บนเส้นทางวิบาก ในสนามแข่งรถ หรือสนามทดสอบรถวิบาก มักจะเลี่ยงได้ยากกับการขับตัดข้ามเนินชัน หรือวิ่งเลียบทางลาดเอียง เส้นทางที่จะวิ่งไปนั้นก็ยากลำบากพออยู่แล้ว ยิ่งถ้ารถของคุณมีความสูงของทั้งตัวถัง และช่วงล่างมากเป็นพิเศษ ตัวถังรถของเราจะเอียงมาก จนทำให้ตัวเราที่นั่งขับอยู่ในรถนั้นยิ่งมีอาการตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้นไปอีก การขับไต่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างขาดหลัก และวิธีการ ขอห้ามโดยเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการที่รถจะขาดความสมดุล จนเป็นสาเหตุให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงมาได้

บนเส้นทางวิบาก ในสนามแข่งรถ หรือสนามทดสอบรถวิบาก มักจะเลี่ยงได้ยากกับการขับตัดข้ามเนินชัน หรือวิ่งเลียบทางลาดเอียง เส้นทางที่จะวิ่งไปนั้นก็ยากลำบากพออยู่แล้ว ยิ่งถ้ารถของคุณมีความสูงของทั้งตัวถัง และช่วงล่างมากเป็นพิเศษ ตัวถังรถของเราจะเอียงมาก จนทำให้ตัวเราที่นั่งขับอยู่ในรถนั้นยิ่งมีอาการตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้นไปอีก การขับไต่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างขาดหลัก และวิธีการ ขอห้ามโดยเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการที่รถจะขาดความสมดุล จนเป็นสาเหตุให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงมาได้ จับให้มั่น แล้วไต่ตะแคงไป บนทางที่กล่าวมาเมื่อเป็นทางลาดเอียงนั้น คุณต้องจับพวงมาลัยให้ตรง และวิ่งตะแคงไปตามทาง ทั้งนี้ต้องระวังกับภาพลวงตาที่ดูเหมือนว่าจะตกหุบเขาลงมา ระหว่างที่ขับไปบนทางอยู่นั้น ต้องระมัดระวังหลุมขนาดใหญ่ เพราะเมื่อยางรถตกลงไปในหลุม จะทำให้พวงมาลัยถูกเบี่ยงเบนทิศทาง จนเป็นเหตุให้คนขับสูญเสียการทรงตัว และการควบคุมรถไป นอกจากหลุมขนาดใหญ่แล้ว พร้อมกันนั้นคุณยังต้องระวังเนิน หรือโขดหินขนาดใหญ่ด้วย ถ้ารู้สึกว่ารถมีอาการลื่นไถลไปทางด้านข้าง ให้ค่อยๆ เบนพวงมาลัยเข้าหาทางฝั่งหุบเขา หรือทางด้านล่าง แต่ต้องพึงระมัดระวังการหักเลี้ยวพวงมาลัย และการควบคุมเบรค และคันเร่งที่ผิดจังหวะ เพราะจะเป็นเหตุให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงมาได้ เหตุผลที่แนะนำให้หักเบนด้านหน้ารถลงทางด้านล่างของเนินเขา หรือเบนพวงมาลัยเข้าหาทางฝั่งหุบเขานั้น ก็เพราะว่าเครื่องยนต์อยู่ทางด้านหน้า ทำให้ด้านหน้ารถหนักกว่าด้านท้ายรถ หากเบนหัวรถขึ้นทางด้านบนจะทำให้รถเสียสมดุล ให้ความรู้สีกกับคนขับเหมือนว่ารถจะตกลงไปทางด้านล่าง และพลิกคว่ำลงมา บนทางลาดเอียง วิ่งให้ดี เมื่อต้องวิ่งเข้าหาพื้นที่ๆ เป็นทางลาดเอียง ให้เหยียบคันเร่งจนได้ความเร็วเพียงพอ และวิ่งเอียงเข้าหาทางลาดเอียงนั้น หลังจากที่ไต่ขึ้นไปจนได้ระดับความสูงที่ต้องการแล้ว ให้วิ่งขนานไปกับพื้นทางราบนั้น ส่วนเวลาวิ่งลงจากเนินให้ค่อยๆ หักเบนพวงมาลัยช้าๆ แล้ววิ่งลงมาด้วยความเร็วคงที่ๆ เหมาะสม อย่าต้านแรงโน้มถ่วง ทางลาดเอียงขึ้น/ลง เนินเตี้ย ทางขรุขระ ร่องรูปตัววี เป็นสภาพที่พบเห็นได้บ่อยๆ บนทางวิบาก นอกจากนี้พื้นผิวทางยังมีทั้งแบบกรวด แบบหิน แบบทราย และโคลนตมอีก การบังคับควบคุมเบรคและคันเร่งเมื่อต้องวิ่งผ่านไปบนพื้นผิวทางที่แตกต่างกัน และก็ยังมีความแตกต่างตามไปด้วย นอกจากนี้ การเลือกไลน์ หรือการเลือกแนววิ่งยังเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องศึกษาไว้ก่อน การวิ่งตัดข้ามทางลาดเอียง อย่างบริเวณไหล่เขา หรือที่เรียกว่า แคมเบอร์ รันนิง (CAMBER RUNNING) นั้น มุมองศาของความลาดเอียงมันแตกต่างกัน เมื่อมองจากตำแหน่งคนขับจะทำให้ดูเหมือนว่ามันเอียงมากกว่าที่มองเห็นจากขอบทาง เป็นเหตุให้คนขับเกิดความรู้สึกกลัว ยิ่งรถที่ขับมีความสูงมากแล้ว ตัวรถจะเอียงมาก ทำให้ยิ่งเพิ่มความกลัวหนักขึ้นไปอีก คนขับส่วนใหญ่ที่ขาดประสบการณ์เมื่อเกิดความรู้สึกกลัวจะพยายามหักพวงมาลัยไปทางฝั่งเนินเขา ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เนื่องจากทางด้านหน้ารถขับเคลื่อนสี่ล้อนั้นจะเป็นส่วนของห้องเครื่องยนต์ที่มีเครื่องยนต์หนักมาก เมื่อคนขับหักพวงมาลัยไปทางฝั่งเนินเขาหรือหักพวงมาลัยขึ้นไปทางด้านบน จะเป็นการเอาน้ำหนักส่วนที่หนักมากของรถไปไว้ทางด้านบน ด้วยกฎของแรงโน้มถ่วงของโลกทำให้ตัวรถสูญเสียความสมดุลและเสี่ยงต่อการพลิกคว่ำลงมาของรถเป็นอย่างมาก แล้วถ้าเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมาขณะที่ขับอยู่จะทำอย่างไร ? ง่ายมาก เพียงแค่เบนพวงมาลัยไปทางฝั่งหุบเขา หรือทางด้านล่างของทางลาดเอียง แต่การหักพวงมาลัยและการควบคุมคันเร่งควรเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และนุ่มนวล หากกระทำอย่างรวดเร็วแล้วอาจเป็นสาเหตุให้รถเสียหลักพลิกคว่ำลงมาได้อย่างง่ายดาย การควบคุมคันเร่งควรเป็นไปในลักษณะควบคุมความเร็วให้คงที่เข้าไว้ ทั้งนี้การแก้ไขเหตุการณ์เช่นนี้รวมถึงเวลาที่ยางรถลื่นไถลไปทางด้านข้างก็ให้รับมือด้วยวิธีการเช่นเดียวกันนี้