รถซีดานหรูหรา ในมาดสปอร์ท ดุดัน ภายในสะดวกสบาย เทคโนโลยีเครื่องยนต์ทันสมัย แรงสะใจ ประหยัด ควบคุมง่าย และขับสนุก ไอเอส 250 (IS250) โฉมใหม่ ที่พัฒนาจาก เลกซัส ไอเอส ซีรีส์ (LEXUS IS SERIES) เวอร์ชันที่ 2 ซีดาน ขับเคลื่อนล้อหลัง คันแรง มาดสปอร์ท ที่ได้รับการวางตัวให้เป็นคู่แข่งสำคัญของ บีเอมดับเบิลยู 325 ไอ ไอเอส 250 ยังคงมีให้เลือก 3 ระดับ ความหรูหรา คือ ลักชัวรี (LUXURY) รุ่นมาตรฐาน พรีเมียม(PREMIUM) และ พรีเมียม รุ่นทอพ ที่มาพร้อมหลังคามูนรูฟ ในครั้งนี้ โตโยต้า ฯ เชิญเราไปทดลองขับ และสัมผัส ไอเอส 250 บนเส้นทาง กรุงเทพ ฯ-หัวหิน ระยะทางกว่า 200 กม.
เลกซัส ไอเอส 250 มีรูปร่างหน้าตาคมเข้ม และสะดุดตา ผู้พบเห็นมากกว่าคู่แข่ง ในทุกมุมมอง
กระจังหน้าที่ต่ำลง และช่องดักลมใหญ่กว่ารุ่นเดิม ดูดุดัน รับกับกันชน และไฟหน้าแบบสปอร์ท ด้านข้าง ไม่เพียงมีเส้นสาย และเหลี่ยมมุมที่เด่นชัด ยังมีส่วนโค้งเว้าได้รูปทรง เน้นขอบล้อ และชายล่างที่ออกแบบกลมกลืนกับตัวรถ ประกอบกับหลังคาลาดต่ำ รับแนวฝากระโปรงหน้า/หลัง คล้ายรถสปอร์ท
ด้านหลังสะดุดตากับฝากระโปรงท้ายสั้น ปลายยกแบบหางเป็ด และโคมไฟท้ายที่ตัดเหลี่ยมเข้าทรง กันชนหลังใหม่ ขนาดใหญ่ และท่อไอเสียคู่ สไตล์สปอร์ท ช่วยเพิ่มเสน่ห์ของ เลกซัส ไอเอส 250 ให้ชวนมอง มากยิ่งขึ้น
แม้ว่า เลกซัส ไอเอส 250 จะเป็นซีดานรุ่นเล็ก แต่ยังไม่ละทิ้งความหรูหรา ห้องโดยสารทูโทน สีดำ/เทา ลายไม้สีอ่อน เบาะหนังแน่นหนาขนาดใหญ่ และคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง แบบบันทึกความจำได้ พร้อมปีกเบาะขนาดใหญ่โอบกระชับสรีระ และมีพัดลมเป่าอากาศใต้เบาะ ที่เลือกได้ว่าต้องการลมเย็น/ร้อน
ระบบแอร์แบบแยกอุณหภูมิซ้าย/ขวา และช่องลมด้านหลัง เย็นเร็วและทั่วถึงทุกจุด ส่วนเรื่องระบบเสียง MARK LEVINSON กับลำโพง 14 ตัวที่ติดมาในรุ่น PREMIUM นับว่าสมบูรณ์แบบชุดหนึ่ง ระบบกุญแจควบคุม SMART KEY ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยเพิ่มความสะดวกได้มาก เพราะเพียงแค่พกติดตัว ก็สามารถเปิด/ปิดลอคประตู เปิดห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ และสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ
พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน 3 ก้านขนาดเล็ก และแผงควบคุมจังหวะเกียร์หลังพวงมาลัย คล้ายกับที่ใช้ในรถสปอร์ท ใช้งานง่าย และถนัดมือกว่าการเปลี่ยนด้วยคันเกียร์แบบดันบวก/ดึงลบ ซึ่งต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย ไฟสีแดงเตือนในมาตรวัด เมื่อถึงความเร็วและรอบเครื่องยนต์ที่ผู้ขับตั้งเอาไว้ เป็นลูกเล่นที่น่าจะถูกใจคนชอบความเร็ว
พลังจากเครื่องยนต์เบนซินรหัส 4GR-FSE แบบ วี 6 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 24 วาล์ว ขนาด 2.5 ลิตร 212 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งแรงดี และต่อเนื่องตั้งแต่ออกตัว ใกล้เคียงกับตัวเลขที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ คือ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 8.4 วินาที และยังสามารถทำความเร็วได้ถึง 200 กม./ชม.
ส่วนอัตราสิ้นเปลือง เลกซัส ไอเอส 250 เมื่ออ่านจากตัวเลขบนมาตรวัดในรถ ความเร็วคงที่ 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 1,800 รตน. และความสิ้นเปลืองอยู่ที่ 5-6 ลิตร/100 กม. หรือ 15-20 กม./ลิตร ซึ่งเป็นผลจากอัตราทดเกียร์ 6 จังหวะ คันเร่งไฟฟ้า และระบบหัวฉีดตรง ที่เรียกว่า D4 ในรถรุ่นนี้
รุ่นใหม่มีพวงมาลัยแม่นยำและเกาะถนนกว่ารุ่นก่อน ทั้งในทางตรง โค้งแคบ การเปลี่ยนช่องทางที่ความเร็วสูง น้ำหนักหน้า/หลัง ที่สมดุล และระบบควบคุมการทรงตัว มีระบบรวมศูนย์สั่งการควบคุม VDIM (VEHICLE DYNAMICS INTEGRATED MANAGEMENT) ทำหน้าที่ควบคุมเบรค เครื่องยนต์ และพวงมาลัย ช่วยลดอาการท้ายปัด รวมทั้งขนาดยางล้อหน้า 225/45/17 และหลัง 245/45/17 ที่รองรับกับการขับเคลื่อนล้อหลัง คอยล์สปริง และชอคอับแบบดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากผิวถนน
ระบบเบรคทำงานเร็วเกินคาด ทุกครั้งที่แตะแป้นเบรคเบาๆ แรงดันน้ำมันเบรคจะเพิ่มอย่างรวดเร็วจนกระทั่งรถหยุด ขณะที่หยุดรถในความเร็วสูง หรือกะทันหัน ระบบ เอบีเอส อีบีดี วีเอสซี และระบบควบคุมการทรงตัว ช่วยสร้างสมดุล และทำให้ขับง่ายขึ้นกว่ารุ่นเดิม
รูปร่างหน้าตาสวย ทันสมัย และสะดุดตาสไตล์ดุดัน มีเอกลักษณ์ ภายในหรูหรา น่าใช้ มีลูกเล่นแบบรถสปอร์ท เครื่องยนต์ 212 แรงม้า แรงสะใจกว่าคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์เท่ากัน