ผลทดสอบ
นักสำรวจปะทะนักผจญภัย โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์ 200 (TOYOTA LAND CRUISER 200) และ แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี 3 (LAND ROVER DISCOVERY 3) ตัวลุยระดับทอพจาก 2 มุมโลก ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล ที่ได้รับการพัฒนาตลอดเวลา จึงเป็นที่ยอมรับทั้งด้านสมรรถนะ ความหรูหรา สะดวกสบาย ของห้องโดยสาร
โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์ 200 (TOYOTA LAND CRUISER 200) และ แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี 3 (LAND ROVER DISCOVERY 3) ตัวลุยระดับทอพจาก 2 มุมโลก ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล ที่ได้รับการพัฒนาตลอดเวลา จึงเป็นที่ยอมรับทั้งด้านสมรรถนะ ความหรูหรา สะดวกสบาย ของห้องโดยสาร
ดิสคัฟเวอรี 3 เปิดตัวในปี 2548 ด้วยราคาจำหน่ายในออสเตรเลียประมาณ 1.4 ล้านบาท
ซึ่งสูงกว่ารุ่นเดิมไม่น้อย แต่ด้วยความประณีต คุณภาพ และเทคโนโลยีที่เหนือกว่า พร้อมระบบรองรับแบบถุงลม (AIR SUSPENSION) และเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล ใหม่ ก็สามารถชดเชยกับราคาที่เพิ่มขึ้นได้
ส่วน แลนด์ ครูเซอร์ 200 ราคาประมาณ 1.3 ล้านบาท ในรุ่นเบนซิน จีเอกซ์แอล (GXL) ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล วี 8 สูบ ราคาประมาณ 1.5 ล้านบาท
หากต้องการความหรูหรา สะดวกสบายเพิ่มขึ้นจากมาตรฐานที่มาจากแต่ละรุ่น ยังมีออพชันให้เลือกติดตั้งเพิ่มเติม ตั้งแต่เบาะนั่งด้านหน้า พร้อมระบบปรับเบาะไฟฟ้า ถ้าต้องการเบาะหนัง ดิสคัฟเวอรี 3 ก็มีรุ่น เอชเอสอี และ แลนด์ ครูเซอร์ 200 รุ่น วีเอกซ์
แลนด์ โรเวอร์ เป็นผู้นำเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อมาตั้งแต่อดีต และใน ดิสคัฟเวอรี 3 ที่เปิดตัวไปเมื่อ 3 ปีก่อน ก็ยังก้าวล้ำ ด้วยระบบปรับระดับความสูงอัตโนมัติแบบไขว้ (CROSS-LINKED) ระบบรองรับถุงลมอิสระ 4 ล้อ ระบบ เทอร์เรน เรสปอนส์ 4x4/ซัสเปนชัน โพรแกรมมิง ระบบดิฟฟ์ลอค ทั้งเซนเตอร์ดิฟฟ์ และดิฟฟ์ท้าย ซึ่งควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิค พร้อมกับระบบถ่ายทอดกำลัง 6 จังหวะ ทั้งยังมีการจัดวางอุปกรณ์ควบคุมภายในห้องโดยสารอย่างลงตัว ซึ่งเป็นแนวทางในการปรับห้องโดยสารให้กับ แลนด์ โรเวอร์ ในอนาคต
มาตรฐานสำหรับ ดิสคัฟเวอรี 3 รุ่น เอชเอสอี คือ เครื่องยนต์เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ดีเซล คอมมอนเรล 2.7 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า และแรงบิด 45.4 กก.-ม. โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18 ทั้ง 4 ล้อ รวมทั้งยางอะไหล่ ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พัฒนาขึ้นโดย ZF เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ 7 ที่นั่ง พร้อมระบบผ่อนแรงปรับด้วยไฟฟ้าเฉพาะเบาะคู่หน้า
ระบบปรับความสูงชุดรองรับอัตโนมัติ พร้อมระบบลดการโคลง ระบบทรานสเฟอร์ซูเพอร์ไฮ ระบบ เทอร์เรน เรสปอนส์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา พร้อมกับระบบควบคุมการทรงตัว และการยึดเกาะ ระบบให้ความร้อนด้านนอกกระจก ระบบช่วยจอดควบคุมระยะห่างด้านหลัง ระบบเครื่องเสียง และเอมพี 3 ของ HARMAN KARDON พร้อมลำโพง 8 ตัว ระบบแสงสว่างให้กับที่นั่งทั้ง 3 แถว รีโมทลอคประตูพร้อมระบบกันขโมย และอิมโมบิไลเซอร์ ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยเบาะหน้าปรับแรงตึงอัตโนมัติ แกนพวงมาลัยปรับได้ สวิทช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และระบบครูสคอนโทรล ติดตั้งบนพวงมาลัย ช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าในห้องเก็บสัมภาระ และอีก 2 ช่องในด้านหน้า ใบปัดน้ำฝนกระจกหน้าทำงานอัตโนมัติ และโคมไฟซีนอนในด้านหน้า
นอกจากนั้นยังมีออพชันให้เลือก คือ แผงหลังคาติดซันรูฟเปิดได้ 1 ช่อง และแบบติดตายอีก 2 ช่อง ไฟส่องมุมรถด้านหน้า ชุดลอคเฟืองขับหลังควบคุมด้วยอีเลคทรอนิค ระบบช่วยจอดควบคุมระยะห่างด้านหน้า รางหลังคา คอนโซลกลางพร้อมช่องทำความเย็น ชุดลายไม้ประดับภายใน ระบบนำทาง สีเมทัลลิค ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 13 ตัว และช่องเสียบหูฟังสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ส่วน โตโยตา ที่ยังใช้รูปทรงของรถลุยแนวอนุรักษนิยม เพียบพร้อมด้วยคุณภาพ และความทนทาน ทั้งยังมีเทคโนโลยีที่โดดเด่น บอดีของ แลนด์ ครูเซอร์ 200 วางบนแชสซีส์ของ โตโยตา ตุนดรา (TOYOTA TUNDRA) ที่วางขายในสหรัฐ ฯ โดยใช้ระบบรองรับส่วนหน้าร่วมกัน ส่วนแชสซีส์หลังสร้างขึ้นมาใหม่
แลนด์ ครูเซอร์ 200 ใช้คอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ โดยเป็นแบบอิสระ ปีกนกคู่ ในด้านหน้า และระบบคานแข็ง ในด้านหลัง พร้อมจุดยึด 5 ตำแหน่ง ระบบรองรับในด้านหน้าถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ โดยใช้ทอร์ชันบาร์ ส่วนในด้านหลังเป็นรูปแบบเดียวกันกับที่ใช้ใน ซีรีส์ 100
ภายในห้องโดยสารสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น ด้วยที่นั่งแบบ 3 แถว โดยแถวที่ 3 สามารถพับเก็บได้ และสามารถถอดออกได้ถ้าต้องการเนื้อที่เพิ่ม
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ อินเตอร์คูเลอร์ รหัส 1VD-FTV ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน ซีรีส์ 70 มีความจุเครื่องยนต์ 4.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า และแรงบิด 66.3 กก.-ม. ในช่วง 1,600-2,600 รตน. ระบบควบคุมการยึดเกาะได้พัฒนาขึ้นจาก ซีรีส์ 100 โดยใน ซีรีส์ 200 ได้รับการติดตั้งระบบเบรคป้องกันล้อลื่นไถลในทุกสภาพพื้นผิว พร้อมระบบกระจายแรงเบรคควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิค และระบบควบคุมแรงดันเบรคในภาวะฉุกเฉิน ระบบถ่วงเวลาเบรคเพื่อช่วยการออกรถบนทางลาดชัน นอกนั้นยังเพียบพร้อมด้วยระบบควบคุมการยึดเกาะ และการทรงตัว
อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น วีเอกซ์ มีให้อย่างเพียงพอด้วยล้ออลูมิเนียมอัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางดันลอพ กแรนด์ทเรค ขนาด 285/65 R17 บันไดข้าง มือเปิดประตู และโครงกระจกข้างสีเดียวกับตัวรถ แกนพวงมาลัยปรับได้ 2 จังหวะ ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน คอนโซลกลางขนาดใหญ่ เข็มขัดปรับแรงตึงอัตโนมัติสำหรับที่นั่งแถวหน้า และแถวที่ 2 ระบบเครื่องเสียง เอมพี 3 พร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ระบบเตือนกันลืมกุญแจรถ ไฟตัดหมอกหน้า ซันรูฟ เบาะหน้า และพวงมาลัยหุ้มหนังแท้ ชุดประดับลายไม้ ระบบผ่อนแรงปรับเบาะหน้า คอมพิวเตอร์คำนวณระยะทาง พร้อมปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย ไฟส่องแผนที่สำหรับที่นั่งแถวหลัง ถุงลมนิรภัยกันเข่าในที่นั่งแถวหน้า และด้านข้าง ในที่นั่งแถว 2 แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ไม่มีจุดจ่ายไฟในห้องเก็บสัมภาระ
ในรุ่น วีเอกซ์ มีระบบรองรับแบบ เคดีเอสเอส (KDSS: KINETIC DYNAMIC SUSPENSION SYSTEM) ซึ่งควบคุมการทำงานผ่านลูกสูบไฮดรอลิค ที่ยึดด้านซ้ายของเหล็กกันโคลงหน้า/หลังเข้ากับระบบรองรับ โดยการใช้งานในทางเรียบ ลูกสูบจะอยู่ในตำแหน่งลอค ปลายเหล็กกันโคลงจะถูกยึดเข้ากับระบบรองรับ เมื่อรถวิ่งเข้าโค้ง เหล็กกันโคลงจะทำหน้าที่ต้านการเอียงของตัวรถตามปกติ
ในเส้นทางทุรกันดาร ลูกสูบไฮดรอลิคจะปล่อยให้ระบบรองรับ และเหล็กกันโคลงเป็นอิสระ เมื่อล้อเคลื่อนตัว เหล็กกันโคลงที่เป็นอิสระ จะปล่อยให้ระบบรองรับเคลื่อนตัวได้จนสุดระยะ ทำให้ล้อสามารถเคลื่อนตัวตามสภาพพื้นผิวได้มากขึ้น
นอกจากนั้นยังมีออพชันเพิ่มสำหรับรุ่น วีเอกซ์ ด้วยระบบนำทางพร้อมกล้องช่วยถอยหลัง ซึ่งอาจไม่มีประโยชน์ในเส้นทางทุรกันดาร หากต้องการอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในระดับเดียวกันกับ ดิสคัฟเวอรี 3 จะต้องจ่ายเพิ่มอีกไม่น้อย สำหรับระบบนำทาง กล้องช่วยถอย และเครื่องเล่นดีวีดี
โคมไฟหน้าแบบหลอดซีนอนของ ดิสคัฟเวอรี 3 ซึ่งให้แสงสว่างเหนือกว่าหลอดฮาโลเจนของ แลนด์ ครูเซอร์ 200 และมีโคมไฟส่องมุม และระบบช่วยกะระยะหน้า/หลัง
ความสะดวกสบายเทียบเท่ากันทั้ง 2 คัน แต่บางคนไม่ชอบพนักพิงศีรษะของ ดิสคัฟเวอรี 3 ที่ไม่สามารถเอนศีรษะไปด้านหลังได้ สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 แทบกินกันไม่ลง แต่สำหรับเบาะแถวที่ 3 ของ ดิสคัฟเวอรี 3 กินขาดทั้งความกว้างขวาง และความสะดวกในการเข้า/ออก
การทดสอบการใช้งานกึ่งบรรทุกสัมภาระ ในการทดสอบเร่งแซงระดับความเร็ว 80-100 กม./ชม. เครื่องยนต์ดีเซล วี 8 สูบ น่าจะเหนือกว่าเครื่องยนต์ วี 6 สูบ ของ ดิสคัฟเวอรี 3 ที่มีขนาดเล็กกว่า ถึง 1 วินาที แต่ถ้าเทียบความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง และอัตราความสิ้นเปลือง ดิสคัฟเวอรี 3 มีพิสัยเดินทางมากกว่า แลนด์ ครูเซอร์ 200
ดิสคัฟเวอรี 3 ที่แม้จะมีพลังน้อยกว่า แต่ระบบรองรับอิสระ ทำให้เหนือกว่าบนทางเรียบ ส่วนบนทางลูกรัง และทางโคลน ซีรีส์ 200 พลิกกลับมาเหนือกว่า ซึ่งเป็นผลมาจากระบบรองรับอิสระ ในด้านหน้า และเพลาแข็ง ในด้านหลัง ในทางฝุ่น ทั้ง 2 คันสร้างความประทับใจได้พอๆ กัน ด้วยอาการหน้าดื้อโค้งที่ควบคุมง่ายกว่าอาการท้ายออก ระบบควบคุมการทรงตัวของทั้ง 2 คันสามารถรักษาตัวไม่ให้เสียหลัก ทั้งทางเรียบ และทางตรง
ในเส้นทางทุรกันดาร ระบบรองรับอิสระหลังของ ดิสคัฟเวอรี 3 ไม่สามารถเทียบกับระบบเพลาแข็งของ ซีรีส์ 200 ได้ โดยเฉพาะเวลาที่ล้อแขวนอยู่กลางอากาศ แต่ด้วยระบบควบคุมการยึดเกาะประสิทธิภาพสูงของ ดิสคัฟเวอรี 3 ที่ช่วยพาผ่านอุปสรรคไปได้ ส่วนระยะห่างใต้ท้องของทั้ง 2 คัน สามารถสร้างความพอใจได้ เว้นแต่ยางอะไหล่ของ ซีรีส์ 200 และปลายท่อไอเสียของ ดิสคัฟเวอรี 3 ที่กระแทกกับอุปสรรคในบางจังหวะ
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (HDC: HILL DESCENT CONTROL) ของ ซีรีส์ 200 เป็นแบบความเร็วคงที่ ในขณะที่ ดิสคัฟเวอรี 3 สามารถเลือกความเร็วได้ จึงให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า แต่อย่างไร ซีรีส์ 200 สามารถเอาตัวรอดไปได้ด้วยการใช้เครื่องยนต์เบรค
มุมเข้า และมุมจากของ ซีรีส์ 200 ยังเทียบกับ ดิสคัฟเวอรี 3 ไม่ได้ โดยเฉพาะกันชนพลาสติคขนาดใหญ่ในด้านหน้า ที่มักจะเบียดกับอุปสรรคจนเสียหายไปทุกคัน แต่สำหรับผู้ที่ใช้ ซีรีส์ 200 สามารถหาชุดแต่งเพิ่มทั้งบาร์หน้า และชุดคิทปรับระดับของระบบรองรับ เพื่อไม่เป็นการกีดขวางการปีนข้ามอุปสรรคอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเงินสักก้อนหนึ่ง เพื่อจัดหารถเอสยูวี ดีๆ สักคัน ทั้ง 2 คัน สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเกินพอ
ไม่ว่าจะเป็น ดิสคัฟเวอรี 3 ที่มีสมรรถนะโดดเด่นบนทางเรียบเหนือกว่า ซีรีส์ 200 นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์พื้นฐานที่มากเกินพอ ทำให้ ดิสคัฟเวอรี 3 ได้เปรียบในแง่ความคุ้มค่าของราคา
แต่ถ้าเป็นสาวกของ โตโยตา ก็ยังยิ้มออกด้วยราคาขายต่อที่สูงกว่า ประสิทธิภาพการลากจูงที่เหนือกว่า มีที่นั่งมากกว่า และมีตัวแทนจำหน่ายเยอะกว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลจากการทดสอบจริง เพื่อใช้ในการพิจารณาเลือกซื้อได้
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต 4wheels@autoinfo.co.th
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2551
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://www.autoinfo.co.th/archive/27002