ทดลองขับ(formula)
ฮอนดา ฟรีด
ปโรตอน เอกโซรา (PROTON EXORA) เอมพีวี 7 ที่นั่ง สำหรับครอบครัวตัวใหญ่ น้องๆ มิตซูบิชิ สเปศแวกอน (MITSUBISHI SPACEWAGON) โตโยตา วิช (TOYOTA WISH) และเป็นคู่กัดกับ ฮอนดา ฟรีด (HONDA FREED) ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังเป็นรถใหม่ที่เปิดตัวปลายปีที่ผ่านมา เช่นกัน เราเป็น 1 ใน 20 คนไทยกลุ่มแรกที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานประกอบและทดลองขับ ปโรตอน เอกโซรา ถึงถิ่นกำเนิด ที่สนามทดสอบของปโรตอน ในประเทศมาเลเซียฟรีด (FREED) เอมพีวี 7 ที่นั่ง ขนาดเล็ก ดีไซจ์นเท่ ประตูสไลด์ ห้องโดยสารสูงโปร่ง ที่เน้นความประหยัด ด้วยเครื่องยนต์ ไอ-วีเทค 1.5 ลิตร 118 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ น้องใหม่ ที่ได้รับการยกระดับขึ้นไปเทียบรุ่นกับ โตโยตา วิช ฮอนดา จัดให้ทดลองขับ ฟรีด เป็นครั้งแรกหลังจากนำเข้ามาจำหน่าย โดยจำลองเหตุการณ์ ที่ครอบครัว (4 คน/1 คัน) เดินทางไปพักผ่อนชายทะเล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายนอก บิก แจซซ์ ประตูสไลด์ ตัวถังทรงสูงเบาะนั่ง 3 แถว แบบ เอมพีวี เหมือนกับรุ่น โมบิลีโอ (MOBILIO) ใช้โครงสร้าง พื้นฐานเดียวกับ แจซซ์ และ ซิที แต่ปรับยืดระยะฐานล้อ เพื่อให้รองรับกับขนาดของห้อง โดยสารที่กว้างขึ้น ต่างจาก แอร์เวฟ (AIRWAVE) ที่ยืดส่วนท้ายยาวแบบรถสเตชันแวกอน เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ ส่วนรูปร่างหน้าตานั้น เป็นการผสมผสานไฟหน้าแบบ แอคคอร์ด กับตัวรถรูปทรงแบบ แจซซ์ แต่ใช้ประตูสไลด์ ภายใน ประตูสไลด์เข้า/ออกสะดวก คอนโซลแยกเป็น 2 ชั้น ด้านบนติดตั้งมาตรวัด ช่องแอร์ และชุดเครื่องเสียง ด้านล่างกว้าง วางของได้สบาย มีทั้งพวงมาลัย คันเกียร์ และสวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศ ความอเนกประสงค์ที่ถือเป็นจุดขายของรถรุ่นนี้ ประกอบด้วย เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และประตูสไลด์เปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า (ยกเว้นรุ่น เอส) เบาะคู่หน้า และคู่กลาง ในแถว 2 ยกสูง และมีขนาดใหญ่นั่งสบายไม่เมื่อยล้าแม้ต้องเดินทางไกล รวมทั้งเบาะนั่งในแถวที่ 3 ซึ่งได้รับการออกแบบให้รองรับกับผู้โดยสารได้ถึง 3 คน แต่คนนั่งกลางไม่มีพนักพิงศีรษะ ในกรณีที่ต้องขนสัมภาระ เบาะแถวหลังสามารถพับยกขึ้นไปเก็บด้านข้างได้ หรือถ้ายังยาวไม่พอ ก็สอดเข้าบริเวณทางเดินระหว่างเบาะคู่กลางได้ ผู้โดยสาร และผู้ขับสามารถใช้ทางเดินภายในตัวรถ เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งนั่งได้โดยไม่ต้องลงจากรถ ประตูสไลด์เปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า (ยกเว้นรุ่น เอส) ช่วยให้การเข้า/ออกรถได้ แม้จอดรถเหลือพื้นที่ ด้านข้างตัวรถเพียง 1 ฟุต พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ที่สั่งงานได้ทั้งที่ตัวรีโมท และปุ่มใต้คอนโซล มือเปิดที่สูงจากพื้นเพียง 3 ฟุต เด็กเล็กก็เปิดได้ เครื่องยนต์ กำลังพอตัว อัตราสิ้นเปลืองรับได้ หลายคนแปลกใจพอได้รู้ว่า ฟรีด ใช้เครื่องยนต์ ไอ-วีเทค 1.5 ลิตร ตัวเดียวกับ แจซซ์ และ ซิที ใหม่ ซึ่งถูกมองว่าเล็กไป และคิดว่ากำลังคงไม่พอ รวมทั้งกินน้ำมันถ้าบรรทุกเต็มพิกัด แต่สำหรับคนที่เคยไปทดลองขับมาแล้วที่โรงงานประกอบ ในประเทศอินโดนีเซียอย่างผม ก็จะรู้ว่ากำลังสูงสุด 118 แรงม้าเพียงพอกับการใช้งาน และระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ก็ช่วยให้รอบเครื่องไม่สูงในความเร็วปลาย การเดินทางไปหัวหินครั้งนี้ ถือเป็นบทพิสูจน์ว่า ฟรีด ไม่เพียงเป็นรถใช้งานในเมือง แต่ยังสามารถใช้เดินทางเพื่อพักผ่อนในวันหยุดได้ อัตราเร่งเมื่อออกตัว แทบไม่ต่างจาก แจซซ์ สามารถเร่งแซง และทำความเร็วคงที่ 100 กม./ชม. ได้ด้วยรอบเครื่องยนต์ 2,000 รตน. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 12.6 กม./ลิตร (ตัวเลขจากมาตรวัด) ระบบรองรับ แข็งแกร่ง แน่น กระชับ แม้ว่าจะได้ขยายฐานล้อให้กว้างกว่า แจซซ์ แต่ด้วยรูปทรงที่สูง ขนาดยางที่มีหน้าสัมผัสเพียง 185 มม. และแก้มยางสูง (185/65 R15) เวลาใช้ความเร็วสูง หรือเปลี่ยนข่องทางกะทันหัน จะมีอาการโยนตัวและโคลงบ้าง ส่วนระบบความปลอดภัยมากันครบ โดยเฉพาะม่านถุงลมนิรภัยให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานในทุกรุ่นย่อย ส่วนระบบควบคุมการทรงตัว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ สรุป คันเดียว รับได้ทั้งครอบครัว ฟรีด ลงตัวกับรูปร่างที่กะทัดรัด หน้าตาทันสมัย ประตูสไลด์ 2 ด้าน ห้องโดยสารกว้าง อเนกประสงค์ เบาะ 7 ที่นั่ง และเครื่องยนต์ขนาดประหยัด แต่ราคาแพงกว่าน้องใหม่ ปโรตอน เอกโซรา อยู่ถึงแสนกว่าบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ซื้อต้องชั่งน้ำหนักความคุ้มค่ากันเอง ข้อมูลจำเพาะ ฮอนดา ฟรีด อี สปอร์ท เนวี ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2790-9000 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,215/1,700/1,735 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,478/1,466 ฐานล้อ (มม.) 2,740 น้ำหนักรถ (กก.) 1,300 ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 42 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ไอ-วีเทค ความจุ (ซีซี) 1,497 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 73.0/89.4 อัตราส่วนกำลังอัด 10.4:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 118/6,600 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 14.9/4,800 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 5 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง ทอร์ชันบีม พร้อมคานตัว H ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส และอีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง ดุม ราคา (บาท) 1,074,500
ภายนอก ใหญ่ สมเป็นเอมพีวี 7 ที่นั่ง
ปโรตอน เอกโซรา มีรูปร่างใกล้เคียงกับ มิตซูบิชิ สเปศแวกอน โดยสั้นกว่าเพียงคืบเศษ (236 มม.) แต่ขนาดล้อ 15 นิ้ว และยาง 195/65 R15 ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาจากโรงงานนั้นเล็กกว่า ล้อขนาด 16 นิ้ว และยาง 215/60 R16 ของ สเปศแวกอน พอสมควร
ส่วนเรื่องหน้าตา ปโรตอน เอกโซรา รับอิทธิพลของ เรอโนลต์ เน้นเส้นขอบล้อ ชายล่าง ฝากระโปรง และเหลี่ยมมุมบนกันชน เช่นเดียวกับ นิสสัน ทิอิดา
ภายใน อเนกประสงค์ เย็นสบาย
ปโรตอน เอกโซรา มีขนาดห้องโดยสารกว้างขวางไม่แพ้คู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน เบาะทั้ง 3 แถว จัดแบ่งเป็นที่นั่ง 2/3/2 ตามลำดับ โดยแต่ละแถวมีระยะห่างระหว่างเบาะกว้างพอสำหรับช่วงขาของผู้ใหญ่ที่มีส่วนสูง 170 ซม. นั่งได้สบายๆ แม้นั่งในแถวที่ 3
ปโรตอน เอกโซรา ทุกรุ่น ที่มีช่องแอร์เหนือศีรษะทั้งในที่นั่งแถว 2/3 ช่วยให้ผู้โดยสารเย็นสบายอย่างทั่วถึง และติดตั้งที่วางเครื่องดื่มถึง 10 จุด เบาะที่นั่งแถว 2 และ 3 สามารถปรับพับได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น ส่วนการเข้า/ออกจากที่นั่งในแถว 3 ทำได้สะดวก ด้วยการปรับพับพนักที่นั่งแถวที่ 2 ง่าย และประตูคู่หลังสามารถเปิดได้กว้างถึง 80 องศา การป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกทำได้ดี ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถสนทนากันได้ แม้จะใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม. แถมยังมีเครื่องเล่นดีวีดี ที่สามารถเชื่อมต่อบูลทูธ พร้อมจอติดเพดานขนาด 8.5 นิ้ว ไว้ให้ชมภาพยนตร์ ในรุ่น ไฮไลน์ (High Line)
เครื่องยนต์ 125 แรงม้า กำลังพอตัว
ปโรตอน เอกโซรา เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 4 สูบเรียง ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว ตัวเดียวกับเจน ทู (Gen2) และนีโอ (Neo) ในรุ่น ไฮไลน์ ที่มีการเพิ่มเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน "ซีพีเอส" (CPS: Cam Profile Switching) และท่อไอดีแปรผัน (Variable Intake Manifold technology) ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,500 รตน. และแรงบิด 15.1 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
การทดลองขับครั้งนี้มีเพียงรุ่นเกียร์อัตโนมัติให้ได้สัมผัส ผลออกมาดีเกินดาค เครื่องยนต์ 125 แรงม้าให้กำลังออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีพลังพอขับเคลื่อนรถที่มีน้ำหนักกว่า 1.4 ตัน และผู้ขับบวกผู้โดยสารอีก 4 คน ไปถึงความเร็ว 140 กม./ชม. ได้สบาย แม้จะอยู่ในสภาพสนามที่เปียกฝน
ระบบรองรับ แข็งแกร่ง แน่น กระชับ
สำหรับการควบคุมรถ ปโรตอน เอกโซรา อาศัยการผสานเทคโนโลยีและการพัฒนาช่วงล่างจากทีมวิศกรของโลทัส Lotus ประเทศอังกฤษ ทำให้รถทรงสูงคันนี้ ขับง่ายและมีการทรงตัวที่ดีในความเร็วสูง แม้ว่ายางขนาด 195/60 R15 ที่ติดรถมาจะไม่ใหญ่เท่าคู่แข่งอย่าง มิตซูบิชิ สเปศแวกอน และโตโยตา วิช แต่เรื่องการยึดเกาะถนนทำได้มั่นใจ
จากสภาพสนามทดสอบที่มีโค้งสูงชัน เราสามารถนำรถขึ้นไปสู่ช่วงบนของสนามได้อย่างสบาย ทั้งที่ความเร็วสูง 140 กม./ชม. และความเร็วปานกลาง 90 กม./ชม. โดยไม่เกิดอาการหน้าดื้อหรือท้ายปัด ส่วนอาการโคลงตัวเมื่อเปลี่ยนช่องทางกะทันหันก็มีให้เห็นน้อยมาก
สรุป คันเดียว รับได้ทั้งครอบครัว
ปโรตอน เอกโซรา มีห้องโดยสารกว้าง อเนกประสงค์ เบาะ 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ขนาดประหยัด และการประกอบที่ได้มาตรฐาน ซึ่งทำให้สู้กับ ซูซูกิ เอพีวี ฮอนดา ฟรีด รวมทั้ง โตโยตา วิช ได้สบาย
เมื่อคิดถึงราคาจำหน่าย 7-8 แสนบาท ต่ำกว่าคู่แข่งสำคัญอย่าง ฮอนดา ฟรีด อยู่เป็นแสนบาท ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่ามากขึ้น