคุณภาพของสินค้า และความหลากหลายครบทุกความต้องการของผู้บริโภค จะทำให้บริษัท ฯ ยังคงความเติบโตได้
บริษัท ฯ จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง โดยที่ผ่านมามีส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันเครื่องระดับบน ประมาณร้อยละ 3-4 จากมูลค่าตลาดรวมน้ำมันเครื่อง 450 ล้านลิตร/ปี แบ่งเป็น ตลาดระดับบนร้อยละ 20 ระดับกลางร้อยละ 30 และระดับล่างร้อยละ 50
ฟอร์มูลา : จุดเด่นของ วาลโวลีน คือ อะไร ?
เพิ่มศักดิ์ : วาลโวลีน เป็นน้ำมันเครื่องยี่ห้อแรกของโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2409 ปัจจุบันมีจำหน่ายมากกว่า 140 ประเทศ ทั่วโลก โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การผลิต การตลาด ตลอดจนแนวทางในการบริหารงาน ถือเป็นข้อได้เปรียบของ วาลโวลีน นอกจากนี้ ในการสำรวจช่างทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาติดต่อกันเกือบ 10 ปี พบว่าช่างส่วนใหญ่เลือกใช้น้ำมันเครื่อง วาลโวลีน กับรถยนต์ของตัวเองมากที่สุด รวมทั้งในกลุ่มนักแข่งรถก็เลือกใช้น้ำมันเครื่อง วาลโวลีน เป็นอันดับ 1 เช่นเดียวกัน และได้รับเลือกให้ใช้สำหรับการแข่งขันรถยนต์รายการดังระดับโลก อาทิ INDY CAR และ NASCAR
นอกจากชื่อเสียงของน้ำมันเครื่อง วาลโวลีน ที่มีมาอย่างยาวนาน วาลโวลีน ยังให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นอันดับ 1 โดยผลิตภัณฑ์ วาลโวลีน ทุกตัวมีมาตรฐานการผลิตที่เหมือนกันทั่วโลก มีความคุ้มค่า คุ้มราคา รวมทั้งมีทางเลือกที่หลากหลายสำหรับทุกความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ฟอร์มูลา : การแข่งขันในตลาดน้ำมันเครื่องเป็นอย่างไร ?
เพิ่มศักดิ์ : ตลาดน้ำมันเครื่อง มีการแข่งขันรุนแรงมาก ในอดีตมีน้ำมันเครื่องในตลาดมากกว่า 200 ยี่ห้อ แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงประมาณ 40 ยี่ห้อ เท่านั้น เนื่องจากผู้บริโภคคำนึงถึงคุณภาพของสินค้าก่อนการตัดสินใจซื้อ เป็นสำคัญ ดังนั้น การที่ วาลโวลีน สามารถอยู่ในตลาดน้ำมันเครื่องเมืองไทยมาถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ วาลโวลีน
นอกจากนี้ ผมมองว่าการจัดโพรโมชัน ลด แลก แจก แถม มากเกินไป เป็นการตลาดที่ไม่สามารถสร้างการเติบโตแบบมั่นคงถาวรได้ หากแต่ควรสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงแบบ SUSTAINABLE GROWTH โดยเน้นการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคถึงคุณภาพของสินค้า การใช้งานที่ถูกต้อง และเหมาะสม
ฟอร์มูลา : บริษัท ฯ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด ?
เพิ่มศักดิ์ : จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง ประกอบกับยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ตกลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดน้ำมันเครื่องได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากยอดจำหน่ายน้ำมันเครื่องจะไปในทิศทางเดียวกับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง โดยปีนี้ อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงกว่าปีก่อนประมาณร้อยละ 6-7 เนื่องจากราคาน้ำมันถูกลง เมื่ออัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น อัตราการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ผู้บริโภคที่ชะลอการซื้อรถใหม่ อาจมีการยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องออกไป ดังนั้น จึงน่าจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ที่ช่วยยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องออกไป โดยไม่กระทบกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์
ฟอร์มูลา : วางเป้าหมายของ วาลโวลีน ไว้อย่างไร ?
เพิ่มศักดิ์ : อยากให้ วาลโวลีน เป็นบแรนด์น้ำมันเครื่องอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศไทย ซึ่งคาดว่าอีกไม่เกิน 1-2 ปี น่าจะเป็นได้ และอยากให้ผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง นึกถึงผลิตภัณฑ์ วาลโวลีน เป็นลำดับต้นๆ
ABOUT THE AUTHOR
น
นุสรา เงินเจริญ/นาทลดา ทองมาก formula@autinfo.co.th
นิตยสาร Formula ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2552
คอลัมน์ Online : พิเศษ