การทดลองขับเพื่อพิสูจน์สมรรถนะ และการขับขี่บนทางไกลของรถเล็ก แต่มีดีเกินตัว SUZUKI CELERIO อัตราเร่งไม่อืด ระบบรองรับมั่นใจได้ กับราคาที่ไม่ต้องคิดมาก !
SUZUKI CELERIO (ซูซูกิ เซเลรีโอ) คือ อีโคคาร์ขนาดกะทัดรัด ตัวถังทรงแฮทช์แบค เรียบง่าย มีจุดเด่น คือ ตัวถังทรงสูง และระยะฐานล้อที่มากเกินคาด รุ่นเราทดลองขับ คือ ตัวทอพ GX (จีเอกซ์) จะได้ล้อแมกขนาด 14 นิ้ว (ยางขนาด 165/65 R14 ที่ความกว้างของหน้ายางดูน้อยไปหน่อย) กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ และพับด้วยไฟฟ้า กระจังหน้าโครเมียม โดยรวมแล้วเป็นแฮทช์ แบคขนาดเล็กที่มีความเรียบง่าย มีเส้นสายแนวสปอร์ทพอประมาณ ดูไม่ล้าสมัย แม้จะทำตลาดมาหลายปีแล้ว แต่ใครที่ต้องการเปลี่ยนล้อแมก และยางให้มีขนาดใหญ่กว่านี้ อาจต้องระวังเรื่องความกว้างของหน้ายาง เพราะซุ้มล้อมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด
การมีตัวถังทรงสูงของ CELERIO ช่วยให้ห้องโดยสารมีพื้นที่กว้างขวาง โดยเฉพาะพื้นที่เหนือศีรษะ ทั้งผู้โดยสารด้านหน้า และด้านหลัง เป็นจุดที่ทำให้การโดยสารใน อีโคคาร์ รุ่นนี้ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ทัศนวิสัยรอบคันทำได้น่าพอใจ ทีมงานของเรามีความสูง 170 ซม. พบว่ามีพื้นที่เหนือศีรษะจนถึงเพดานถึงประมาณ 3-4 กำปั้น ส่วนเบาะหลังยังคงได้สบาย จุดน่าชื่นชม คือ ตัวเบาะพับแยกได้แบบ 60:40 เพิ่มความหลากหลายของการใช้งานได้ดีมาก ระยะช่วงขายังมีเหลือพอสมควร (ถ้าผู้โดยสารด้านหน้า ไม่ถอยเบาะมามากเกินไป) พื้นที่เหนือศีรษะยังคงเหลือเฟือ แต่จุดสังเกต คือ ตัวเบาะไม่มีพนักพิงศีรษะแบบปรับความสูงมาให้ หากผู้โดยสารด้านหลังต้องการจะงีบหลับ ต้องขยับตำแหน่งการนั่งเล็กน้อย นอกจากเรื่องพื้นที่แล้ว อุปกรณ์ใช้งานต่างๆ ให้มาตาม รถยนต์รับราคา 3-4 แสนบาท ระบบเครื่องเสียงยังรองรับ CD และวิทยุ ยังน่าพอใจที่มีการรองรับช่องต่อ USB ได้ แต่ในยุคสมัยปัจจุบันที่หลายคนฟังเพลงผ่านแอพพลิเคชัน น่าจะมีการรองรับบลูทูธมาให้ด้วย ระบบปรับอากาศแบบธรรมดา แต่ให้ความเย็นทั่วถึง ปุ่มใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ซับซ้อนมาก ทำความเคยชินได้ง่ายดาย
เครื่องยนต์ของ CELERIO คือ เบนซิน 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 68 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแปรผัน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 20.0 กม./ลิตร ตามมาตรฐานอีโคคาร์ เฟส 1 แม้ตัวเลขของพละกำลังอาจไม่สูงมาก แต่ด้วยขนาดตัวที่กะทัดรัด ทำให้อัตราเร่งโดยรวม “ไม่อืด” แต่อย่างใด รองรับการใช้งานทั่วไปได้ดี การไต่ความเร็วค่อยเป็นค่อยไป ช่วง 100-110 กม./ชม. ทำได้ไม่ยากเย็น สามารถใช้งานบนทางไกลได้สบาย แต่ความเร็วมากกว่า 120-130 กม./ชม. อาจส่งผลต่อความมั่นคงของตัวรถเป็นธรรมดา ส่วนเกียร์อัตโนมัติแปรผันมีปุ่มของโหมดสปอร์ท บริเวณคันเกียร์ เป็นปุ่มสำหรับการเร่งแซงที่ทันใจขึ้น รอบเครื่องยนต์จะสูงขึ้นกว่าโหมดปกติ เมื่อลองกดคันเร่งสุด รอบเครื่องยนต์จะกวาดขึ้นสูง และอัตราเร่งจะตามมาในเวลาไม่นาน หลังจากนั้น การเร่งแซง หรือเพิ่มความเร็ว ต้องกะระยะเผื่อเอาไว้บ้างเป็นธรรมดา ส่วนการประหยัดเชื้อเพลิง ถือว่าน่าพอใจ เพราะเครื่องยนต์มีขนาดเล็ก แต่ไม่ควรใช้ความเร็วสูงเกินไปด้วย
ระบบรองรับของ SUZUKI CELERIO เน้นความนุ่มนวล แต่อาการโคลงของตัวรถถือว่าน้อยมาก มีความมั่นคงดีมาก ทั้งในช่วงใช้ความเร็วบนทางไกล และการเข้าโค้ง สามารถควบคุมทิศทางได้ดังใจ แต่ที่ความเร็วเกินกว่า 110 กม./ชม. เสียงลมในห้องโดยสารค่อนข้างมาก พร้อมกับเสียงของยาง เป็นการบ่งบอกว่าการเก็บเสียงในห้องโดยสารอาจมีข้อจำกัด แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว การขับขี่ให้ความมั่นใจได้ การขับทางไกล แบบแช่ความเร็วที่ 100 กม./ชม. ไปได้ไหลลื่น ไม่ต้องใช้การบังคับควบคุมมากนัก เท่านี้ก็ถือว่าดีพอแล้วสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก และยังรองรับการขับทางไกลได้ดีเช่นนี้ เหมาะไลฟ์สไตล์ของบ้านเราที่งานรถยนต์ทั้งในเมือง และการเดินทางไกล
จุดเด่นของ SUZUKI CELERIO ยังคงเป็นราคาที่ย่อมเยาที่สุดในหมู่อีโคคาร์ กับช่วงราคาที่ 3-4 แสนบาท (รุ่นทอพที่เราทดลองขับ คือ 437,000 บาท) เมื่อผนวกกับพโรโมชันต่างๆ ของทางค่าย จะมีการผ่อนค่างวดเริ่มต้นที่ 1,999 บาท เท่านั้น (กับรุ่นพื้นฐาน GA (จีเอ) อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าท่ามกลางสถานการณ์มากมายที่อาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อรถของหลายคน ทางเลือกรถยนต์มือหนึ่งยังมีความเป็นไปได้สำหรับ CELERIO ด้วยค่าตัวที่น่าสนใจ และการขับขี่ที่มั่นใจได้ รองรับการใช้งานได้หลากหลายอย่างไม่มีปัญหา
บทความแนะนำ คอลัมน์ ทดลองขับ(formula)