ทดลองขับ(formula)
โตโยตา โคโรลลา อัลทิส ใหม่
หลังจาก โตโยตา โคโรลลา (TOYOTA COROLLA) เจเนอเรชันที่ 9 อยู่ในตลาดบ้านเรามานานกว่า 7 ปี ก็ถึงเวลาของ เจเนอเรชันที่ 10 หรือ โคโรลลา อัลทิส (COROLLA ALTIS) ใหม่กลับมาทวงตำแหน่งรถยนต์นั่งยอดนิยมจากคู่แข่ง โตโยตา โคโรลลา อัลทิส ใหม่ มีให้เลือกใช้ถึง 7 รุ่น ประกอบด้วย 1.6 เจ (1.6J) 1.6 อี (1.6E) ที่มีทั้งแบบเกียร์ธรรมดา/เกียร์อัตโนมัติ 1.6 จี (1.6G) เกียร์อัตโนมัติ 1.8 อี (1.8E) และรุ่นทอพ 1.8 จี (1.8G) ที่มีระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติหลังจาก โตโยตา โคโรลลา (TOYOTA COROLLA) เจเนอเรชันที่ 9 อยู่ในตลาด บ้านเรามานานกว่า 7 ปี ก็ถึงเวลาของ เจเนอเรชันที่ 10 หรือ โคโรลลา อัลทิส (COROLLA ALTIS) ใหม่ กลับมาทวงตำแหน่งรถยนต์นั่งยอดนิยมจากคู่แข่ง โตโยตา โคโรลลา อัลทิส ใหม่ มีให้เลือกใช้ถึง 7 รุ่น ประกอบด้วย 1.6 เจ (1.6J) 1.6 อี (1.6E) ที่มีทั้งแบบเกียร์ธรรมดา/เกียร์อัตโนมัติ 1.6 จี (1.6G) เกียร์อัตโนมัติ 1.8 อี (1.8E) และรุ่นทอพ 1.8 จี (1.8G) ที่มีระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ ภายนอก มิติใหม่ เส้นสายเฉี่ยว โคโรลลา อัลทิส ใหม่ มีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับ โซลูนา วีออส (SOLUNA VIOS) แต่มีขนาดตัว ใหญ่กว่า เสริมความหรูด้วยการผสมผสานจุดเด่นของ แคมรี (CAMRY) ไม่ว่าจะเป็นกันชน ฝากระโปรง และโลโก กระจังหน้าเจาะฝังในกันชน แบบไม่ใส่กรอบ และตัดเส้นโครเมียม เพิ่มความหรูในรุ่น 1.8 โคมไฟหน้า/ไฟท้าย ล้นออกมานอกเบ้า (อย่าง โตโยตา แคมรี/ฮอนดา แอคคอร์ด) รูปทรงแปลกตา สร้างความแตกต่าง และกระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวแบบ แอลอีดี ตามสมัย ภายใน เรียบๆ สบายตา คอนโซลหน้าต่อเชื่อมกับแผงประตูได้เรียบเนียน ส่วนมือจับ และที่วางแขนเว้าลึก และ ออกแบบมาอย่างกลมกลืน ดูสบายตา สีทูโทน ด้านบนเข้ม ด้านล่างอ่อน แผงคอนโซล ทรงโค้งคล้ายกับที่ใช้ใน เลกซัส ไอเอส (LEXUS IS) ตกแต่งด้วย สีซิลเวอร์ ทันสมัย ในรุ่น 1.6 และเพิ่มลายไม้ ในรุ่น 1.8 เรื่องความสะดวกสบาย โตโยตา นำเอาพวงมาลัยแบบปรับได้ 4 ทิศทาง สูง/ต่ำ ใกล้/ไกล ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้ามาใช้ โดยรุ่น 1.8 ติดตั้งสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง จอแสดงผล ไว้บนพวงมาลัย และเพิ่มระบบความควบคุมความเร็วอัตโนมัติ กับระบบปรับอากาศ อัตโนมัติ ในรุ่น 1.8 จี เครื่องเล่นซีดีแบบ 6 แผ่น สามารถเล่นไฟล์ เอมพี 3 พร้อมระบบปรับระดับเสียงตาม ความเร็ว จุดเด่นที่น่าสนใจของรถรุ่นนี้ อยู่ที่ระบบปรับอากาศ ซึ่งใช้ระยะเวลาทำ ความเย็นให้ลงมาอยู่ในระดับ 25 องศาเซลเซียส เพียงไม่ถึง 5 นาที เครื่องยนต์ รอบจัด ขับสนุกขึ้น โคโรลลา อัลทิส ใหม่ ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบเรียง ระบบวาล์วแปรผัน (VVT-I) ขนาด 1.6 และ 1.8 ลิตร และระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เช่นเดิม แต่เพิ่มฟังค์ชัน บวก/ลบ เข้าไปในรุ่น 1.8 ในรุ่น 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด 14.8 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. เมื่อไม่มีเพาเวอร์ไฮดรอลิคมาฉุดกำลัง ทำให้ได้กำลังมาใช้อย่างเต็มที่ แม้ไม่จัดจ้าน แต่ก็แรงพอตัว และในรุ่น 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 132 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด 17.3 กก.-ม. ที่ 4,200 รตน. ซึ่งมีกำลังน้อยกว่าเดิม 4 แรงม้า และแรงบิดใกล้เคียงรุ่นเดิม กลับให้ การตอบสนองดีกว่ารุ่นเดิม และสนุกขึ้นเมื่อใช้ฟังค์ชันบวก/ลบ ส่วนเรื่องความประหยัด ตัวเลขโดยเฉลี่ยสำหรับการเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ไปหัวหิน อยู่ที่ 10 กม./ลิตร (อ่าน จากจอแสดงผลภายในรถ) ระบบรองรับ คล่องตัว/ทรงตัวดีกว่าเดิม ช่วงล้อหน้า/หลัง ที่กว้างกว่าเดิม 50/75 มม. กับระบบรองรับหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม นุ่มนวล นั่งสบาย และมั่นใจกับระบบควบ คุมการทรงตัว VSC (VEHICLE STABILITY CONTROL) ช่วยป้องกันไม่ให้ลื่นไถล ออกนอกเส้นทาง ขณะเข้าโค้ง แต่ต้องปรับตัวให้คุ้นเคยกับระบบพวงมาลัยที่ใช้เพาเวอร์ แบบไฟฟ้า ซึ่งค่อนข้างเบาเสียก่อน ระบบ เอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรคอีเลคทรอนิคส์ และระบบช่วยเสริมแรงเบรค ที่ ติดตั้งมาให้ในรุ่น 1.6 อี/จี 1.8 อี/จี ช่วยให้การควบคุมรถแม่นยำ ขณะที่ต้องหยุดรถ กะทันหัน สรุป ไม่หล่อ แต่เร้าใจ ถ้าดูกันที่รูปร่าง หน้าตา บอกกันตรงๆ ว่า ไม่โดนใจ เหมือนเมื่อตอนเปิดตัวเจนเนอเรชันที่ 9 ห้องโดยสารเรียบง่าย เน้นความสะดวกสบาย ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าคู่แข่ง แต่ต้องชมเรื่อง การออกแบบที่ลงตัว เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เพียงพอแก่การใช้งาน กับฟังค์ชันบวก/ลบ ของเกียร์อัตโนมัติในรุ่น 1.8 ที่ตอบสนองความต้องการแบบสปอร์ท ส่วนเรื่องช่วงล่างก็ เหนือกว่ารุ่นเดิม เมื่อเทียบรุ่น 1.8 จี ราคา 969,000 บาท ที่ให้อุปกรณ์เพียบ กับรุ่น 1.6 อี เกียร์อัตโนมัติ ราคา 774,000 บาท ซึ่งมีมาให้พอเพียง รุ่นหลังน่าจะคุ้มค่ากว่า ข้อมูลจำเพาะ โตโยตา โคโรลลา อัลทิส 1.6 อี ผู้จัดจำหน่าย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โทร. 0-2305-2000 มิติและน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,540/1,760/1,465 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,530/1,535 ฐานล้อ (มม.) 2,600 น้ำหนัก (กก.) 1,225 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 55 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 1,598 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 79.0/81.5 อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 109/6,000 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 14.8/4,400 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 4 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง หลัง ทอร์ชันบีม คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง แบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 774,000 บาท
ภายนอก มิติใหม่ เส้นสายเฉี่ยว
โคโรลลา อัลทิส ใหม่ มีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับ โซลูนา วีออส (SOLUNA VIOS) แต่มีขนาดตัว ใหญ่กว่า เสริมความหรูด้วยการผสมผสานจุดเด่นของ แคมรี (CAMRY) ไม่ว่าจะเป็นกันชน ฝากระโปรง และโลโก
กระจังหน้าเจาะฝังในกันชน แบบไม่ใส่กรอบ และตัดเส้นโครเมียม เพิ่มความหรูในรุ่น 1.8 โคมไฟหน้า/ไฟท้าย ล้นออกมานอกเบ้า (อย่าง โตโยตา แคมรี/ฮอนดา แอคคอร์ด) รูปทรงแปลกตา สร้างความแตกต่าง และกระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวแบบ แอลอีดีตามสมัย
ภายใน เรียบๆ สบายตา
คอนโซลหน้าต่อเชื่อมกับแผงประตูได้เรียบเนียน ส่วนมือจับ และที่วางแขนเว้าลึก และออกแบบมาอย่างกลมกลืน ดูสบายตา สีทูโทน ด้านบนเข้ม ด้านล่างอ่อน แผงคอนโซลทรงโค้งคล้ายกับที่ใช้ใน เลกซัส ไอเอส (LEXUS IS) ตกแต่งด้วย สีซิลเวอร์ ทันสมัยในรุ่น 1.6 และเพิ่มลายไม้ ในรุ่น 1.8
เรื่องความสะดวกสบาย โตโยตา นำเอาพวงมาลัยแบบปรับได้ 4 ทิศทาง สูง/ต่ำ ใกล้/ไกล ผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้ามาใช้ โดยรุ่น 1.8 ติดตั้งสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง จอแสดงผลไว้บนพวงมาลัย และเพิ่มระบบความควบคุมความเร็วอัตโนมัติ กับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ในรุ่น 1.8 จี
เครื่องเล่นซีดีแบบ 6 แผ่น สามารถเล่นไฟล์ เอมพี 3 พร้อมระบบปรับระดับเสียงตามความเร็ว จุดเด่นที่น่าสนใจของรถรุ่นนี้ อยู่ที่ระบบปรับอากาศ ซึ่งใช้ระยะเวลาทำความเย็นให้ลงมาอยู่ในระดับ 25 องศาเซลเซียส เพียงไม่ถึง 5 นาที
เครื่องยนต์ รอบจัด ขับสนุกขึ้น
โคโรลลา อัลทิส ใหม่ ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบเรียง ระบบวาล์วแปรผัน (VVT-I) ขนาด 1.6 และ 1.8 ลิตร และระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เกียร์อัตโนมัติ 4จังหวะ เช่นเดิม แต่เพิ่มฟังค์ชัน บวก/ลบ เข้าไปในรุ่น 1.8
ในรุ่น 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด 14.8 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. เมื่อไม่มีเพาเวอร์ไฮดรอลิคมาฉุดกำลัง ทำให้ได้กำลังมาใช้อย่างเต็มที่
แม้ไม่จัดจ้าน แต่ก็แรงพอตัว
และในรุ่น 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 132 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิด 17.3 กก.-ม. ที่ 4,200 รตน. ซึ่งมีกำลังน้อยกว่าเดิม 4 แรงม้า และแรงบิดใกล้เคียงรุ่นเดิม กลับให้การตอบสนองดีกว่ารุ่นเดิม และสนุกขึ้นเมื่อใช้ฟังค์ชันบวก/ลบ ส่วนเรื่องความประหยัดตัวเลขโดยเฉลี่ยสำหรับการเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ไปหัวหิน อยู่ที่ 10 กม./ลิตร (อ่านจากจอแสดงผลภายในรถ)
ระบบรองรับ คล่องตัว/ทรงตัวดีกว่าเดิม
ช่วงล้อหน้า/หลัง ที่กว้างกว่าเดิม 50/75 มม. กับระบบรองรับหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม นุ่มนวล นั่งสบาย และมั่นใจกับระบบควบคุมการทรงตัว VSC (VEHICLE STABILITY CONTROL) ช่วยป้องกันไม่ให้ลื่นไถลออกนอกเส้นทาง ขณะเข้าโค้ง แต่ต้องปรับตัวให้คุ้นเคยกับระบบพวงมาลัยที่ใช้เพาเวอร์แบบไฟฟ้า ซึ่งค่อนข้างเบาเสียก่อน
ระบบ เอบีเอส ระบบกระจายแรงเบรคอีเลคทรอนิคส์ และระบบช่วยเสริมแรงเบรค ที่ติดตั้งมาให้ในรุ่น 1.6 อี/จี 1.8 อี/จี ช่วยให้การควบคุมรถแม่นยำ ขณะที่ต้องหยุดรถกะทันหัน
สรุป ไม่หล่อ แต่เร้าใจ
ถ้าดูกันที่รูปร่าง หน้าตา บอกกันตรงๆ ว่า ไม่โดนใจเหมือนเมื่อตอนเปิดตัวเจนเนอเรชันที่ 9 ห้องโดยสารเรียบง่าย เน้นความสะดวกสบาย ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าคู่แข่ง แต่ต้องชมเรื่องการออกแบบที่ลงตัว เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เพียงพอแก่การใช้งาน กับฟังค์ชันบวก/ลบ ของเกียร์อัตโนมัติในรุ่น 1.8 ที่ตอบสนองความต้องการแบบสปอร์ท ส่วนเรื่องช่วงล่างก็เหนือกว่ารุ่นเดิม
เมื่อเทียบรุ่น 1.8 จี ราคา 969,000 บาท ที่ให้อุปกรณ์เพียบ กับรุ่น 1.6 อี เกียร์อัตโนมัติราคา 774,000 บาท ซึ่งมีมาให้พอเพียง รุ่นหลังน่าจะคุ้มค่ากว่า