มาซดา 3

"ฟอร์มูลา" ทดลองขับ มาซดา 3 (MAZDA 3) เจเนอเรชัน 3 เทคโนโลยี SKYACTIV เวอร์ชันไทย ทั้งแบบ 4 ประตู ซีดาน ในรุ่น 2.0 เอส และ 5 ประตู แฮทช์แบค หรือ มาซดา 3 สปอร์ท รุ่น 2.0 เอสพี โดยใช้เส้นทางจากจังหวัดระนองไปสุราษฎร์ธานี ระยะทางกว่า 320 กม.

ภายนอก ซีดานเฉี่ยว แฮทช์แบคดุดัน

มาซดา 3 ใหม่ ไฟหน้าแบบพโรเจคเตอร์ ออกแบบรับกับแนวของกระจังทรง 5 เหลี่ยม ตัวถังแบน และกว้างกว่าเดิม หลังคาโค้งมน โป่งล้อใหญ่ เส้นสายด้านข้างพลิ้วไหวตามสไตล์ โคโดะ ดีไซจ์น (KODO DESIGN) กระจกมองข้างยึดติดกับบานประตูแบบรถสปอร์ท

มาซดา 3 ซีดาน โฉบเฉี่ยวด้วยกระจกหลังลาดเทรับกับแนวฝากระโปรงท้าย ส่วน 3 สปอร์ท รูปร่างคล้ายกับ ซีเอกซ์-5 (CX-5) เอสยูวีหุ่นอวบอ้วน แต่เพรียวบาง และมีส่วนโค้งเว้ามากกว่า เพิ่มความดุดันด้วยท่อไอเสียคู่ (แยกซ้าย/ขวา)

ภายใน สปอร์ทหรู จัดเต็ม

ห้องโดยสาร มาซดา 3 ใหม่ เน้นผู้ขับมาตรวัดรวมเป็นหนึ่ง วัดรอบเครื่องยนต์อยู่กลางแผงหน้าปัด และเอาตัวเลขความเร็วไว้ที่มุมล่างขวาของวงกลม ด้านซ้ายบอกตำแหน่งเกียร์และทริพมิเตอร์ ขวาเป็นอุณหภูมิ ระยะทางที่เหลือ และปริมาณน้ำมัน

ในรุ่น 2.0 เอส และ 2.0 เอสพี มาซดา ยังนำ ระบบแสดงข้อมูล บนกระจกหน้า (HEAD UP DISPLAY) เหนือมาตรวัดความเร็ว  เมื่อติดเครื่องยนต์ แผ่นจอพลาสติคใสขนาดเล็กจะยกตัวขึ้น เพื่อแสดงข้อมูลต่างๆ ทั้ง ความเร็วรถ สัญญาณไฟเลี้ยว หรือ ข้อมูลจากระบบนำทางผ่านดาวเทียม และสามารถปรับระดับการแสดงผลสูง/ต่ำได้ตามต้องการ เมื่อดับเครื่องยนต์ หน้าจอจะพับเก็บลงไปเอง

จอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว บนคอนโซลหน้า วางอยู่ตรงกลาง เหนือช่องแอร์คู่กลาง หน้าตาคล้ายจอของ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาสส์ ใหม่ และปุ่มควบคุมการทำงานคล้ายกับ ไอดไรฟ (IDRIVE) ของ บีเอมดับเบิลยู และมีระบบเอมเซดดี (MZD CONNECT) เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ และเล่นแอพพลิเคชันบนอินเตอร์เนท เช่น FACEBOOK AHA

เบาะนั่งคู่หน้าขนาดใหญ่มีปีกกระชับแบบสปอร์ท เบาะหลังเว้ารองรับส่วนหลังในตำแหน่งซ้าย/ขวา นั่งสบาย สามารถแยกพับพนักลงมาแบบ 60:40 โดยรุ่น 2.0 เอส ทั้งซีดาน และแฮทช์แบค บุด้วยหนังสีดำเดินด้ายสีแดง เช่นเดียวกับรุ่น 2.0 ซี ส่วน มาซดา 3 สปอร์ท รุ่น 2.0 เอสพี บุด้วยหนังสีครีมสลับดำ แต่ยังคงเดินด้ายสีแดง

เครื่องยนต์ แรงจัด ประหยัดกว่า

มาซดา 3 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร SKYACTIV-G รหัส PE-VPR แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว แบบฉีดตรง พร้อมระบบวาล์วแปรผันที่หัวแคมชาฟท์ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย (DUAL S-VT) กำลังสูงสุด 165 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 21.4 กก.-ม. ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมบวก/ลบ

แรงบิดที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตราเร่งกระฉับกระเฉงขึ้นกว่ารุ่นเดิมชัดเจน แรงดึงมีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอาการสะดุดจากการเปลี่ยนเกียร์ และตอบสนองความเร็ว 130-140 กม./ชม. ได้สบายๆ ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองผู้ผลิตแจ้งว่าประหยัดกว่าเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และดีกว่า 2.0 ลิตรเดิม 15 % หลังจากผ่านระยะทางกว่า 320 กม. ตัวเลขบนหน้าจออยู่ที่ 13.7 กม./ลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 86 กม./ชม.

มาซดา 3 ใหม่ แม้ไม่ติดตั้งระบบ I-STOP หรือ AUTO START/STOP เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง และลดมลพิษ เหมือนเวอร์ชันญี่ปุ่น แต่ก็สามารถเลือกเติมน้ำมัน อี 85 ที่มีราคาถูกได้

ระบบรองรับ ขับสบาย เกาะถนน

ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังเสริมด้วยเหล็กกันโคลง แน่น หนึบ แต่เบา และไม่แข็งกระด้าง ทั้งๆ ที่ใช้ล้อขนาดใหญ่ถึง 18 นิ้ว เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

พวงมาลัยเป็นแบบเพาเวอร์ไฟฟ้าช่วยผ่อนแรง เบาแรง แต่นิ่งเมื่อใช้ความเร็วสูง ระบบควบคุมเสถียรภาพ ทำงานร่วมกับจานเบรคทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบป้องกันล้อลอค และระบบกระจายแรงเบรค เบรคตอบสนองดี ลดความเร็วได้ฉับไว แต่นุ่มนวล

สรุป ซีดานลงตัว สปอร์ทมาครบ

มาซดา 3 ซีดาน โฉบเฉี่ยวลงตัวและหรูหรากว่ารุ่นก่อน ส่วน มาซดา 3 สปอร์ท 5 ประตู เน้นความดุดันด้วยท่อไอเสียแบบคู่ ภายในห้องโดยสารรุ่น 2.0 เอส ตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้ากับเบาะนั่งที่บุด้วยหนังสีดำเดินด้ายสีแดงดูสปอร์ท และเท่ด้วยระบบแสดงข้อมูล บนกระจกหน้าเหนือมาตรวัดความเร็ว

แต่ถ้าต้องการระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับมาจากด้านหลัง ม่านถุงลมนิรภัย และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ รวมทั้งเครื่องเล่นดีวีดี เนวี กับเบาะแพนดา (สีครีมสลับสีดำ) ก็ต้องเพิ่มเงินอีก 120,000 บาท ซื้อรุ่น 2.0 เอสพี ที่มีเฉพาะ มาซดา 3 สปอร์ท