ทดลองขับ
ฟอร์ด เอเวอเรสต์
ฟอร์ด ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านเหรียญสรอ. เพื่อพัฒนารถเอสยูวี ขนาดกลาง ภายใต้ชื่อ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ โดยมีฐานการผลิตในประเทศไทยและทีมวิศวกรเน้นการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้ขับขี่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแข็งแกร่ง โดดเด่น สมรรถนะเยี่ยม และพัฒนาระบบช่วงล่างใหม่ให้ความนุ่มนวลและยึดเกาะถนน ไม่แพ้คู่แข่งในระดับเดียวกัน หลังจากเปิดตัวรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ ฟอร์ด จึงได้จัดเส้นทางการทดสอบสำหรับสื่อมวลชนเพื่อให้รู้ถึงสมรรถนะที่แท้จริงโดยเลือกเอาเส้นทางจาก แม่สอด-กรุงเทพ ฯ ซึ่ง 4 WHEELS ได้ร่วมทดสอบในครั้งนี้ด้วย
ภายนอก โดดเด่น ด้วยหลังคาทรงสูง
รูปลักษณ์ภายนอกของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ พัฒนาขึ้นตามแนวคิดของเอสยูวีระดับหรู ทำให้มีรูปทรงสูง บึกบึน และ โอ่อ่า ไฟหน้าแบบมัลทิรีเฟลคเตอร์ขนาดใหญ่ รับกับกระจังหน้าแบบซี่ลายขวางแบบ 4 ช่อง ช่วยให้อากาศไหลผ่านได้ดี ด้านข้างมีกราบขนาดใหญ่ กันกระแทก สีทูโทนดีไซจ์นแกร่ง สไตล์อเมริกัน พร้อมไฟตัดหมอกเสริมความหรูหราด้วยมือจับและกระจกมองข้างแบบโครเมียม พร้อมแรคหลังคา บันไดข้างและล้ออัลลอยลายซี่ดูหรูหราขนาด 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/70/15
ท้ายรถดูทันสมัย ติดตั้งไฟท้ายทรงตั้งในแนวกระจก กันชนหลังออกแบบให้เป็นบันไดในตัวและติดตั้งสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรคและไฟถอยในกันชน เหมาะสมกับการใช้งานประตูท้ายรวมเป็นชิ้นเดียวกับชุดยางอะไหล่สามารถเปิดออกด้านข้างได้ง่าย เบาแรง ไม่มีเสียงรบกวน ในขั้นตอนเดียว
ภายใน โอ่โถง สะดวกสบาย
ห้องโดยสารออกแบบให้มีขนาดใหญ่ กว้างขวาง หลังคาทรงสูง และเบาะนั่งหนังแท้แบบ 3 ชุด 7 ที่นั่งรองรับครอบครัวใหญ่ เบาะแถวกลางเป็นแบบซินโครซีท (SYNCHRO-SEATS) พับเก็บ 2 จังหวะโดยการดึงคันโยกเพียงตำแหน่งเดียว แบ่ง 50/50 ช่วยให้เข้า/ออกที่นั่งห้องโดยสารด้านหลังสะดวกมากขึ้น
พวงมาลัย 4 ก้านแบบไม้สลับหนัง ปรับระดับสูง/ต่ำได้ หัวเกียร์ และเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ คอนโซลหน้าคอนโซลกลาง และแผงสวิทช์ข้างประตู ตกแต่งด้วยลายไม้สลับหนังรอบคันเสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้าและเข็มขัดนิรภัยทั้ง 7 ที่นั่ง
ระบบปรับอากาศเป็นแบบแยกส่วนหน้า/หลัง พร้อมสวิทช์ควบคุมแรงลม 3 จังหวะเหนือที่นั่งตอนกลาง และช่องลมเพดาน 2 ชุด ทั้งตอนกลางและตอนท้าย สามารถกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงรอบคัน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก มีให้ครบเทียบชั้นรถหรู ไม่ว่าจะเป็น ระบบเครื่องเสียงชั้นดีสามารถเล่นได้ทั้งซีดี และเอมพี 3 พร้อมเซนทรัลลอคที่ประตูทุกบาน และกระจกไฟฟ้าทั้ง 4 ประตู กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าที่วางแก้วน้ำครบทั้ง 7 ที่นั่ง ฝาท้ายเป็นแบบบานสวิงเปิด/ปิดได้ทั้งภายใน/นอก ขนสัมภาระเข้า/ออกได้ง่ายรับกับเบาะที่นั่งตอน 3 สามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้อย่างเต็มที่
เครื่องยนต์ พลังแรง ตอบสนองดี
เอเวอเรสต์ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล บลอค WLT แบบ 4 สูบ โอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 12 วาล์ว อินเตอร์คูเลอร์เทอร์โบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. กับแรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน.
ให้พลังแรง สมรรถนะดี ไม่เป็นรองคู่แข่งในระดับเดียวกัน
ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ทไทม์ (PART TIME) ควบคุมการทำงานของล้อหน้าด้วยระบบไฟฟ้า (RFW) ถ่ายทอดกำลังล้อหน้า/หลัง ให้เป็น 50:50ทำให้การควบคุมรถบนทางลื่นและปีนทางชันได้ง่ายขึ้น
ระบบรองรับ แน่นหนึบ เกาะถนนดี
ระบบกันสะเทือน พัฒนาใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนกคู่พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบแหนบซ้อน และชอคอับแกสหน้า/หลัง ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เฟืองท้ายจะเป็นลิมิเทดสลิพ พร้อมลุยครบสูตรทุกเส้นทาง ให้ความนุ่มนวลนั่งสบายและมีการทรงตัวดีในขณะเข้าโค้ง
ระบบเบรค ด้านหน้าแบบจาน พร้อมช่องระบายความร้อน ด้านหลังแบบดุมมีวาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรค LSPVและระบบเบรคเอบีเอส ป้องกันล้อลอค รวมถึงระบบกระจายแรงเบรค หรืออีบีดี
ด้านความปลอดภัย ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังมีให้ครบ ตั้งแต่โครงสร้างนิรภัย
คานเหล็กนิรภัยที่ประตูข้างช่วยดูดซับ และกระจายแรงกระแทกไปยังโครงสร้างส่วนต่างๆ ของตัวรถถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด สำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง ระบบลอคป้องกันเด็กเปิดประตูจากภายในและแผงป้องกันการกระแทกถังน้ำมัน
ทดลองขับ สัมผัสสมรรถนะ หลากหลาย
จากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในวันแรก เป็นการทดสอบสมรรถนะของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์บนทางธรรมชาติที่มีความทุรกันดาร บนพื้นที่ไร่ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอด หลังจากปรับระบบขับเคลื่อนมาเป็น 4H และ 4L จะพบว่าแรงบิดของเครื่องยนต์ดีเซล WLT ขนาด 2,500 ซีซี เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ที่เคยติดตั้งอยู่ในรถฟอร์ด พิคอัพ ทั้งขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ยังทำได้ดี ถึงแม้ว่าจะอยู่ใน เอเวอเรสต์ ที่มีการปรับปรุงพแลทฟอร์มและแซสซีส์จนทำให้มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยพลังของเครื่องยนต์ขนาด 121 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. ให้แรงบิดถึง 27.5 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน.สามารถขับเคลื่อน เอเวอเรสต์ เดินทางในเส้นทางทุรกันดารอย่างสบาย ทั้งขึ้นเนินและลงเนินชันและในถนนลูกรัง นอกจากนี้การเซทชอคอับและแหนบใหม่ให้เหมาะสมกับน้ำหนักรถยังทำได้ลงตัวเพราะลองขับด้วยความเร็วสูง/ต่ำ สลับกันบนพื้นที่ ในห้องโดยสารยังให้ความนุ่มนวลนั่งสบาย ไม่มีอาการกระด้างให้รู้สึกพวงมาลัยควบคุมง่ายน้ำหนักดี
สำหรับบนถนนดำ ในสภาพการใช้งานจริงได้ ทดลองขับและนั่งในเส้นทางจากอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก กลับสู่กรุงเทพ ฯ ระยะทางประมาณ 500 กม. ช่วงแรกเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติพระเจ้าตากสินมหาราชและเดินทางกลับสู่ถนนสายเอเชีย ระยะทางประมาณ 70 กม.เป็นช่วงที่สามารถทดสอบประสิทธิภาพของระบบรองรับได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีโค้งขึ้นเขาและลงเขาสลับกันค่อนข้างมาก จะเห็นถึงความนุ่มนวลและประสิทธิภาพของการเกาะถนนของรถที่ยังทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง ควบคุมพวงมาลัยง่ายอาการโยนตัวของรถเป็นธรรมชาติไม่มากจนเกินไปส่วนอัตราเร่งยังทำได้ดี ทางขึ้นเขาทำได้ต่อเนื่องไม่มีอาการกำลังตกและแผ่วลงไปให้เห็นมาก
บนถนนสายเอเชียระยะทางกว่า 400 กม. เดินทางกลับสู่กรุงเทพ ฯ เส้นทางเดินรถทางเดียวสามารถทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ และระบบรองรับที่ความเร็วสูงได้ ในช่วงนี้จะสลับกันนั่งดูบ้าง ที่นั่งผู้โดยสารเป็นเบาะหนังแท้ขนาดใหญ่นั่งสบาย ส่วนที่นั่งหลังสุดนั่งได้ถึง 2 คน ได้รับการออกแบบให้ขึ้น/ลงสะดวกระบบปรับอากาศที่ถูกติดตั้งไว้ บนหลังคา แยกส่วนหน้า/หลังให้อากาศเย็นสบายทั่วถึงทั้งคัน ขณะที่มีผู้โดยสารเกือบเต็มรถหลังคาที่ออกแบบเป็นทรงสูงทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด แม้ต้องเดินทางในระยะไกลระบบเก็บเสียงภายในรถทำได้ดีเมื่อเทียบกับเอสยูวีในระดับเดียวกัน
ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ อยู่ที่ 160 กม/ชม. เครื่องยนต์ที่มีเทอร์โบอินเตอร์คูเลอร์ช่วยให้อัตราเร่งต่อเนื่องและเร่งแซงได้ดีมาก
สรุป
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถเอสยูวีขนาด 7 ที่นั่ง ที่เหมาะสำหรับครอบครัว เป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้าที่กำลังแข่งขันประชันโฉมกันดุเดือดไม่แพ้รถเก๋งซีดาน ด้วยรูปลักษณ์และหน้าตาที่เน้นความแตกต่างอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ครบครัน โอ่อ่านั่งสบาย ฝีมือการประกอบเยี่ยม
สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,229,000 บาท และ ฟอร์ดยังมีแผนที่จะผลิตเอเวอเรสต์ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่รักความสะดวกสบายอีกด้วย