มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ครอสส์โอเวอร์อเนกประสงค์ สุดคุ้ม !

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดทริพพิเศษทดลองขับ มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ใหม่ 4 WHEELS ได้รับเชิญให้ร่วมทดลองขับบนเส้นทางสุโขทัย-เพชรบูรณ์-ขอนแก่น ระยะทางกว่า 490 กม.

ภายนอก

มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ มีดีไซจ์นที่สุดล้ำ ด้วยเอกลักษณ์การออกแบบ ADVANCED DYNAMIC SHIELD กระจังหน้าขนาดใหญ่ มีจุดเด่นตรงที่ดวงไฟหน้าขนาดใหญ่ ส่วนไฟเลี้ยว/ไฟหรี่แบบคริสตัล แอลอีดี ให้ความเท่ แปลกตา กันชนหน้า พร้อมไฟตัดหมอก ส่วนไฟท้ายแบบแอลอีดี L-ILLUMINATION TUBE โดดเด่นด้วยเส้นสายเรียบหรู พร้อมไฟเบรคแบบแยกส่วน ถัดขึ้นไปบนหลังคาด้านท้าย ติดตั้งสปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 แบบแอลอีดี

 

มิติตัวรถ กว้าง 1,750 มม. ยาว 4,475 มม. สูง 1,700 มม. ระยะฐานล้อด้านหน้ากว้าง 1,520 มม. ด้านหลังกว้าง 1,510 มม. และมีระยะห่างใต้ท้องรถสูงถึง 205 มม.

 

เอกซ์แพนเดอร์ มี 2 รุ่นรถให้เลือกใช้ตามความชอบของผู้บริโภค แต่ละรุ่นมีข้อแตกต่างที่สังเกตเห็นจากภายนอก คือ รุ่นมาตรฐาน จีแอลเอส-แอลทีดี แผงกันกระแทกด้านหน้าและหลัง คิ้วด้านข้าง คิ้วขอบกระจกประตูเป็นสีดำ ส่วนมือเปิดประตู เป็นสีเดียวกับตัวรถ และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/65 R15 ส่วนรุ่นทอพ คือ รุ่น จีที แตกต่างจากรุ่น จีแอลเอส-แอลทีดี ตั้งแต่แผงกันกระแทกด้านหน้าและด้านหลัง คิ้วด้านข้างเป็นสีเงิน ส่วนคิ้วขอบกระจกประตู มือเปิดประตู เป็นวัสดุโครเมียม และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว สีทูโทน มาพร้อมยางขนาด 265/55 R16

 

ภายใน

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ ดูสปอร์ท ฉีกแนวเดิมๆ ที่รถครอบครัวแนวนี้ต้องเป็นสีเบจ เบาะที่นั่งปรับพับได้หลายรูปแบบ สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีให้ อาทิเช่น ที่เก็บของ บริเวณคอนโซลกลาง ที่วางแก้วน้ำบริเวณคอนโซลกลาง ที่เก็บรองเท้าใต้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า และมีแผงควบคุมระบบปรับอากาศ สำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกอิสระ นอกจากนี้ ยังมีชุด POWER SOCKETS ด้วยช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า DC 12 โวลท์ อีก 3 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

 

เครื่องยนต์

ขุมพลังของ มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ วางเครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC รหัส 4A91 ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.3 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอีเลคทรอนิคส์ ECI-MULTI 32 บิท ช่วยให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งแซงที่ดี โดยเฉพาะในช่วงความเร็วลอยตัว ตั้งแต่ช่วงความเร็ว 80-140 กม./ชม. เครื่องยนต์ให้การตอบสนองดีมาก ให้การขับขี่คล่องตัวเกินความคาดหมาย ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมระบบ INC (IDLE NEUTRAL CONTROL) อัตราทดเฟืองท้าย 4.375 รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร

 

ระบบรองรับ

ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำหัวชอคอับ ด้านท้ายแบบทอร์ชันบีม ชุดช่วงล่างเซทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ เอกซ์แพน-เดอร์ โดยเฉพาะ ให้การยึดเกาะถนนที่ดี เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ และยังตอบสนองเรื่องการนั่งที่ให้ความนุ่มนวล นอกจากนี้ ยังมีการนำชุดวาล์วในกระบอกชอคอับของ EVO X มาใส่ไว้ในชอคอับของ เอกซ์แพนเดอร์ เพื่อให้ช่วงล่างมีการซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น

 

นอกจากนี้ ยังอัดแน่นด้วยระบบความปลอด-ภัยทั้งในเชิงป้องกันและปกป้อง เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว ASC ระบบป้องกันการลื่นไถล TCL ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA ระบบป้องกันล้อลอคขณะเบรค ABS ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรค แบบอีเลคทรอนิคส์ EBD ระบบเสริมแรงเบรค BA ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกะทันหัน ESS ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 5 ตำแหน่ง ระบบ PREDESTRIAN PROTECTION ที่ออกแบบตัวถังด้านหน้าช่วยลดความรุนแรงจากแรงกระแทกจากรถที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนนให้น้อยลงหากเกิดอุบัติเหตุ

 

เราได้ทดลองขับ เอกซ์แพนเดอร์ พบว่า เป็นรถครอสส์โอเวอร์เอมพีวีที่มีความโดดเด่นทั้งหน้าตาและขนาดรูปร่าง ที่ดูล้ำสมัย เสา A ออก แบบให้ลาดลงต่ำ ทำให้มีมุมมองของทัศนวิสัยที่ดี อีกทั้งยังมีความสูงใต้ท้องรถมากถึง 205 มม. เพียงพอสำหรับการลุยอุปสรรคต่างๆ ห้องโดยสาร เน้นความกว้างขวาง ชิ้นงานพลาสติคต่างๆ ในห้องโดยสาร ทำได้สวยงามและเนียนตา พวงมาลัยไฟฟ้า ให้การตอบสนองที่ดี เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ให้การขับขี่ที่ดี โดยเฉพาะการขับขี่ทางไกล อัตราเร่งตีนต้น อาจจะดูหนืดไปสักนิด แต่รับรองได้ว่า ที่ความเร็วประมาณ 80-140 กม./ชม. ไม่เป็นสองรองใคร ส่วนช่วงล่างดูนุ่มนวลแต่ยังคงสมรรถนะในการยึดเกาะถนนที่ดี แม้จะมีอาการเด้งในบางจังหวะ และระยะเบรค ต้องเผื่อสักนิด ความเร็วเฉลี่ยในการเดินทางครั้งนี้ ประมาณ 120-140 กม./ชม. เราทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยได้ 11.1 กม./ลิตร...เราเชื่อว่า เอกซ์แพนเดอร์ จะเป็นทางเลือกที่สำคัญ

ฟันธง

หน้าตาล้ำสมัย ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย อุปกรณ์ใช้งานเพียบ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ตีนต้นหนืดไปหน่อย แต่ตีนปลายแรงเกินตัว !