Bloomburg รายงานว่า Volkswagen เตรียมงานผลิตรถไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคในประเทศจีน โดยตั้งเป้าผลิตรถไฟฟ้าในราคาไม่เกิน 20,000 ยูโร หรือราว 800,000 บาท ในปีหน้า เพื่อกดดัน Tesla ซึ่งผลิตรถไฟฟ้า โดยมีราคาเริ่มต้นราว 30,000 ยูโร ราว 1,200,000 บาทChristian Senger ผู้ดูแลแผนงานด้านรถไฟฟ้าของ Volkswagen ให้สัมภาษณ์ว่า ทางค่ายตั้งเป้าที่จะผลิตในช่วงแรกให้ได้ 15 ล้านคัน เพิ่มจากเดิม 50 % โดยภายในปี 2568 โดย Volkswagen จะลงทุนราว 9 พันล้านยูโร หรือราว 360 พันล้านบาท เพื่อวางตลาดรถไฟฟ้า ให้ได้ 20 รุ่น แม้ว่า Volkswagen จะมีปัญหาต้องจ่ายเงินชดเชยค่าปกปิดค่าไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซล สำหรับรถยนต์ราว 11 ล้านคัน แต่ทางค่ายก็มุ่งมั่นที่จะพัฒนาชุดแบทเตอรี และวางแผนที่จะตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 8 แห่ง ภายในปี 2565 Christian Senger ให้คำอธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า “ปัจจุบัน รถไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุด” เขากล่าว “การใช้งานภายในเมือง จะสามารถกระทำได้ แต่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ในการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีบริการชาร์จไฟฟ้า ในแหล่งที่จำเป็น” Volkswagen ใช้วิธีการส่งรถไฟฟ้าให้กับคู่ค้า ทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วน และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้นำไปใช้งาน รวมทั้งจัดหาชุดชาร์จไฟฟ้า สำหรับติดตั้งทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน เป็นการบังคับให้ใช้งานกลายๆ ขณะเดียวกัน ในทวีปยุโรป Volkswagen ก็เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันลงทุนติดตั้งสถานีบริการชาร์จแบทเตอรี 400 จุด บนทางหลวงพิเศษ และเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน ผู้ผลิตจากเยอรมนี วางแผนที่จะได้เครดิทจากการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และไม่สร้างแกสคาร์บอน ไดออกไซด์ ราว 1 ล้านคัน/ปี จากการผลิตรถไฟฟ้า รวมทั้งจะก่อสร้างโรงงานเพื่อการผลิตรถไฟฟ้า I.D. ที่เมือง Zwickau รวมทั้งการผลิตชุดแบทเตอรี โดยจะเป็นผู้ลงทุนเพื่อให้สภาพอากาศที่ออกจากโรงงาน เป็นอากาศที่บริสุทธิ์ Volkswagen แสดงความยินดีกับข่าวที่ผู้ผลิตในเยอรมนีจะเลิกการใช้ถ่านหินเป็นพลังงานในการผลิต อันเป็นสาเหตุให้เกิดมลภาวะในอากาศ