ทดลองขับ(formula)
มีนี คูเพอร์ เอส ใหม่
มีนี คูเพอร์ (MINI COOPER) และ มีนี คูเพอร์ เอส (MINI COOPER S) รุ่นใหม่ รหัส อาร์ 56 (R56) ถึงจะไม่โดดเด่น และแตกต่าง อย่างที่คิด แต่ภายใต้รูปทรงเดิมๆ กับเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป เช่น เครื่องยนต์ติดตั้งเทอร์โบชาร์จ 175 แรงม้า และระบบรองรับที่นุ่ม นั่งสบายกว่าเดิมมีนี คูเพอร์ (MINI COOPER) และ มีนี คูเพอร์ เอส (MINI COOPER S) รุ่นใหม่ รหัส อาร์ 56 (R56) ถึงจะไม่โดดเด่น และแตกต่าง อย่างที่คิด แต่ภายใต้รูปทรงเดิมๆ กับเอก ลักษณ์เฉพาะตัว ก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป เช่น เครื่องยนต์ติดตั้งเทอร์โบชาร์จ 175 แรงม้า และระบบรองรับที่นุ่ม นั่งสบายกว่าเดิม ภายนอก เท่ อย่างมีเอกลักษณ์ มีนี รุ่นใหม่ ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของ มีนี รุ่นเดิม ออกมาอย่างสมบูรณ์ ทั้งลักษณะโครงสร้าง ที่ล้ออยู่ตรงมุมตัวถัง ลายเส้นฝากระโปรงหน้าที่ขนานกับเสาหลังคา หลังคาแบบยกตั้งขึ้น (FLOATING ROOF) แต่ปรับชุดไฟหน้าให้เอียงรับกับกระจังหน้าที่ละม้ายคล้ายรอยยิ้ม มีนี คูเพอร์ ใหม่ มีมิติความยาวมากขึ้น 60 และ 61 มม. ในรุ่น คูเพอร์ เอส ซึ่งรับกับแนว สันฝากระโปรงหน้าที่นูนสูงขึ้นอีก 60 มม. ภายใน ทันสมัย เน้นคลาสสิค มีนี รุ่นใหม่ ยังคงเก็บรายละเอียดภายในของรุ่นเดิมเอาไว้ ทั้งแผงประตูที่เป็นแนวโค้ง และ มาตรวัดความเร็วกลางคอนโซล (CENTER SPEEDO) สไตล์คลาสสิค แต่ออกแบบ ให้ดูทันสมัยขึ้น และขยายขนาดให้ใหญ่กว่ารุ่นที่แล้วเกือบเท่าตัว เพื่อบรรจุชุดควบคุม เครื่องเสียง พร้อมเพิ่มจอแสดงผลการทำงาน ช่วยให้สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังย้ายตำแหน่งสวิทช์ควบคุมไฟส่องสว่างห้องโดยสาร และหลังคากระจก ในรุ่น LOOK 2 ไปไว้ด้านบน ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งาน และป้องกันการสับสน กุญแจแบบคาร์ดสอด ดีไซจ์นใหม่ ทรงกลมตามสไตล์ มีนี สะดุดตากว่าของ บีเอมดับเบิลยู และสะดวกด้วยปุ่มสตาร์ท/สตอพ (ดับเครื่องยนต์) เครื่องยนต์ ตอบสนองทันใจ เครื่องยนต์ มีนี ใหม่ น้ำหนักเบา ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียม พัฒนาบนพื้นฐานเทคโนโลยี VALVE TRONIC ลิขสิทธิ์เฉพาะของ บีเอมดับเบิลยู กรุพ เป็นระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ ที่ควบคุมระยะการ เปิด/ปิดวาล์วไอดี และไอเสีย แบบแปรผัน และระบบควบคุมแคมชาฟท์ (VANOS) ที่ทำให้มีแรงบิดต่อ เนื่องตั้งแต่รอบต่ำ ตอบสนองเร็ว การเผาไหม้สมบูรณ์ และประหยัดน้ำมัน ทีมวิศวกร มีนี ยังนำหลัก การ ลดการสูญเสียพลังงานในระบบ ด้วยการทำงานแบบ ON-DEMAND ทั้งในระบบปั๊มน้ำมันเครื่อง และระบบหล่อเย็น ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังเพิ่มขึ้น และลดการใช้เชื้อเพลิงลง มีนี คูเพอร์ ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 120 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 16.3 กก.- ม. ที่ 4,250 รตน. โดยมีจุดเด่นที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำ คือ แรงบิด 14.3 กก.-ม. ตั้งแต่ 2,000 รอบ ทำ ให้ คูเพอร์ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 9-10 วินาที และที่ สำคัญอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16-17 กม./ลิตร (ตัวเลขในจอแสดงผล) ส่วนเจ้า คูเพอร์ เอส เปลี่ยนระบบอัดอากาศจากซูพอร์ชาร์จ มาเป็นเทอร์โบชาร์จ แบบ TWIN- SCROLL TURBO ที่สามารถแก้อาการ "TURBO LAG" ซึ่งเป็นจุดอ่อนได้ โดยอาศัยหลักการ การแยก การไหลของไอเสียที่ออกจากเครื่องยนต์เป็น 2 ส่วน เพื่อให้การสร้างแรงดันต่อใบพัดเทอร์โบได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และระบบฉีดน้ำมันด้วยความดันสูงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้(GDI: GASOLINE DIRECTION INJECTION) มีกำลังสูดสุดเพิ่มขึ้น 12 แรงม้า เป็น 175 แรงม้าที่ 5,500 รตน. และแรง บิดสูงสุดที่ 24.5 กก.-ม. ที่ 1,600-5,000 รตน. พร้อมระบบ OVERBOOST ของเทอร์โบ ที่เพิ่มแรงบิด เป็น 26.5 กก.-ม. ที่ 1,700-4,500 รตน. เมื่อกระแทกคันเร่ง ออกตัวได้เร็วขึ้น ใช้เวลาเพียง 7-8 วินาที กับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ระบบรองรับ นุ่ม นั่งสบายกว่าเดิม มีนี ใหม่ เปลี่ยนระบบพวงมาลัยจากไฟฟ้าน้ำมัน (EHPAS: ELECTRO-HYDRAULIC POWER ASSISTED STEERING) เป็นแบบไฟฟ้า (EPAS: ELECTRO POWER ASSISTED STEERING) ซึ่ง ปรับตามลักษณะการขับ ความเร็ว และสภาพถนนที่ต่างกัน ทำให้ควบคุมง่าย และเบาแรง อีกทั้งยังมี ฟังค์ชันแบบสปอร์ท ในรุ่น คูเพอร์ เอส ที่สามารถเลือกผ่านปุ่มสปอร์ทได้อีกด้วย ระบบช่วงล่างใหม่ นุ่ม และนั่งสบายกว่ารุ่นเดิม แม้ว่าเครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น ด้านหน้าปรับ เปลี่ยนจุดยึดเพลาขับ เพื่อให้รถมีการตอบสนองต่อการเข้าโค้งได้ดีขึ้น ส่วนด้านหลังใช้วัสดุ อลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ สามารถลดน้ำหนักลงจากเดิมได้อีก 6 กก. ส่งผลให้เกิดความ ปราดเปรียวมากขึ้น นอกจากนั้น มีนี ใหม่ยังใส่เหล็กกันโคลงทั้งหน้า/หลัง ให้อารมณ์การ ขับขี่แบบ โกคาร์ท ด้วยโครงสร้างที่มีช่วงล้อกว้าง ฐานล้อยาว โอเวอร์แฮงสั้น และจุดศูนย์ ถ่วงต่ำ จานเบรคหน้าใหม่ มีขนาดใหญ่ขึ้นจาก 276 มม. เป็น 280 มม. ในรุ่น คูเพอร์ และจาก 276 เป็น 294 มม. ในรุ่น คูเพอร์ เอส นอกจากนั้นยังมีระบบช่วยเพิ่มแรงเบรคในกรณีฉุกเฉิน (BA: BRAKE ASSIST) ที่ทำงานร่วมกับ เอบีเอส อีบีดี และระบบควบคุมเสถียรภาพได้รับการอัพเกรดเป็น ENHANCED DSC ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระบบเพิ่มแรงเบรคแล้ว ยังมีระบบหน่วงการไหล (HILL ASSIST) ช่วยให้รถไม่ไหล ลงเนินขณะเข้าเกียร์ด้วย สรุป ถูกใจหนุ่มสาว ที่ชอบความต่าง แม้ว่ารูปกายภายนอกของ มีนี คูเพอร์ และ มีนี คูเพอร์ เอส ใหม่ จะเปลี่ยนไปน้อยมาก เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม แต่ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็ยังเรียกคะแนนนิยมได้เป็นเอกฉันท์ ต่างจากมาตรวัดใหม่ ที่ใหญ่เต็มคอนโซล เหมือนเข็มขัดไอ้มดแดง ซึ่งสร้างความคิด เห็นที่แตกต่างกันออกไป เครื่องยนต์แบบมีเทอร์โบชาร์จ 175 แรงม้า ในรุ่น คูเพอร์ เอส เร็ว และแรง ถูกใจหนุ่ม ทั้งสมกับสนนราคา 2.8 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากรุ่น คูเพอร์ 5 แสนบาท และด้วย ระบบรองรับที่นุ่มกว่าเดิม ในเวลาเดียวกัน ก็น่าจะถูกใจสาวๆ มากขึ้น ข้อมูลจำเพาะ มีนี คูเพอร์ เอส ผู้จัดจำหน่าย บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2654-3100 มิติและน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 3,714/1,683/1,407 ช่วงล้อหน้า/หลัง (มม.) 1,453/1,461 ฐานล้อ (มม.) 2,467 น้ำหนัก (กก.) 1,210 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 50 เครื่องยนต์ แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จ ความจุ (ซีซี) 1,598 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 85.8/77.0 อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 175/5,500 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 24.5/1,600-5,000 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดอีเลคทรอนิค ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ธรรมดา (จังหวะ) 6 ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 หน้า ระบบรองรับ หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง มัลทิลิงค์ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส และ อีบีดี หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง จาน ราคา (บาท) 2,800,000
ภายนอก เท่ อย่างมีเอกลักษณ์
มีนี รุ่นใหม่ ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของ มีนี รุ่นเดิม ออกมาอย่างสมบูรณ์ ทั้งลักษณะโครงสร้างที่ล้ออยู่ตรงมุมตัวถัง ลายเส้นฝากระโปรงหน้าที่ขนานกับเสาหลังคา หลังคาแบบยกตั้งขึ้น (FLOATING ROOF) แต่ปรับชุดไฟหน้าให้เอียงรับกับกระจังหน้าที่ละม้ายคล้ายรอยยิ้ม
มีนี คูเพอร์ ใหม่ มีมิติความยาวมากขึ้น 60 และ 61 มม. ในรุ่น คูเพอร์ เอส ซึ่งรับกับแนวสันฝากระโปรงหน้าที่นูนสูงขึ้นอีก 60 มม.
ภายใน ทันสมัย เน้นคลาสสิค
มีนี รุ่นใหม่ ยังคงเก็บรายละเอียดภายในของรุ่นเดิมเอาไว้ ทั้งแผงประตูที่เป็นแนวโค้ง และมาตรวัดความเร็วกลางคอนโซล (CENTER SPEEDO) สไตล์คลาสสิค แต่ออกแบบให้ดูทันสมัยขึ้น และขยายขนาดให้ใหญ่กว่ารุ่นที่แล้วเกือบเท่าตัว เพื่อบรรจุชุดควบคุมเครื่องเสียง พร้อมเพิ่มจอแสดงผลการทำงาน ช่วยให้สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวกขึ้น
นอกจากนี้ยังย้ายตำแหน่งสวิทช์ควบคุมไฟส่องสว่างห้องโดยสาร และหลังคากระจก ในรุ่น LOOK 2 ไปไว้ด้านบน ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งาน และป้องกันการสับสน
กุญแจแบบคาร์ดสอด ดีไซจ์นใหม่ ทรงกลมตามสไตล์ มีนี สะดุดตากว่าของ บีเอมดับเบิลยูและสะดวกด้วยปุ่มสตาร์ท/สตอพ (ดับเครื่องยนต์)
เครื่องยนต์ ตอบสนองทันใจ
เครื่องยนต์ มีนี ใหม่ น้ำหนักเบา ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียม พัฒนาบนพื้นฐานเทคโนโลยี VALVE TRONIC ลิขสิทธิ์เฉพาะของ บีเอมดับเบิลยู กรุพ เป็นระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ ที่ควบคุมระยะการเปิด/ปิดวาล์วไอดี และไอเสีย แบบแปรผัน และระบบควบคุมแคมชาฟท์ (VANOS) ที่ทำให้มีแรงบิดต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำ ตอบสนองเร็ว การเผาไหม้สมบูรณ์ และประหยัดน้ำมัน ทีมวิศวกร มีนี ยังนำหลักการ ลดการสูญเสียพลังงานในระบบ ด้วยการทำงานแบบ ON-DEMAND ทั้งในระบบปั๊มน้ำมันเครื่องและระบบหล่อเย็น
ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังเพิ่มขึ้น และลดการใช้เชื้อเพลิงลง มีนี คูเพอร์ ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 120 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 16.3 กก.-ม. ที่ 4,250 รตน. โดยมีจุดเด่นที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำ คือ แรงบิด 14.3 กก.-ม. ตั้งแต่ 2,000 รอบ
ทำให้ คูเพอร์ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 9-10 วินาที และที่สำคัญอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16-17 กม./ลิตร (ตัวเลขในจอแสดงผล) ส่วนเจ้า คูเพอร์ เอส เปลี่ยนระบบอัดอากาศจากซูพอร์ชาร์จ มาเป็นเทอร์โบชาร์จ แบบ TWIN-SCROLL TURBO ที่สามารถแก้อาการ "TURBO LAG" ซึ่งเป็นจุดอ่อนได้ โดยอาศัยหลักการ การแยกการไหลของไอเสียที่ออกจากเครื่องยนต์เป็น 2 ส่วน เพื่อให้การสร้างแรงดันต่อใบพัดเทอร์โบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และระบบฉีดน้ำมันด้วยความดันสูงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้(GDI: GASOLINE DIRECTION INJECTION) มีกำลังสูดสุดเพิ่มขึ้น 12 แรงม้า เป็น 175 แรงม้าที่ 5,500 รตน. และแรงบิดสูงสุดที่ 24.5 กก.-ม. ที่ 1,600-5,000 รตน. พร้อมระบบ OVERBOOST ของเทอร์โบ ที่เพิ่มแรงบิดเป็น 26.5 กก.-ม. ที่ 1,700-4,500 รตน. เมื่อกระแทกคันเร่ง ออกตัวได้เร็วขึ้น ใช้เวลาเพียง 7-8 วินาทีกับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
ระบบรองรับ นุ่ม นั่งสบายกว่าเดิม
มีนี ใหม่ เปลี่ยนระบบพวงมาลัยจากไฟฟ้าน้ำมัน (EHPAS: ELECTRO-HYDRAULIC POWER ASSISTED STEERING) เป็นแบบไฟฟ้า (EPAS: ELECTRO POWER ASSISTED STEERING) ซึ่งปรับตามลักษณะการขับ ความเร็ว และสภาพถนนที่ต่างกัน ทำให้ควบคุมง่าย และเบาแรง อีกทั้งยังมีฟังค์ชันแบบสปอร์ท ในรุ่น คูเพอร์ เอส ที่สามารถเลือกผ่านปุ่มสปอร์ทได้อีกด้วยระบบช่วงล่างใหม่ นุ่ม และนั่งสบายกว่ารุ่นเดิม แม้ว่าเครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น ด้านหน้าปรับเปลี่ยนจุดยึดเพลาขับ เพื่อให้รถมีการตอบสนองต่อการเข้าโค้งได้ดีขึ้น ส่วนด้านหลังใช้วัสดุอลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ สามารถลดน้ำหนักลงจากเดิมได้อีก 6 กก. ส่งผลให้เกิดความปราดเปรียวมากขึ้น นอกจากนั้น มีนี ใหม่ยังใส่เหล็กกันโคลงทั้งหน้า/หลัง ให้อารมณ์การขับขี่แบบ โกคาร์ท ด้วยโครงสร้างที่มีช่วงล้อกว้าง ฐานล้อยาว โอเวอร์แฮงสั้น และจุดศูนย์ถ่วงต่ำ
จานเบรคหน้าใหม่ มีขนาดใหญ่ขึ้นจาก 276 มม. เป็น 280 มม. ในรุ่น คูเพอร์ และจาก 276 เป็น 294 มม. ในรุ่น คูเพอร์ เอส นอกจากนั้นยังมีระบบช่วยเพิ่มแรงเบรคในกรณีฉุกเฉิน (BA: BRAKE ASSIST) ที่ทำงานร่วมกับ เอบีเอส อีบีดี และระบบควบคุมเสถียรภาพได้รับการอัพเกรดเป็น ENHANCED DSC ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมระบบเพิ่มแรงเบรคแล้ว ยังมีระบบหน่วงการไหล (HILL ASSIST) ช่วยให้รถไม่ไหลลงเนินขณะเข้าเกียร์ด้วย
สรุป ถูกใจหนุ่มสาว ที่ชอบความต่าง
แม้ว่ารูปกายภายนอกของ มีนี คูเพอร์ และ มีนี คูเพอร์ เอส ใหม่ จะเปลี่ยนไปน้อยมากเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม แต่ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็ยังเรียกคะแนนนิยมได้เป็นเอกฉันท์ต่างจากมาตรวัดใหม่ ที่ใหญ่เต็มคอนโซล เหมือนเข็มขัดไอ้มดแดง ซึ่งสร้างความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป
เครื่องยนต์แบบมีเทอร์โบชาร์จ 175 แรงม้า ในรุ่น คูเพอร์ เอส เร็ว และแรง ถูกใจหนุ่มทั้งสมกับสนนราคา 2.8 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจากรุ่น คูเพอร์ 5 แสนบาท และด้วยระบบรองรับที่นุ่มกว่าเดิม ในเวลาเดียวกัน ก็น่าจะถูกใจสาวๆ มากขึ้น