ทดลองขับ
มาซดา บีที-50 ใหม่
4 WHEELS ได้เข้าร่วมกิจกรรม "DELIGHT THE FIRST TOUCH OF THE ALL NEW MAZDA BT-50 PRO PROTOTYPE PREVIEW & TEST DRIVE" เพื่อให้สัมผัสและพิสูจน์สมรรถนะของ มาซดา บีที-50 พโร (MAZDA BT-50 PRO) ฟรีสไตล์แคบ (FREESTYLE CAB) พิคอัพมีแคบเปิดได้ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ยกสูง ไฮ-เรเซอร์ (HI-RACER) เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และดับเบิลแคบ (DOUBLE CAB) พิคอัพ 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร 200 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4x4) ที่สนามทดสอบยางบริดจ์สโตน วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา4 WHEELS ได้เข้าร่วมกิจกรรม "DELIGHT THE FIRST TOUCH OF THE ALL NEW MAZDA BT-50 PRO PROTOTYPE PREVIEW & TEST DRIVE" เพื่อให้สัมผัสและพิสูจน์สมรรถนะของ มาซดา บีที-50 พโร (MAZDA BT-50 PRO) ฟรีสไตล์แคบ (FREESTYLE CAB) พิคอัพมีแคบเปิดได้ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ยกสูง ไฮ-เรเซอร์ (HI-RACER) เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และดับเบิลแคบ (DOUBLE CAB) พิคอัพ 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร 200 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4x4) ที่สนามทดสอบยางบริดจ์สโตน วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา ภายใต้แนวคิดที่จะสร้างพิคอัพให้มีหน้าตาคล้ายรถเก๋งมากที่สุด มาซดา ได้ถ่ายทอดออกมาผ่านเส้นสายเฉียบคม บนกระจังหน้า โคมไฟ และแนวกันชน ดูแข็งแกร่งด้วยมัดกล้าม ด้วยบังโคลนขนาดใหญ่ทั้งล้อหน้า/หลัง ซึ่งถือเป็นดีเอนเอของ มาซดา รวมถึงไฟท้ายเรียวยาว ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ มาซดา บีที-50 พโร ที่เราสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อได้เห็น ในห้องโดยสาร มีการเก็บเสียงที่โดดเด่น ติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงทั้งในประตู หลังคา และตัวถัง ช่วยลดความสั่นสะเทือน และอาการกระด้างของรถได้อย่างดี มาซดา บีที-50 พโร ยังสามารถควบคุมเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ ยาง และรถที่วิ่งบนถนนได้โดดเด่นมาก เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรคท์อินเจคชัน เทอร์โบแปรผัน ตัวใหม่ "DI-THUNDER PRO" ที่นำมาใช้กับ มาซดา บีที-50 พโร มีด้วยกัน 2 ขนาด คือ DI-THUNDER PRO 2.2 HIGH POWER แบบ 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ที่ 3,700 รตน. แรงบิด 38.2 กก.-ม. ที่ 1,500-2,500 รตน. มีขนาดและน้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์ MZR-CD ขนาด 2.5 ลิตร ใน บีที-50 รุ่นเดิม DI-THUNDER PRO 3.2 I5 แบบ 5 สูบ 20 วาล์ว ขนาด 3.2 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า ที่ 3,000 รตน. แรงบิด 47.9 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน. ระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ คันเกียร์สั้นกระชับจับถนัด ดูดีกว่ารถซีดาน ตำแหน่งเกียร์ชิด ขับสนุกใกล้เคียงรถสปอร์ท ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แม้ว่าจะดูเรียบง่าย แต่ก็มีลูกเล่น โหมดขับขี่ (SSC: SEQUENTIAL SHIFT CONTROL) 3 รูปแบบ คือ มาตรฐาน เรียกสมรรถนะ และเกียร์ธรรมดา ใช้ฟังค์ชันบวก/ลบ ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้ปุ่มหมุนเลือก 2H 4H และ 4L ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งมาให้ ซึ่งก็ใช้งานง่าย โดยไม่ต้องหยุดรถเพื่อเปลี่ยนจาก 2H ไป 4H เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 150 แรงม้า กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ใน มาซดา บีที-50 พโร ฟรีสไตล์แคบ ยกสูง ไฮ-เรเซอร์ ทำอัตราเร่งได้ดีเกินคาด 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาน้อยกว่า 14 วินาที ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร 200 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ในรุ่น ดับเบิลแคบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังเหลือๆ ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยใช้เวลาน้อยกว่า 12 วินาที (ตัวเลขจากนาฬิกาจับเวลา) ทั้ง 2 คัน สามารถทำความเร็วได้เกิน 150 กม./ชม. ในช่วงทางตรงของสนามอย่างสบาย ด้วยเกียร์ที่ 4 เท่านั้นเอง ช่วงล่าง มาซดา บีที-50 พโร ด้านหน้าเปลี่ยนเป็นคอยล์สปริงแทนทอร์ชันบาร์ ทำให้มีความแม่นยำ และทรงตัวดีขึ้น เหล็กกันโคลงหน้ายึดติดอยู่กับแกนด้านบนแทนการยึดที่แขนตัวล่าง ช่วยลดการโคลงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทดลองขับทั้งในแบบสลาลอม และหมุนรอบ การเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน มาซดา บีที-50 พโร มีอาการโยนตัวน้อย และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS: TRACTION CONTROL SYSTEM) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (DSC: DYNAMIC STABILITY CONTROL) ทำให้เราควบคุมรถขนาดใหญ่อย่าง มาซดา บีที-50 พโร ได้ง่าย แหนบหลังที่ยาวถึง 1,330 มม. และบุชยางทำหน้าที่รับแรงสั่นสะเทือนจากผิวถนนได้มาก เมื่อทดลองขับบนผิวถนนที่ไม่เรียบและมีลอน รวมทั้งลดเสียงจากการวิ่งผ่านรอยต่อของถนน เรื่องเบรค จานเบรคหน้าขนาด 16 มม. คาลิเพอร์แบบลูกสูบคู่ ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการเบรค เพียงแค่แตะก็รู้สึกได้ถึงการทำงานของระบบเบรค สามารถฉุดดึงตัวรถที่มีน้ำหนัก 2 ตันได้ในทันที มาซดา บีที-50 พโร เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร 200 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เป็นทางเลือกที่ไม่อาจมองข้ามได้เมื่อคิดจะซื้อพิคอัพสักคัน ฟันธง เครื่องเล็ก ทำได้อย่างน่าประทับใจ เครื่องใหญ่ แรงเหลือ เกียร์ธรรมดา กระชับสไตล์รถแข่ง เกียร์อัตโนมัติขับสบาย ข้อมูลจำเพาะ มาซดา บีที-50 พโร ดับเบิลแคบ 3.2 ผู้แทนจำหน่าย บริษัท มาซดา เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด� โทร. 0-2664-4800 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 5,359/1,850/1,815 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,560/1,560 ฐานล้อ (มม.) 3,220 น้ำหนัก (กก.) 2,200 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 80 เครื่องยนต์ แบบ ดีเซลเทอร์โบ 5 สูบ DOHC 20 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 3,198 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 89.9/100.7 อัตราส่วนกำลังอัด 15.7:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 200/3,000 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 47.9/1,750-2,500 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดไดเรคท์อินเจคชัน คอมมอนเรล ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 6 มีบวก/ลบ ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 บางเวลา ระบบรองรับ หน้า อิสระ ปีกนก คอยล์สปริง ชอคอับ หลัง แหนบแผ่นซ้อน ชอคอับ ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีเอสพี ทแรคชันคอนทโรล หน้า จาน พร้อมช่องระบายความร้อน หลัง ดุม
ภายนอก
ภายใต้แนวคิดที่จะสร้างพิคอัพให้มีหน้าตาคล้ายรถเก๋งมากที่สุด มาซดา ได้ถ่ายทอดออกมาผ่านเส้นสายเฉียบคม บนกระจังหน้า โคมไฟ และแนวกันชน ดูแข็งแกร่งด้วยมัดกล้าม ด้วยบังโคลนขนาดใหญ่ทั้งล้อหน้า/หลัง ซึ่งถือเป็นดีเอนเอของ มาซดา รวมถึงไฟท้ายเรียวยาว ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ มาซดา บีที-50 พโร ที่เราสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อได้เห็น
ภายใน
ในห้องโดยสาร มีการเก็บเสียงที่โดดเด่น ติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงทั้งในประตู หลังคา และตัวถัง ช่วยลดความสั่นสะเทือน และอาการกระด้างของรถได้อย่างดี มาซดา บีที-50 พโร ยังสามารถควบคุมเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ ยาง และรถที่วิ่งบนถนนได้โดดเด่นมาก
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรคท์อินเจคชัน เทอร์โบแปรผัน ตัวใหม่ "DI-THUNDER PRO" ที่นำมาใช้กับ มาซดา บีที-50 พโร มีด้วยกัน 2 ขนาด คือ DI-THUNDER PRO 2.2 HIGH POWER แบบ 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ที่ 3,700 รตน. แรงบิด 38.2 กก.-ม. ที่ 1,500-2,500 รตน. มีขนาดและน้ำหนักเบากว่าเครื่องยนต์ MZR-CD ขนาด 2.5 ลิตร ใน บีที-50 รุ่นเดิม
DI-THUNDER PRO 3.2 I5 แบบ 5 สูบ 20 วาล์ว ขนาด 3.2 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า ที่ 3,000 รตน. แรงบิด 47.9 กก.-ม. ที่ 1,750-2,500 รตน.
ระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ คันเกียร์สั้นกระชับจับถนัด ดูดีกว่ารถซีดาน ตำแหน่งเกียร์ชิด ขับสนุกใกล้เคียงรถสปอร์ท ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แม้ว่าจะดูเรียบง่าย แต่ก็มีลูกเล่น โหมดขับขี่ (SSC: SEQUENTIAL SHIFT CONTROL) 3 รูปแบบ คือ มาตรฐาน เรียกสมรรถนะ และเกียร์ธรรมดา ใช้ฟังค์ชันบวก/ลบ ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้ปุ่มหมุนเลือก 2H 4H และ 4L ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งมาให้ ซึ่งก็ใช้งานง่าย โดยไม่ต้องหยุดรถเพื่อเปลี่ยนจาก 2H ไป 4H
เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร 150 แรงม้า กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ใน มาซดา บีที-50 พโร ฟรีสไตล์แคบ ยกสูง ไฮ-เรเซอร์ ทำอัตราเร่งได้ดีเกินคาด 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาน้อยกว่า 14 วินาที ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร 200 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ในรุ่น ดับเบิลแคบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังเหลือๆ ทำได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยใช้เวลาน้อยกว่า 12 วินาที (ตัวเลขจากนาฬิกาจับเวลา) ทั้ง 2 คัน สามารถทำความเร็วได้เกิน 150 กม./ชม. ในช่วงทางตรงของสนามอย่างสบาย ด้วยเกียร์ที่ 4 เท่านั้นเอง
ระบบรองรับ
ช่วงล่าง มาซดา บีที-50 พโร ด้านหน้าเปลี่ยนเป็นคอยล์สปริงแทนทอร์ชันบาร์ ทำให้มีความแม่นยำ และทรงตัวดีขึ้น เหล็กกันโคลงหน้ายึดติดอยู่กับแกนด้านบนแทนการยึดที่แขนตัวล่าง ช่วยลดการโคลงตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทดลองขับทั้งในแบบสลาลอม และหมุนรอบ การเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน มาซดา บีที-50 พโร มีอาการโยนตัวน้อย และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS: TRACTION CONTROL SYSTEM) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (DSC: DYNAMIC STABILITY CONTROL) ทำให้เราควบคุมรถขนาดใหญ่อย่าง มาซดา บีที-50 พโร ได้ง่าย
แหนบหลังที่ยาวถึง 1,330 มม. และบุชยางทำหน้าที่รับแรงสั่นสะเทือนจากผิวถนนได้มาก เมื่อทดลองขับบนผิวถนนที่ไม่เรียบและมีลอน รวมทั้งลดเสียงจากการวิ่งผ่านรอยต่อของถนน
เรื่องเบรค จานเบรคหน้าขนาด 16 มม. คาลิเพอร์แบบลูกสูบคู่ ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการเบรค เพียงแค่แตะก็รู้สึกได้ถึงการทำงานของระบบเบรค สามารถฉุดดึงตัวรถที่มีน้ำหนัก 2 ตันได้ในทันที
มาซดา บีที-50 พโร เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร 200 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เป็นทางเลือกที่ไม่อาจมองข้ามได้เมื่อคิดจะซื้อพิคอัพสักคัน
ฟันธง
เครื่องเล็ก ทำได้อย่างน่าประทับใจ เครื่องใหญ่ แรงเหลือ เกียร์ธรรมดา กระชับสไตล์รถแข่ง เกียร์อัตโนมัติขับสบาย