พิเศษ
การขับรถ ATV ท่องเที่ยวผจญภัย ไปตามเส้นทางธรรมชาติ ในยุคสมัยนี้ เป็นกิจกรรมใหม่ที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่แสวงหาความท้าทาย ตื่นเต้น เร้าใจ ไม่แพ้กิจกรรมอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นการล่องแก่ง พายเรือคายัค และปีนหน้าผา และการโรยตัว เป็นต้น
การขับรถ ATV ท่องเที่ยวผจญภัย ไปตามเส้นทางธรรมชาติ ในยุคสมัยนี้ เป็นกิจกรรมใหม่ที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่แสวงหาความท้าทาย ตื่นเต้น เร้าใจ ไม่แพ้กิจกรรมอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นการล่องแก่ง พายเรือคายัค และปีนหน้าผา และการโรยตัว เป็นต้น
เพราะรถ ATV มีความมันที่คุณสัมผัสได้ ขณะขับขี่ในสนาม ซึ่งส่วนใหญ่มักจะดีไซจ์น และรูปลักษณ์ให้ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบตัว เป็นรถที่เหมาะจะขับเคลื่อนบนสภาพเส้นทางที่จัดอยู่ในประเภทกึ่งวิบาก หรือเส้นทางธรรมชาติที่ไม่ใช่ถนนคอนกรีทอย่างในเมือง และถ้ามีสิ่งกีดขวาง หรือมีอุปสรรคต่างๆ เช่น สะพานไม้ ทางลูกระนาด เส้นทางสูงชัน ถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ มีน้ำขังอยู่บ้างโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน จะยิ่งเพิ่มความยาก และความท้าทายในการขับขี่ นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการขับรถประเภทนี้
มารู้จักรถ ATV กันดีกว่า ?
หลายคนคงเคยได้ยินรถ ATV กันมาบ้างแล้ว แต่บางคนก็อาจจะยังไม่ทราบ ATV ย่อมาจกคำว่า ALL TERRAIN VEHICLE หมายถึง ยานยนต์ที่สามารถไปได้ทุกที่นั่นเอง ลักษณะเด่นของ ATV ที่เห็นได้ชัดๆ คือ มี 4 ล้อ (รุ่นเก่าๆ บางรุ่นมี 3 ล้อ) และมีแฮนด์ เป็นตัวบังคับทิศทาง ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องมอเตอร์ไซค์
จุดเด่น และข้อแตกต่างของ ATV คือ คันเร่งจะไม่ใช้แบบบิดที่ปลายแฮนด์ แต่จะเป็นแบบใช้นิ้วโป้งดัน ที่ใต้ปลอกแฮนด์ด้านขวามือ เพราะรถประเภทนี้ต้องใช้แรงในการเลี้ยวสูง ถ้าใช้คันเร่งแบบบิดปลอก อาจจะทำให้รถเสียการทรงตัว แต่ ATV ใช่จะเหมือนกันหมดทุกรุ่น แต่จะมีการแบ่งแยกประเภท ตามจุดประสงค์ลักษณะการใช้งานเอาไว้เหมือนกัน
ATV มี 3 ประเภท คือ
ประเภทแรก เป็นATV ที่เหมาะกับการขับขี่เล่น หรือ เด็กๆ ผู้ที่เริ่มต้น จะมีเครื่องยนต์ที่ไม่ใหญ่ขนาดประมาณ 80-125 ซีซี และเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ก็จะไม่สูงมากนัก
ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องยนต์ 2 และ 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ แรงม้าไม่มาก ระบบรองรับไม่ซับซ้อน ด้านหน้าเป็นแบบคานแข็ง คอยล์สปริงธรรมดาๆ หรือรุ่นที่ดีหน่อย
ก็อาจจะเป็นแบบอิสระ A-ARM มีเพียงแขนยึดด้านล่างเพียงแขนเดียว ซึ่งต่างกับระบบรองรับแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นทั่วไป ส่วนด้านหลัง จะเป็นแบบมาตรฐานของ ATV ทั่วไป คือ เป็นแบบสวิงอาร์ม คานแข็งระบบขับเคลื่อนก็มักจะเป็นโซ่เสียเป็นส่วนใหญ่ (ระบบเพลาก็มี) และยึดด้วยชอคอับ 1 ตัว รถ ATV ประเภทนี้ เน้นความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยไม่ต้องวุ่นวายในการเปลี่ยนเกียร์ให้ยุ่งยาก ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กๆ ที่เริ่มต้นมากทีเดียว
ประเภทที่สอง เป็น ATV ที่เน้นการใช้งานแบบสมบุกสมบัน เหมาะกับการใช้งานในไร่ หรือ ฟาร์ม สามารถนำไปบรรทุกของหนักๆ ได้ จะมีตะแกรงบรรทุกไว้ให้ และสามารถนำไปลุยป่า
ลุยโคลนแบบรถยนต์ 4WD ได้อีกด้วย สาเหตุที่ ATV ประเภทนี้สามารถลุย และบรรทุกของหนักๆ ได้นั้น มาจากเครื่องยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 4 จังหวะ สูบเดี่ยว ถ้าความจุสูงๆ (250 ซีซี ขึ้นไป) ที่เน้นแรงบิดสูงในรอบต่ำๆ ไม่เน้นความเร็วรอบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์มักเป็นแบบอัตโนมัติ หรืออาจจะเป็นเกียร์แบบอาศัยระบบคลัทช์แรงเหวี่ยง ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องมาพะวงกับการบีบคลัทช์ ระบบขับเคลื่อนก็มักจะเป็นแบบขับ 4 ล้อ ตลอดเวลา (FULL TIME 4WD)
ATV ประเภทนี้จะมีเกียร์พิเศษช่วยเพิ่มแรงบิด หรือ เกียร์สโลว์แบบรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งใช้เกียร์สโลว์นี้ จะมีอัตราทดที่สูงกว่าปกติ ช่วยเพิ่มแรงบิด ที่ส่งถ่ายมายังล้อได้มาก เพิ่มเรี่ยวแรงเวลาปีนป่าย และฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ สิ่งที่พิเศษอีกอย่าง คือ ระบบรองรับด้านหน้า จะเหมือน ATV ส่วนใหญ่ คือ เป็นแบบคานแข็ง แต่มีการให้ตัวของเพลาได้ (คล้ายเพลาขับเคลื่อนรถยนต์ ) คือ แขนยึดเพลาท้ายทั้ง 2 ข้างอิสระต่อกัน ทำให้ล้อหลังสามารถบิดตัวไปตามเส้นทางที่ต่างระดับ ซึ่งเป็นผลดีขณะลุย เพราะล้อจะสัมผัสกับพื้นผิวตลอดเวลา ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะติดขัดอยู่กับอุปสรรคต่างๆ แต่ก็จะมีข้อเสีย คือ เมื่อใช้ความเร็วสูง จะโคลงตัว แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสักเท่าไร เพราะรถประเภทนี้ไม่เน้นความเร็วสูงอยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีวินช์ หรือรอกไฟฟ้าแบบรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นของแต่งอีกต่างหาก
ประเภทที่สาม ATVประเภทนี้จะค่อนข้างเน้นความเร็ว จะมีตั้งแต่ระดับใช้งานปกติ จนถึงระดับแข่งขัน ซึ่งต้นตอของความเร็วดังกล่าว จะมาจากเครื่องยนต์ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 2 จังหวะ ความจุตั้งแต่ 200 ซีซี ขึ้นไป ระบายความร้อนด้วยอากาศ (ในรุ่นถูกๆ หน่อย) จนไปถึงระบายความร้อนด้วยน้ำ (รุ่นแพงๆ หรือตัวแข่งทั้งหลาย) ระบบคลัทช์ และเกียร์ก็จะเป็นแบบแมนวล หรือแบบคลัทช์มือ มีเกียร์ให้เล่นหลายๆ เกียร์ อัตราเร่งฉับไว รถแบบนี้นิยมขับเคลื่อนเพียงแค่ 2 ล้อหลัง ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง
บางค่าย เช่น POLARIS ATV สัญชาติอเมริกัน จะใช้รองรับแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนระบบรองรับหลัง มักจะเป็นแบบสวิงอาร์ม คานแข็ง ใช้ชอคอับเดี่ยว แต่ประสิทธิภาพสูง และมักใช้โซ่ขับเคลื่อน เพื่อกินแรงเครื่องยนต์ให้น้อยที่สุด ATV ประเภทนี้มักจะเอาไว้ขับขี่เพื่อความมันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยนิยมเอามาใช้งาน เพราะกินน้ำมัน
ATV เป็นรถที่มีหลายขนาด จึงเป็นกีฬา หรือจัดกิจกรรมกลางแจ้งที่เล่นได้ง่าย เหมาะแก่ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรี หรือแม้แต่เด็กโต ก็สามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมนี้ได้พร้อมกัน ถ้าจะเล่นเป็นครอบครัว หรือเล่นพร้อมกลุ่มเพื่อนๆ ก็ยิ่งเพิ่มความสนุกสนาน และสร้างสีสันได้เป็นอย่างดี
การเลือกสถานที่ ก็มีส่วนสำคัญ โดยมากแล้วรถประเภทนี้ จะมีบริการอยู่ตามรีสอร์ทต่างจังหวัด ซึ่งการจัดเส้นทางอาจจะทำได้ ถ้ามีพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเป็นป่าเขา ช่วงผิวดินอาจหายไปหลายส่วน เหลือแต่ก้อนหินใหญ่น้อยเรียงรายเป็นตะปุ่มตะป่ำ ถนนแบบนี้เองจะทำให้กระเด้งกระดอน รถจะเอียงไปตามสภาพ นั่นคือ ความสนุกสนานที่คุณสัมผัสได้ในรถประเภทนี้
ATV จะมีให้เช่าเป็นรายชั่วโมง เนื่องจากรถมีราคาค่อนข้างสูง จึงไม่ค่อยมีใครนิยมซื้อเก็บไว้ส่วนตัว ถ้าอยากเล่นก็เพียงแค่ติดต่อเข้าไปใช้บริการในรีสอร์ทที่ต้องการ
จะเริ่มต้นอย่างไรดี ?
การทำความรู้จักรถ ATV อย่างถูกวิธี ก็เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ควรเริ่มทำความเข้าใจ และเรียนรู้ถึงวิธีการขับขี่จาก INSTRUCTOR ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เพื่อรับทราบฟังค์ชันต่างๆ ของตัวรถ และปฏิบัติให้ถูกต้อง ใช้เวลาเรียนรู้ไม่กี่นาที ก็เข้าใจ ปกติแล้วจะมีสนามที่เป็นถนนพื้นเรียบให้ลองขับก่อน ซึ่งความจริงแล้วระบบของรถก็ไม่มีอะไรมากนัก ดูคล้ายๆ กับมอเตอร์ไซค์ผสมรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ที่มีเกียร์เดินหน้า คือ ตัว D ถอยหลัง คือ ตัว R หรือ N สำหรับไฟหน้ารถจะอยู่ทางซ้ายมือคนขับ เอาไว้ส่องทางเวลากลางคืน
อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้
-หน้ากาก
อุปกรณ์ชิ้นนี้มีประโยชน์มาก หน้าตาคล้ายๆ กับแว่นตาอันใหญ่ คาดใบหน้าด้วยสายยางยืดที่ด้านหลัง กระจกพลาสติคใสๆ สามารถใช้กันฝุ่น กันลม และกันแมลงที่อาจจะปลิวเข้าตาเราได้ในขณะขับขี่ โดยเฉพาะถ้าเข้าไปในเส้นทางป่าเขา มีแมลงต่างๆ มากมายที่จะปะทะในหน้า จึงควรสวมใส่เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน
-หมวกกันนอค
เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่ดีมากอย่างหนึ่ง เพราะบางครั้งอาจขับไปในเส้นทางที่แคบ และข้างทางเป็นแนวต้นไม้ก็จะทำให้เราปลอดภัยจากกิ่งไม้ที่อาจเกี่ยวเส้นผมและศีรษะ
ที่สำคัญเพื่อป้องกันการกระแทกของศีรษะที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ
-สวมเสื้อผ้าที่สบายๆ
แต่ไม่แนะนำให้ใส่เสื้อสีขาว เพราะด้านหลังอาจมีโคลน หรือดินกระเด็นขึ้นมาจากล้อหลัง ทำให้เปื้อนเสื้อผ้าได้ง่าย
-รองเท้าผ้าใบ
เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเล่นกิจกรรมผจญภัยทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณขับรถ ATV ลุยเข้าไปในเส้นทางป่าเขาอาจจะต้องมีการเดินบ้าง เพื่อความคล่องตัว ควรใส่รองเท้าผ้าใบจะสะดวกสบายที่สุด
จะขับรถ ATV ที่ไหนได้บ้าง ? เส้นทางการขับขี่รถ ATV ในเมืองไทย มีหลากหลายเส้นทางที่น่าสนใจ ถ้ามีสถานที่ เส้นทาง และโพรแกรมการขับ ATV ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยม อาทิ
CHA-AM ATV PARK
เป็นสนามให้เช่าขับขี่ ATV อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี มีสนามให้ขับขี่ถึง 3 สนาม ลักษณะแตกต่างกันให้เลือกระดับความยากง่ายและยังมีการจัดทริพนอกสถานที่ ตะลุยป่า ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สนใจติดต่อ ชะอำ เอทีวี พาร์ค ซ. บ่อแขม ต. ชะอำ อ. ชะอำ จ. เพชรบุรี 76120 โทร. 0-9206-9020 หรือ www.cha-amatvpark.com
PHUKET ATV ADVENTURE
สถานที่ที่คนรักความมัน และผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายไม่ควรพลาดกับการขับ ATV ตั้งอยู่ที่บริเวณ 5 แยกฉลอง ภายในสนามยิงปืนภูเก็ต ความสนุก และความมันอยู่ที่การออกแบบเส้นทางในการขับขี่ มีให้เลือกถึง 4 เส้นทาง สนใจติดต่อ โทร. (076) 248-956, 248-957, 0-1893-6238 หรือ www.phuketatv.com
เชียงใหม่แอดเวนเจอร์
บริการท่องเที่ยวแบบผจญภัยใน จ. เชียงใหม่ อาทิเช่น ท่องเที่ยวโดยรถ ATV ชมวิวทิวทัศน์ทะเลภูเขา ท่องป่าบ้านแม่ตะมาน ชมวิถีชาวบ้านชาวเขาเผ่าลีซอและอีก้อ ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นต้น สนใจติดต่อ บริษัท เชียงใหม่แอดเวนเจอร์ จำกัด โทร. 0-5341-8197-8, 0-5341-8534 หรือ www.chiangmaiadventure.co.th
บริษัทผู้จำหน่าย และกลุ่มชมรม ATV ในเมืองไทย
ชมรมสยามเอทีวีคลับ
กลุ่มนักท่องเที่ยวรถยนต์โฟร์วีล ดไรฟ ที่เปลี่ยนพาหนะในการท่องเที่ยวป่า และพูดคุยข่าวสารในวงการ เทคนิคการขับขี่ การซ่อมบำรุง และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กลุ่มสยามเอทีวีคลับจึงเป็นกลุ่มที่ริเริ่มการขับขี่ ATV ท่องเที่ยวเป็นกลุ่มแรกของเมืองไทย สนใจติดต่อได้ที่ www.siamoffroadclub.com
บริษัท ไอ แม็ค เอทีวี เซนเตอร์ จำกัด
เป็นบริษัทจัดจำหน่าย ATV ที่นำเข้าจากประเทศจีน และไต้หวัน ยี่ห้อ IMAC ATV เจ้าใหญ่ในประเทศไทย มีการจำหน่ายรถให้แก่ประชาชนทั่วไป แล้วยังสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยรถ
ATV ตามเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต สมุย สนใจติดต่อ โทร. 0-2322-8726-7 หรือ www.image-motors.com/www.imacatvcenter.com
บริษัท ซีล เอทีวี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท วอกซ์เทค จำกัด
ผู้จำหน่าย ATV ยี่ห้อ POLARIS จากประเทศสหรัฐอเมริกา และก่อตั้ง ชมรม เอทีวี แอดเวนเจอร์ กลุ่มผู้ใช้ ATVของ POLARIS ที่รักการท่องเที่ยว ไปในป่ากว้าง และรับปรึกษาการบำรุงรักษา ATV รวมทั้งจำหน่าย ATV POLARIS สนใจติดต่อ โทร. 0-2539-7490-2, 0-1869-2117 หรือ www.thaioffroader.net/www.zealpolaris.com
บริษัท ไคนอสเทค จำกัด
ผู้จำหน่าย รถ ATV ยี่ห้อ KAINOS สนใจติดต่อ โทร. 0-2939-4463-4 หรือ www.kainostech.com
บริษัท โมนิก้า มอเตอร์ จำกัด
ผู้จำหน่าย ATVยี่ห้อ LINKS สนใจติดต่อ โทร. 0-2379-4281-5 หรือ www.bgrimmgroup.com/www.monikamotors.com
บริษัท ซูเปอร์-วี เอทีวี จำกัด
ผู้จำหน่าย ATV ยี่ห้อ SUPER-V สนใจติดต่อ โทร. 0-2906-5070-1, 0-2704-4314
ยานยนต์ ATV เป็นที่นิยม และแพร่หลายมากในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงมีหน่วยงานจัดตั้งขึ้นมาเพื่อกำกับดูแล ชื่อว่า สถาบันความปลอดภัยรถ เอทีวี (ASI: ATV SAFETY
INSTITUTE) ซึ่งกำหนดมาตรฐานอายุของผู้ขับขี่ให้เหมาะสมกับขนาดเครื่องยนต์ ดังนี้
เครื่องยนต์ (ซีซี) อายุผู้ขับขี่
49 ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 70 ปี 6-11 ปี
มากกว่า 70 แต่ไม่เกิน 90 ปี 12-15 ปี
มากกว่า 90 ขึ้นไป 16 ขึ้นไป
*หมายเหตุ* สถาบัน ASI กำหนดให้ผู้ขับอายุ 6-15 ปี จะต้องมีผู้ปกครอง หรือผู้ใหญ่คอยดูแลตลอดเวลาขณะขับขี่
ข้อแนะนำเกี่ยวกับการขับขี่รถ ATV อย่างปลอดภัย
1. สวมหมวกกันนอค และเสื้อผ้าอย่างรัดกุม เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าบูธ หรือรองเท้าหุ้มส้น
2. อย่าขับขี่บนถนนหนทางทั่วไป เพราะยานยนต์ ATV ถูกออกแบบมาให้ใช้งานนอกถนน (4WD) เท่านั้น การขับขี่บนท้องถนนไม่ปลอดภัย เนื่องจากระบบช่วงล่างและยาง ไม่ได้ใช้กับถนนทั่วไป และอาจเกิดอันตราย หรืออุบัติเหตุขึ้นได้จากการเสียการทรงตัว และเฉี่ยวชนกับยวดยานอื่นๆ บนถนนได้
3. ATV ออกแบบมาสำหรับผู้ขับขี่เท่านั้น ห้ามบรรทุกผู้โดยสาร เพราะอาจทำให้บังคับควบคุมรถยาก และเกิดอุบัติเหตุได้
4. อย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือบริโภคยาที่อาจทำให้สมาธิในการขับขี่ลดลง ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งอุบัติเหตุร้ายแรงได้
5. ATV เป็นยานยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก ที่ต้องใช้การฝึกฝนเพื่อให้คุ้นเคย ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ อย่าขับขี่โลดโผน หรือโชว์อย่างหวาดเสียว (STUNT
RIDING) จนกว่าจะมีประสบการณ์ และความชำนาญสูงพอ
6. อย่าใช้ความเร็วสูงเกินไป ATV เป็นรถที่เน้นการใช้งานในสภาพพื้นที่ขรุขระ ทุรกันดาร หรือในไร่นา ทุ่งหญ้า ป่าเขา แม้ในรุ่นสปอร์ทที่ใช้แข่งขัน ก็ต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ความเร็วที่สูงเกินไป อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
7. ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษในสภาพพื้นที่ที่ "อันตราย" มากกว่าปกติ เช่น เนินชัน ทางที่เปียกลื่น มีหลุมบ่อ ดินโคลน สิ่งกีดขวางมาก เช่น ท่อนไม้ ก้อนหิน รากไม้ใหญ่ เป็นต้น
8. ขับขี่อย่างมีสำนึก รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว เคารพกฎ กติกา หรือระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ไม่ขับขี่ลุกล้ำไปในพื้นที่หวงห้าม ติดธงเพื่อให้ผู้อื่นสังเกตเห็นได้ง่าย
ABOUT THE AUTHOR
ถ
ถาวร
นิตยสาร 4wheels ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : พิเศษ