KIA SORENTO คือรถเอนกประสงค์จากแดนเกาหลีที่ดูพยายามฉีกภาพลักษณ์จากความสมบุกสมบันมาเป็นความหลากหลายในการใช้งานเพราะทางค่ายรถได้ระบุว่ารถยนต์คันนี้สมควรถูกจัดอยู่ในประเภท CUV หรือ Crossover Utility Vehicle ด้วยรูปทรงภายนอกที่เน้นความปราดเปรียวแลดูทันสมัยกว่าเดิม

KIA SORENTO คือรถเอนกประสงค์จากแดนเกาหลีที่ดูพยายามฉีกภาพลักษณ์จากความสมบุกสมบันมาเป็นความหลากหลายในการใช้งานเพราะทางค่ายรถได้ระบุว่ารถยนต์คันนี้สมควรถูกจัดอยู่ในประเภท CUV หรือ Crossover Utility Vehicle ด้วยรูปทรงภายนอกที่เน้นความปราดเปรียวแลดูทันสมัยกว่าเดิม ขนาดตัวถังนับว่าค่อนข้างใหญ่สำหรับชาวเอเซีย และจัดเป็นขนาดกลางในตลาดฝั่งอเมริกา ความยาวตั้งแต่หัวจรดท้าย 4.69เมตร ความกว้าง 1.89เมตร(ไม่รวมกระจกมองข้าง) ระยะฐานล้อ 2.70เมตร และด้วยความสูงถึง 1.71เมตร ส่งผลให้ภายในมีพื้นที่มากขึ้น โดยที่พื้นที่เหนือศีรษะคือ 90.6ซม. (เพิ่มขึ้น 6.4ซม.) และพื้นที่ในส่วนที่วางขา 79.5ซม. (เพิ่มขึ้น 10.2 ซม.) สมรรถนะในการบุกเส้นทางวิบากก็มีพอสมน้ำสมเนื้อกับมุมปะทะด้านหน้าสูงสุด 25.1 องศา และมุมจากที่ด้านหลัง 23.1 องศาด้วยกัน เครื่องยนต์มีทั้งหมด 4 รุ่น เริ่มต้นด้วยแบบเบนซินขนาด 2.4 ลิตร (2,349 ซีซี) DOHC 4 สูบ Dual CVVT ให้กำลัง 174 แรงม้า (ที่ 6,000 รอบ/นาที) แรงบิด 23.0 กก./ม. (ที่ 3,750 รอบ/นาที) ซึ่งเครื่องยนต์บล็อกนี้จะใช้ทำตลาดในทุกๆภูมิภาค รุ่นถัดมาเอาใจฝรั่งชาวตะวันตกที่เน้นสมรรถนะมากขึ้นด้วยเครื่องยนต์ขนาด 3.5ลิตร (3,470 ซีซี) 4วาวล์ วี6 พ่วงด้วยระบบ Dual CVVT ให้กำลัง 277แรงม้า(ที่ 6,300 รอบ/นาที) แรงบิด 34.2 กก./ม. (ที่ 5,000 รอบ/นาที) เครื่องยนต์บล็อกนี้จะไม่มีทำตลาดในเกาหลี ทว่าแม้จะไม่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่ชาวเกาหลีบ้านเกิดของ KIA จะมีเครื่องยนต์ที่ใช้ร่วมกันกับก๊าซธรรมชาติ LPG ซึ่งเน้นความประหยัดให้เลือกใช้แทน เป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.7 ลิตร (2,656 แรงม้า) 4วาวล์ วี6 Dual CVVT ให้กำลัง 165 แรงม้า (ที่ 6,300 รอบ/นาที) แรงบิด 24.9 กก./ม. (ที่ 4,000 รอบ/นาที) สุดท้ายคือเครื่องยนต์ดีเซลที่มีทำตลาดในทุกภูมิภาคยกเว้นอเมริกาที่ยังแบ่งรับแบ่งสู้กับเครื่องยนต์ดีเซล มีขนาด 2.2ลิตร (2,199 ซีซี) DOHC 4สูบ และเทอร์โบแปรผันVGT พละกำลัง 197แรงม้า (ที่ 3,800 รอบ/นาที) แรงบิด 44.4 กก./ม. (ที่ 1,800-2,500 รอบ/นาที) ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์ธรรมดา 6จังหวะและอัตโนมัติ 6จังหวะเช่นกัน สำหรับแบบหลังทาง KIA อ้างว่าเป็นเกียร์อัตโนมัติที่ใช้ Torque Converter ให้แรงบิดที่ต่อเนื่อง มีขนาดกระทัดรัดใช้ชิ้นส่วนน้อยลง และยังช่วยลดน้ำหนักของชุดเกียร์ดังกล่าวด้วย ในส่วนช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอสันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ ดิสค์เบรกสี่ล้อทำงานร่วมกับระบบHAC (Hill-Start Assist Control) ป้องกันการไถลไปด้านหลังของตัวรถยามออกตัวบนที่ลาดชัน และ DBC (Down-Hill Brake Control) ซึ่งจะเบรกตัวรถไว้ให้ความเร็วไม่เกิน 8 กม./ชม. ขณะเคลื่อนที่ลงทางลาดชันมากๆ และรักษาเสถียรภาพการทรงตัวด้วยระบบ ESC (Electronic Stability Control) นอกจากนี้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆก็มีมาให้เช่น ระบบวัดแรงดันลมยาง หรือ ระบบตรวจระยะห่างกับสิ่งกีดขวางทางด้านหลังยามถอยรถ