เมร์เซเดส-เบนซ์ เอเอมจี

ถ้ากล่าวถึงความแรงในแบบฉบับ เมร์เซเดส-เบนซ์ แล้วล่ะก็ "เอเอมจี" (AMG) ได้สร้างตำนานความแรง "สะใจ..." มานานกว่า 30 ปี เอเอมจี (AMG) มาจาก ฮันส์ เวร์เนร์ เอาฟเรคท์ (HANS WERNER AUFRECHT) กับ เอร์ฮาร์ด เมลเชร์ (ERHARD MELCHER) รวมกับชื่อเมือง กโรสส์อัสพัค (GROSSASPACH) ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของ เอาฟเรคท์ โดยเริ่มก่อตั้งในปี 1967 เพื่อการออกแบบและทดสอบเครื่องยนต์ความเร็วสูง ซึ่งผลงานชิ้นแรกที่ประสบความเร็จ คือ 300 เอสอีแอล ที่โมดิฟายจนได้เครื่องยนต์ขนาด 6.9 ลิตร ก่อนจะมาร่วมมือกับ ไดมเลร์-เบนซ์ สร้างรถแข่งที่ใช้ในรายการ เยอรมนี ทัวริงคาร์ แชมเพียนชิพ ตั้งแต่ปี 1988 เอเอมจี รวมกิจการกับ ไดมเลร์ ไครสเลอร์ เอจี และใช้ชื่อใหม่ว่า เมร์เซเดส-เอเอมจี (MERCEDES-AMG GMBH) รถรุ่นใหม่ที่มีพ่วงท้ายด้วย เอเอมจี จึงถูกบรรจุไว้ในขั้นตอนพัฒนาจนถึงกระบวนการผลิต แม้ว่าจะมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น แชสซีส์ เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ระบบกันสะเทือน ระบบเบรค ระบบอีเลคทรอนิค และชุดแอโรพาร์ท รวมทั้งการตกแต่งภายใน การได้ทดลองขับ เมร์เซเดส-เอเอมจี ทั้งแบบ ซีดาน และสปอร์ท ซึ่งประกอบ ซี 55 เอเอมจี (C 55 AMG) และ เอสแอล 55 เอเอมจี (SL 55 AMG) ซี 55 เอเอมจี ที่สุดของความแรงในระดับ ซี-คลาสส์ ซี-คลาสส์ เป็นรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ เอเอมจี เริ่มจากปี 1993 ซี 36 เอเอมจีและในปี 1997 ซี 43 เอเอมจี เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่มีรถแบบ เอสเตท ให้เลือกใช้ด้วย ต่อมาในปี 2001 เอเอมจี ใช้เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ซูเพอร์ชาร์จ 354 แรงม้า กับรุ่นซี 32 เอเอมจี ซึ่งแรง และเร็วที่สุดในรุ่น ซี-คลาสส์ อีกหนึ่งปีถัดมาก็มีเครื่องยนต์ดีเซลรุ่น ซี 30 ซีดีไอ เอเอมจี

ถ้ากล่าวถึงความแรงในแบบฉบับ เมร์เซเดส-เบนซ์ แล้วล่ะก็ "เอเอมจี" (AMG) ได้สร้างตำนานความแรง "สะใจ..." มานานกว่า 30 ปี เอเอมจี (AMG) มาจาก ฮันส์ เวร์เนร์ เอาฟเรคท์ (HANS WERNER AUFRECHT) กับ เอร์ฮาร์ด เมลเชร์ (ERHARD MELCHER) รวมกับชื่อเมือง กโรสส์อัสพัค (GROSSASPACH) ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของ เอาฟเรคท์ โดยเริ่มก่อตั้งในปี 1967 เพื่อการออกแบบและทดสอบเครื่องยนต์ความเร็วสูง ซึ่งผลงานชิ้นแรกที่ประสบความเร็จ คือ 300 เอสอีแอล ที่โมดิฟายจนได้เครื่องยนต์ขนาด 6.9 ลิตร ก่อนจะมาร่วมมือกับ ไดมเลร์-เบนซ์ สร้างรถแข่งที่ใช้ในรายการ เยอรมนี ทัวริงคาร์ แชมเพียนชิพ ตั้งแต่ปี 1988 เอเอมจี รวมกิจการกับ ไดมเลร์ ไครสเลอร์ เอจี และใช้ชื่อใหม่ว่า เมร์เซเดส-เอเอมจี (MERCEDES- AMG GMBH) รถรุ่นใหม่ที่มีพ่วงท้ายด้วย เอเอมจี จึงถูกบรรจุไว้ในขั้นตอนพัฒนาจนถึงกระบวนการผลิต แม้ว่าจะมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น แชสซีส์ เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ระบบกันสะเทือน ระบบเบรค ระบบอีเลคทรอนิค และชุดแอโรพาร์ท รวมทั้งการตกแต่งภายใน การได้ทดลองขับ เมร์เซเดส-เอเอมจี ทั้งแบบ ซีดาน และสปอร์ท ซึ่งประกอบ ซี 55 เอเอมจี (C 55 AMG) และ เอสแอล 55 เอเอมจี (SL 55 AMG) ซี 55 เอเอมจี ที่สุดของความแรงในระดับ ซี-คลาสส์ ซี-คลาสส์ เป็นรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ เอเอมจี เริ่มจากปี 1993 ซี 36 เอเอมจี และในปี 1997 ซี 43 เอเอมจี เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่มีรถแบบ เอสเตท ให้เลือกใช้ด้วย ต่อมาในปี 2001 เอเอมจี ใช้เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ซูเพอร์ชาร์จ 354 แรงม้า กับรุ่น ซี 32 เอเอมจี ซึ่งแรง และเร็วที่สุดในรุ่น ซี-คลาสส์ อีกหนึ่งปีถัดมาก็มีเครื่องยนต์ดีเซลรุ่น ซี 30 ซีดีไอ เอเอมจี ภายนอก คมเข้ม...ทรงพลัง การออกแบบภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาดดุ ดูทรงพลัง ลบภาพ ซีดานมาดนุ่มแบบเดิมๆ ล้อแมกและยางทั้งจากด้านหน้าของตัวรถ และการขยับขยายจาก 15-16 นิ้วไปใช้ยางแบบหน้ากว้าง และล้อแมกขอบ 18 นิ้ว น้ำหนักเบาแบบ 2 ก้านคู่ ที่เป็นสไตล์เฉพาะตัวของรถในรุ่น เอเอมจี ชุดแต่งขอบฝากระโปรงท้าย และใส่ท่อไอเสียแบบสปอร์ท พร้อมปลอกท่อไอเสียโครเมียมแบบท่อคู่ ภายใน แต่งดำ เท่แบบสปอร์ท เมื่อเปิดประตูรถก็พบความแตกต่าง โทนสีดำ ตกแต่งคอนโซลและแผงสวิทช์ ด้วยอลูมิเนียม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรถสปอร์ท เบาะนั่งแบบสปอร์ททรงกระชับ ปีกเบาะใหญ่ หุ้มด้วยหนังแท้ตรงกลาง ด้านข้างส่วนที่รองรับช่วงหัวไหล่เสริมด้วยผ้ากำมะหยี่ ถึงจะไม่ใหญ่โต แต่ก็นั่งสบายไม่อึดอัด พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันทรงสปอร์ท 3 ก้าน ที่มีปุ่มบวก/ลบตำแหน่งเกียร์แบบรถแข่ง จับถนัด และใช้งานง่าย มาตรวัดทรงกลม ตัวเลขสีขาวบนพื้นดำ มองเห็นชัดเจน ดูดีมีราคา เครื่องยนต์ 0-100 แค่ 5.2 วินาที เครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ความจุ 5.4 ลิตร 367 แรงม้า แรงบิด 52 กก.-ม. ของ ซี 55 เอเอมจี เหนือกว่า ซี 32 เอเอมจี รวมไปถึงคู่แข่งอื่นๆ ในระดับเดียวกันทั้งในด้านของแรงม้าและแรงบิด ขับสนุกไม่แพ้รถสปอร์ท ระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 5 จังหวะพร้อมระบบเอเอมจี-สปีดชิฟท์ (AMG-SPEEDSHIFT) ผู้ขับสามารถเลือกที่จะปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์โดยการใช้คันโยกที่คอนโซลกลางเหมือนเช่นในรถยนต์ ทั่วไปหรือจะเลือกใช้ปุ่มปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่พวงมาลัย ช่วยเค้นพลังออกมาได้เต็มที่ ทำให้ขับสนุกยิ่งขึ้น ส่วนสมรรถนะนั้น ให้ตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ คือ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 5.2 วินาที สุดทางตรงของสนามพีระ ฯ ถึง 170 กม./ชม ระบบรองรับ แน่น เกาะหนึบกว่าเดิม ระบบแชสซีส์แบบสปอร์ท สปริงแบบใหม่ ชอคอับ แบริงสำหรับระบบกันสะเทือนที่ล้อ ออกแบบให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งทำงานร่วมไปกับระบบพวงมาลัยและเพลาหน้าที่กว้างขึ้น 14 มม. ล้อแมก 18 นิ้ว และระบบเบรคของ เอเอมจี ที่นำมาใช้กับ ซี 55 เอเอมจี ทำให้ความนุ่มนวลแบบเดิมๆ หายไป แต่ได้ความแน่นกระชับ และการบังคับควบคุมรถได้อย่างแม่นยำมาแทน นับว่าคุ้มเพราะเลือกความแรงก็ต้องขับสนุกด้วย โพรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติของ ซี 55 เอเอมจี ซึ่งติดตั้งฟังค์ชันการควบคุมใหม่ ตอบสนองความต้องการเร็ว ระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ลอค-อัพ การปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ระบบเบรคอัตโนมัติตามความเร็วของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ ช่วยให้การควบคุมรถง่ายขึ้น แม้ว่าจะมีพละกำลังเครื่องยนต์ถึง 367 แรงม้า สรุป รถน่าสน แต่ค่าตัวสูง ราคาค่าตัวของ ซี 55 เอเอมจี อยู่ที่ 9,500,000 บาท หรือ 3 เท่าของ ซี 230 คอมเพรสเซอร์ อาจจะสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้รถทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่ชอบความแรงจากรถโรงงานแท้ๆ ที่ให้อัตราเร่งดีไม่แพ้รถสปอร์ท แถมยังต้องการรถซีดานไว้ใช้งานแบบครอบครัว น่าจะรับเอาไว้พิจารณา เอสแอล 55 เอเอมจี แรงจัดกว่าเดิมกับซูเพอร์ชาร์จใหม่ เอสแอล รถสปอร์ทที่ได้รับความนิยมของ เมร์เดสเบนซ์-เบนซ์ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ เอเอมจี ปรับแต่งจนได้ความแรงใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า และเพิ่มซูเพอร์ชาร์จเข้าไป ทำให้มีพละกำลังถึง 500 แรงม้า เทียบเท่าซูเพอร์คาร์พันธุ์ดุ ภายนอก คงเดิม แต่เสริมหล่อ ส่วนที่บ่งบอกถึงพละกำลังที่อัดแน่นอยู่ภายใน เอแอล 55 เอมเอมจี มีเพียง กันชนที่ปรับขนาดช่องรับลมให้ใหญ่ขึ้น เสริมมาดด้วยสเกิร์ทด้านข้าง ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาดใหญ่กว่าเดิมด้านหน้า 225/40/18 และด้านหลัง 245/35/18 และชุดท่อไอเสียแบบสปอร์ทพร้อมปลอกท่อไอเสียโครเมียม 2 คู่ ของเดิมก็สวยดุพอตัวอยู่แล้ว ชุดแต่งใหม่ที่เสริมเข้าไปจึงดูไม่โดดเด่น และแตกต่างกว่ารุ่น เอสแอล 500 สักเท่าไร เพียงแต่ได้ล้อเติมขึ้นเท่านั้น ภายใน สปอร์ทเข้มเต็มสูตร ห้องโดยสารตกแต่งด้วยอลูมิเนียมในสไตล์ใหม่ เบาะนั่งแบบสปอร์ท ออกแบบกระชับรับกับสรีระ มาตรวัดทรงกลมสีบรอนซ์ ตัวเลขและเข็มชี้ระดับเป็นสีแดง บ่งบอกถึงความเหนือชั้นของโรดสเตอร์คันแรง เบาะนั่งแบบเต็มตัวหุ้มด้วยหนังแท้ที่มีลักษณะเป็นรูพรุน ลวดลาย และหมอนรองตามยาวด้านข้างของพนักพิงหลัง ซึ่งต่างจากรุ่น เอสแอล 500 ความกระชับของเบาะนั่งใหม่ให้ผลดีในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เครื่องยนต์ ซูเพอร์ชาร์จ แรงกว่าเดิม เครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ขนาด 5.4 ลิตร ของ เอสแอล 55 เอเอมจี เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่ใช้ใน ซี 55 เอเอมจี แต่เพิ่มชุดซูเพอร์ชาร์จที่ใช้สายพานใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มแรงอัดของอากาศมากกว่าสายพานแบบเดิมถึง 30 % โดยสามารถหมุนมากกว่า 23,000 รตน. ทำให้รีดแรงม้าออกมาได้ถึง 500 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 71.4 กก.-ม. แต่ยังใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 จังหวะ สมรรถนะนั้น บอกได้คำเดียวว่า "มัน" แค่เสียงเครื่องยนต์ก็เร้าใจกว่า ซี 55 เอเอมจี แล้ว พอได้ขับก็ยิ่งสนุก อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ต่ำกว่า 5 วินาที และช่วงทางตรงถึง 200 กม./ชม. ระบบรองรับ ไฮเทค เน้นความปลอดภัย เอสแอล 55 เอเอมจี มีระบบต่างๆ ที่ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เอบีซี (ABC: ACTIVE BODY CONTROL SYSTEM) ที่ทำงานร่วมกับโพรแกรมควบคุมการทรงตัว ลดอาการลื่นไถลขณะเข้าโค้ง งานนี้รถที่มีกำลัง 500 แรงม้า จึงไม่ดิ้นหรือสะบัดจนต้องแก้ และควบคุมง่ายกว่าที่คิด การหยุดรถ เอเอมจี เขาทำการบ้านมาพอควร นอกจากจานเบรคคู่หน้า มีหน้าสัมผัสขนาด 220 ตร.ซม. ใหญ่กว่าที่ใช้กับ เอสแอล 500 ถึง 2 เท่าแล้ว ยังมีระบบอีเลคทรอไฮโดรลิคเบรค รุ่นใหม่ (NEW ELECTROHYDRAULIC BRAKE SYSTEM) ให้แรงดันน้ำมันสูง ทำงานร่วมกับ เอสบีซี (SBC: SENSOTRONIC BRAKE CONTROL) ซึ่งส่งแรงดันมารอในระบบ โดยเบรคจะทำงานทันทีที่เท้าแตะแป้นเบรค ช่วยให้เบรคได้เร็วและมีกำลังมากขึ้น ถึงจะไม่นุ่มนวลเหมือนเดิม แต่ก็มั่นใจ สรุป เงินมีเหลือ ก็น่าใช้ ราคาค่าตัว 17.5 ล้านบาท ของ เอแอล 55 เอเอมจี แพงกว่า เอสแอล 500 อยู่ 3.5 ล้านบาท ถ้ารักความแรงแบบมีมาตรฐานกับสมรรถนะแบบสปอร์ทซูเพอร์คาร์ ก็ทำให้น่าซื้อกว่ารถสปอร์ทโรดสเตอร์ทั่วไป การทดลองขับในครั้งนี้ถือเป็นการรวมสุดยอดความแรงของเครื่องยนต์ วี 8 สูบ 367 แรงม้าเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ซูเพอร์ชาร์จ 500 แรงม้า และเครื่องยนต์ วี 12 สูบ ไบ-เทอร์โบ 612 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 102 กก.-ม. แต่น่าเสียดายที่ ซีแอล 65 เอเอมจี (CL 65 AMG) 1 ใน 2 สุดยอดความแรงจาก เอเอมจี เกิดขัดข้อง ต้องจอดรออะไหล่ เพราะผ่านการทดสอบมาหนักจากสนามแข่งเซปัง ประเทศมาเลเซีย ข้อมูลจำเพาะ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 55 เอเอมจี เอสแอล 55 เอเอมจี ผู้แทนจำหน่าย บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2676-6222 มิติและน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,611/1,744/1,412 4,535/1,815/1,295 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,550/1,555 ฐานล้อ (มม.) 2,715 2,560 น้ำหนัก (กก.) 1,635 1,955 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 62 80 เครื่องยนต์ ชนิด วี 8 สูบ DOHC 32 วาล์ว วี 8 สูบ DOHC 32 วาล์ว ซูเพอร์ชาร์จ ความจุ (ซีซี) 5,439 5,439 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 87.0/100.0 อัตราส่วนกำลังอัด 9.5:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 367/5,750 500/6,100 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 52.0/4,000 71.4/2,750-4,000 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์อัตโนมัติ (จังหวะ) 5 5 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หลัง 2 หลัง ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง อิสระ เซมิทเรลิง อาร์ม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 9,500,000 17,500,000

ภายนอก คมเข้ม...ทรงพลัง

การออกแบบภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาดดุ ดูทรงพลัง ลบภาพ ซีดานมาดนุ่มแบบเดิมๆ

ล้อแมกและยางทั้งจากด้านหน้าของตัวรถ และการขยับขยายจาก 15-16 นิ้วไปใช้ยางแบบหน้ากว้างและล้อแมกขอบ 18 นิ้ว น้ำหนักเบาแบบ 2 ก้านคู่ ที่เป็นสไตล์เฉพาะตัวของรถในรุ่น เอเอมจี ชุดแต่งขอบฝากระโปรงท้าย และใส่ท่อไอเสียแบบสปอร์ท พร้อมปลอกท่อไอเสียโครเมียมแบบท่อคู่

ภายนอก คงเดิม แต่เสริมหล่อ

ส่วนที่บ่งบอกถึงพละกำลังที่อัดแน่นอยู่ภายใน เอแอล 55 เอมเอมจี มีเพียง กันชนที่ปรับขนาดช่องรับลมให้ใหญ่ขึ้น เสริมมาดด้วยสเกิร์ทด้านข้าง ล้อแมกขนาด 18 นิ้วพร้อมยางขนาดใหญ่กว่าเดิมด้านหน้า 225/40/18 และด้านหลัง 245/35/18 และชุดท่อไอเสียแบบสปอร์ทพร้อมปลอกท่อไอเสียโครเมียม 2 คู่

ของเดิมก็สวยดุพอตัวอยู่แล้ว ชุดแต่งใหม่ที่เสริมเข้าไปจึงดูไม่โดดเด่น และแตกต่างกว่ารุ่น เอสแอล 500 สักเท่าไร เพียงแต่ได้ล้อเติมขึ้นเท่านั้น

ภายใน แต่งดำ เท่แบบสปอร์ท

เมื่อเปิดประตูรถก็พบความแตกต่าง โทนสีดำ ตกแต่งคอนโซลและแผงสวิทช์ ด้วยอลูมิเนียม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในรถสปอร์ท

เบาะนั่งแบบสปอร์ททรงกระชับ ปีกเบาะใหญ่ หุ้มด้วยหนังแท้ตรงกลาง ด้านข้างส่วนที่รองรับช่วงหัวไหล่เสริมด้วยผ้ากำมะหยี่ ถึงจะไม่ใหญ่โต แต่ก็นั่งสบายไม่อึดอัด พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันทรงสปอร์ท 3 ก้าน ที่มีปุ่มบวก/ลบตำแหน่งเกียร์แบบรถแข่ง จับถนัดและใช้งานง่าย มาตรวัดทรงกลม ตัวเลขสีขาวบนพื้นดำ มองเห็นชัดเจน ดูดีมีราคา

ภายใน สปอร์ทเข้มเต็มสูตร

ห้องโดยสารตกแต่งด้วยอลูมิเนียมในสไตล์ใหม่ เบาะนั่งแบบสปอร์ท ออกแบบกระชับรับกับสรีระ มาตรวัดทรงกลมสีบรอนซ์ ตัวเลขและเข็มชี้ระดับเป็นสีแดง บ่งบอกถึงความเหนือชั้นของโรดสเตอร์คันแรง

เบาะนั่งแบบเต็มตัวหุ้มด้วยหนังแท้ที่มีลักษณะเป็นรูพรุน ลวดลาย และหมอนรองตามยาวด้านข้างของพนักพิงหลัง ซึ่งต่างจากรุ่น เอสแอล 500 ความกระชับของเบาะนั่งใหม่ให้ผลดีในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง

เครื่องยนต์ 0-100 แค่ 5.2 วินาที

เครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ความจุ 5.4 ลิตร 367 แรงม้า แรงบิด 52 กก.-ม. ของ ซี 55 เอเอมจี เหนือกว่า ซี 32 เอเอมจี รวมไปถึงคู่แข่งอื่นๆ ในระดับเดียวกันทั้งในด้านของแรงม้าและแรงบิด ขับสนุกไม่แพ้รถสปอร์ท

ระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 5 จังหวะพร้อมระบบเอเอมจี-สปีดชิฟท์ (AMG-SPEEDSHIFT) ผู้ขับสามารถเลือกที่จะปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์โดยการใช้คันโยกที่คอนโซลกลางเหมือนเช่นในรถยนต์ ทั่วไปหรือจะเลือกใช้ปุ่มปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่พวงมาลัย ช่วยเค้นพลังออกมาได้เต็มที่ ทำให้ขับสนุกยิ่งขึ้น

ส่วนสมรรถนะนั้น ให้ตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ คือ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 5.2 วินาที สุดทางตรงของสนามพีระ ฯ ถึง 170 กม./ชม

เครื่องยนต์ ซูเพอร์ชาร์จ แรงกว่าเดิม

เครื่องยนต์แบบ วี 8 สูบ ขนาด 5.4 ลิตร ของ เอสแอล 55 เอเอมจี เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่ใช้ใน ซี 55 เอเอมจี แต่เพิ่มชุดซูเพอร์ชาร์จที่ใช้สายพานใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มแรงอัดของอากาศมากกว่าสายพานแบบเดิมถึง 30 % โดยสามารถหมุนมากกว่า 23,000 รตน. ทำให้รีดแรงม้าออกมาได้ถึง 500 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 71.4 กก.-ม. แต่ยังใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 จังหวะ

สมรรถนะนั้น บอกได้คำเดียวว่า "มัน" แค่เสียงเครื่องยนต์ก็เร้าใจกว่า ซี 55 เอเอมจี แล้วพอได้ขับก็ยิ่งสนุก อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ต่ำกว่า 5 วินาที และช่วงทางตรงถึง 200 กม./ชม.

ระบบรองรับ แน่น เกาะหนึบกว่าเดิม

ระบบแชสซีส์แบบสปอร์ท สปริงแบบใหม่ ชอคอับ แบริงสำหรับระบบกันสะเทือนที่ล้อออกแบบให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งทำงานร่วมไปกับระบบพวงมาลัยและเพลาหน้าที่กว้างขึ้น 14 มม. ล้อแมก 18 นิ้ว และระบบเบรคของ เอเอมจี ที่นำมาใช้กับ ซี 55 เอเอมจี ทำให้ความนุ่มนวลแบบเดิมๆ หายไป แต่ได้ความแน่นกระชับ และการบังคับควบคุมรถได้อย่างแม่นยำมาแทน นับว่าคุ้มเพราะเลือกความแรงก็ต้องขับสนุกด้วย

โพรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติของ ซี 55 เอเอมจี ซึ่งติดตั้งฟังค์ชันการควบคุมใหม่ ตอบสนองความต้องการเร็ว ระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ลอค-อัพ การปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ระบบเบรคอัตโนมัติตามความเร็วของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ ช่วยให้การควบคุมรถง่ายขึ้น แม้ว่าจะมีพละกำลังเครื่องยนต์ถึง 367 แรงม้า

ระบบรองรับ ไฮเทค เน้นความปลอดภัย

เอสแอล 55 เอเอมจี มีระบบต่างๆ ที่ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เอบีซี (ABC: ACTIVE BODY CONTROL SYSTEM) ที่ทำงานร่วมกับโพรแกรมควบคุมการทรงตัว ลดอาการลื่นไถลขณะเข้าโค้ง งานนี้รถที่มีกำลัง 500 แรงม้า จึงไม่ดิ้นหรือสะบัดจนต้องแก้และควบคุมง่ายกว่าที่คิด

การหยุดรถ เอเอมจี เขาทำการบ้านมาพอควร นอกจากจานเบรคคู่หน้า มีหน้าสัมผัสขนาด 220 ตร.ซม.ใหญ่กว่าที่ใช้กับ เอสแอล 500 ถึง 2 เท่าแล้ว ยังมีระบบอีเลคทรอไฮโดรลิคเบรค รุ่นใหม่ (NEW ELECTROHYDRAULIC BRAKE SYSTEM) ให้แรงดันน้ำมันสูง ทำงานร่วมกับ เอสบีซี (SBC: SENSOTRONIC BRAKE CONTROL) ซึ่งส่งแรงดันมารอในระบบ โดยเบรคจะทำงานทันทีที่เท้าแตะแป้นเบรค ช่วยให้เบรคได้เร็วและมีกำลังมากขึ้น ถึงจะไม่นุ่มนวลเหมือนเดิม แต่ก็มั่นใจ

สรุป รถน่าสน แต่ค่าตัวสูง

ราคาค่าตัวของ ซี 55 เอเอมจี อยู่ที่ 9,500,000 บาท หรือ 3 เท่าของ ซี 230 คอมเพรสเซอร์ อาจจะสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้รถทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่ชอบความแรงจากรถโรงงานแท้ๆ ที่ให้อัตราเร่งดีไม่แพ้รถสปอร์ท แถมยังต้องการรถซีดานไว้ใช้งานแบบครอบครัว น่าจะรับเอาไว้พิจารณา

เอสแอล 55 เอเอมจี แรงจัดกว่าเดิมกับซูเพอร์ชาร์จใหม่

เอสแอล รถสปอร์ทที่ได้รับความนิยมของ เมร์เดสเบนซ์-เบนซ์ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ เอเอมจี
ปรับแต่งจนได้ความแรงใหม่ ด้วยเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า และเพิ่มซูเพอร์ชาร์จเข้าไป ทำให้มีพละกำลังถึง 500 แรงม้า เทียบเท่าซูเพอร์คาร์พันธุ์ดุ

สรุป เงินมีเหลือ ก็น่าใช้

ราคาค่าตัว 17.5 ล้านบาท ของ เอแอล 55 เอเอมจี แพงกว่า เอสแอล 500 อยู่ 3.5 ล้านบาท ถ้ารักความแรงแบบมีมาตรฐานกับสมรรถนะแบบสปอร์ทซูเพอร์คาร์ ก็ทำให้น่าซื้อกว่ารถสปอร์ทโรดสเตอร์ทั่วไป

การทดลองขับในครั้งนี้ถือเป็นการรวมสุดยอดความแรงของเครื่องยนต์ วี 8 สูบ 367 แรงม้าเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ซูเพอร์ชาร์จ 500 แรงม้า และเครื่องยนต์ วี 12 สูบ ไบ-เทอร์โบ 612 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 102 กก.-ม. แต่น่าเสียดายที่ ซีแอล 65 เอเอมจี (CL 65 AMG) 1 ใน 2 สุดยอดความแรงจาก เอเอมจี เกิดขัดข้อง ต้องจอดรออะไหล่ เพราะผ่านการทดสอบมาหนักจากสนามแข่งเซปัง ประเทศมาเลเซีย