ทดลองขับ 21 May 2022

MITSUBISHI XPANDER

ตอบทุกโจทย์ของครอบครัวนักเดินทางได้อย่างดี ไม่ว่าจะบรรทุกสัมภาระ หรือบรรทุกผู้โดยสาร สามารถทำได้แบบสบายๆ

ภายนอก

MITSUBISHI XPANDER (มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์) ใหม่ ไม่ใช่เฉพาะแค่เพียงปรับเปลี่ยนดีไซจ์นภายนอกใหม่ให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีการปรับปรุงภายใน พร้อมติดตั้ง และเพิ่มเทคโนโลยีระบบอำนวยความสะดวก

หน้าตาแบบ ADVANCED DYNAMIC SHIELD กระจังหน้าขนาดใหญ่ มีจุดเด่นตรงที่ดวงไฟหน้าขนาดใหญ่รูปตัว T ในกันชนหน้า พร้อมไฟตัดหมอก กันชนท้าย และแผ่นกันกระแทกแบบใหม่ 3 มิติ ไฟท้ายขนาดใหญ่รูปตัว T สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED โดย MITSUBISHI XPANDER ใหม่ ยังคงมีให้ 2 รุ่น คือ รุ่น GLS-LTD กับรุ่นทอพ GT

รุ่นมาตรฐาน GLS-LTD แผงกันกระแทกด้านหน้า และด้านหลัง, คิ้วด้านข้าง, คิ้วขอบกระจกประตูเป็นสีดำ ส่วนมือเปิดประตู เป็นสีเดียวกับตัวรถ และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/65 R16 ส่วนรุ่นทอพ คือ รุ่น GT มีความแตกต่างภายนอก ตั้งแต่แผงกันกระแทกด้านหน้า และด้านหลัง, คิ้วด้านข้าง เป็นสีเงิน ส่วนคิ้วขอบกระจกประตู, มือเปิดประตู เป็นวัสดุโครเมียม และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีทูโทน มาพร้อมยางขนาด 205/55 R17

มิติตัวรถ กว้าง/ยาว/สูง 4,595/1,750/1,750 มม. (รุ่น GLS-LTD 1,730 มม.) ยาวขึ้น 120 มม. และระยะห่างใต้ท้องรถสูงถึง 220 มม. เพิ่มขึ้น 15 มม.

ภายใน

ไม่ใช่เฉพาะแค่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่ภายในยังมีการปรับปรุง พร้อมติดตั้ง และเพิ่มเทคโนโลยีระบบอำนวยความสะดวก

ห้องโดยสารดีไซจ์นใหม่ จัดเรียงแผงควบคุม ช่วยให้ผู้ขับใช้งานง่าย ภายในใหม่สีทูโทน สีน้ำตาล/ดำ หรูหรายิ่งขึ้นด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์หุ้มเบาะนั่ง ที่พักแขน และแผงประตูข้าง

MITSUBISHI XPANDER รุ่นใหม่ ปรับเพิ่มหน้าจอระบบสัมผัส เป็นขนาด 9 นิ้ว รองรับ APPLE CAR PLAY, ANDROID AUTO ระบบปรับอากาศดีไซจ์นใหม่แบบดิจิทอล พร้อมฟังค์ชัน MAX COOL และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วน พวงมาลัยดีไซจ์นใหม่ ทรงสปอร์ท และกระชับมือขึ้น ปรับได้ 4 ทิศทาง สูง/ต่ำ และใกล้/ไกล ระบบเบรคมือไฟฟ้า พร้อมระบบหน่วงเบรคอัตโนมัติ

ช่อง USB 2 ช่อง สำหรับเบาะแถวที่ 2 แบบ TYPE-A และ TYPE-C พร้อมช่องจ่ายกระแสไฟ DC ขนาด 12 โวลท์ บริเวณคอนโซลหน้า และเบาะนั่งแถวที่ 3 คอนโซลกลางใหม่ ที่มีถาดเก็บของแบบเปิดขนาดใหญ่ ที่พักแขนสามารถเก็บขวดน้ำขนาด 600 มล. พร้อมติดตั้งที่วางแก้วน้ำเพิ่มบนที่พักแขนเบาะแถวที่ 2

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC รหัส 4A91 ความจุ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.3 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่องรุ่นใหม่ ECO-DYNAMIC CVT

เมื่อเหยียบคันเร่งเต็ม ระบบจะตอบสนองด้วยอัตราเร่งที่รวดเร็ว และให้กำลังต่อเนื่อง แต่ถ้าเหยียบคันเร่งเพียงเล็กน้อย จะให้ความนุ่มนวล ประหยัด และเงียบ

ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.4 กม./ลิตร (เดิม 15.2 กม./ลิตร) ซึ่งครั้งนี้ก็มีให้ได้เห็น

MITSUBISHI XPANDER มีขนาดความจุของถังน้ำมัน 45 ลิตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดเบนซิน 91, 95 และแกสโซฮอล E20

ระบบรองรับ

ระบบกันสะเทือนแบบใหม่ ด้านหน้าติดตั้งเหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำหัวชอคอับ เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง และที่ด้านหลังมีการปรับเปลี่ยนขนาดของชอคอับให้ใหญ่ขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มความนุ่มนวลทุกการขับขี่

สำหรับระบบความปลอดภัย MITSUBISHI XPANDER ยังคงอัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยทั้งในเชิงป้องกัน และปกป้อง เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบป้องกันการลื่นไถล, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบป้องกันล้อลอคขณะเบรค, ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรคอีเลคทรอนิค, ระบบเสริมแรงเบรค, ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกะทันหัน, ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า, เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 5 ตำแหน่ง, ระบบ PREDESTRIAN PROTECTION ที่ออกแบบตัวถังด้านหน้าช่วยลดความรุนแรง จากแรงกระแทกจากรถที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนนให้น้อยลงหากเกิดอุบัติเหตุ, โครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE BODY ให้ความปลอดภัยสูงสุดด้วยโครงสร้างตัวถังที่ใช้เหล็กกล้าแรงดึงสูงมาผลิต เพื่อช่วยลดการยุบตัวของห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ, คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกบริเวณแผงประตู เพื่อลดแรงกระแทกด้านข้างให้แก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งวัสดุซับเสียง เพื่อลดการสั่นสะเทือนของรถ และเสียงรบกวนจากภายนอกรถ

MITSUBISHI XPANDER มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่นมาตรฐาน GLS-LTD ราคา 799,000 บาท และรุ่นทอพ GT ราคา 895,000 บาท ส่วนสีมี 4 สีให้เลือก ดำ, เทา, เงิน และขาวมุก