วิถีตลาดรถยนต์
เปิดปีมังกรทอง พอมีลุ้น
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม ปี '55 กับ '54
ตลาดโดยรวม, + ,11.5 %
รถยนต์นั่ง, - ,11.2 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ, +, 23.4 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ, + ,168.8 %
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ, +, 58.1 %
รถเอมพีวี, +, 30.8 %
[/table]
การแข่งขันช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดปี 2555 เริ่มต้นขึ้นแล้ว ปีนี้ผู้เชี่ยวชาญผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ฟันธงกันฉับๆ ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างต่ำๆ ต้องมีเลข 7 หลัก หรือเกินกว่า 1 ล้านคัน ทั้งนี้จากการเกื้อหนุนจุนเจือกันของหลากหลายปัจจัยบวก อาทิการกลับมาเดินหน้าเปิดสายการผลิตกันได้อย่างเต็มที่อีกครั้งของหลายบริษัท ที่ประสบปัญหาจากอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว บรรดายอดค้างส่งจากปีที่แล้วจะถูกเร่งเคลียร์ เพื่อรับออร์เดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาอย่างต่อเนื่องในปีนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหลายของภาครัฐ ที่จะทำให้ประชาชนมีเงินทองจับจ่ายซื้อข้าวของเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงมาตรการรถคันแรก ที่ยังมีผลใช้ได้อยู่ในปีนี้ ขณะที่รถยนต์รุ่นใหม่ที่เข้ากฎเกณฑ์รถยนต์คันแรกจะออกมาเป็นทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น ถึงแม้ว่าแนวโน้มสินค้าอุปโภคบริโภคจะมีราคาเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องของพลังงานเชื้อเพลิงที่น้ำมันชนิดต่างๆ และแกสธรรมชาติจะปรับตัวสูงขึ้น แต่เมื่อบวกลบคูณหารแล้ว เกจิอาจารย์ทั้งหลายยังมั่นใจว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศปี 2555 นี้ ล้านแล้วจ้า อย่างแน่นอน และเพื่อจะไปให้ถึงดวงดาว ยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศแต่ละเดือน ต้องมีไม่ต่ำกว่า 83,000 คันขึ้นไป แต่จะทำได้จริงหรือไม่ เรามาดูกัน
ผลประกอบการของการซื้อขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงรวมทุกประเภทในเดือนมกราคม ปี 2555 เลขที่ออก 76,246 คัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคม ปีที่ผ่านมา สวยหรูเอาการอยู่ เพราะปรับตัวเพิ่มมากขึ้นถึง 11.5 % แต่อย่างที่บอกไว้ ยอดจำหน่ายแต่ละเดือนในปี 2555 นี้ต้องไม่ต่ำกว่า 80,000 คัน จึงจะเป็นสถิติใหม่ของประวัติศาสตร์ยานยนต์ไทย เมื่อตัวเลขออกมาเช่นนี้ เท่ากับว่าเดือนแรกนี้ไม่ถึงเป้า ขาดหายไปเกือบ 7,000 คัน ต้องไปหาโปะในเดือนต่อๆ ไป ซึ่งไม่น่าจะหนักหนาสาหัสเท่าใดนัก เพราะบ้านเรามีช่วงนาทีทองให้แต่ละบแรนด์ กอบโกยยอดจำหน่ายกันแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยถึงอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หนึ่งนั้นเป็นงานมอเตอร์โชว์ ในช่วงเดือนมีนาคม คาบเกี่ยวไปถึงเดือนเมษายน และงาน MOTOR EXPO ในช่วงปลายปี ซึ่งโดยปกติในช่วงงานและหลังงาน ยอดจำหน่ายรถยนต์จะพุ่งสูงขึ้นเป็นพิเศษจากความเย้ายวนของรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ถือฤกษ์เบิกชัยใช้เวทีทั้ง 2 งาน เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด และข้อเสนอพิเศษที่ยากจะปฏิเสธได้ สำหรับใครก็ตามที่ตั้งธงไว้ในใจอยู่แล้วว่าจะเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ หรือขอเป็นเจ้าของรถยนต์ป้ายแดงสักคันหนึ่งในชีวิตในช่วงเวลานั้น ซึ่งถ้ายอดจำหน่ายรถยนต์ในช่วงเวลาเงินเวลาทองดังกล่าวสูงมากพอจะไปถัวเฉลี่ยกับเดือนที่พลาดเป้าไป 1,000,000 คันขึ้น ในปี 2555 นี้ได้เห็นกันอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะถือว่าพลาดเป้าไปบ้าง แต่ก็พอจะนับได้ว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นการเริ่มต้นที่ดีรับปีมังกรทองเหมือนกัน เพราะจากตัวเลขยอดจำหน่าย 76,246 คันนี้ บางตลาดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว เช่น ตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.4 % พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 168.8 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเอสยูวี เพิ่มขึ้น 58.1 % และรถอเนกประสงค์ หรือเอมพีวี ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 30.8 % ตลาดรถยนต์ที่ปรับตัวลดลง เป็นตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยลดลง 11.2 % และตลาดรถยนต์ประเภทอื่นๆ ลดลง 5.2 %
สำหรับตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนมกราคม ปีที่แล้ว มาจากตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันที่ 34,796 คัน ที่น่าสนใจ คือ ปี 2555 นี้จะเป็นการแข่งขันแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างเข้มข้นของบรรดารถพิคอัพที่มีจำหน่ายอยู่ในบ้านเรา บแรนด์ใหญ่เกือบทุกบแรนด์ ผลัดใบเปลี่ยนโมเดลจากรุ่นเก่าเป็นรุ่นใหม่แกะกล่องกันหมดแล้ว ทั้งรูปร่างหน้าตา และสมรรถนะสูสีคู่คี่กันทั้งนั้น
เปิดศักราชใหม่มาเดือนแรก โตโยตา มียอดจำหน่ายในเดือนมกราคม สูงถึง 15,594 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดถึง 44.8 % ขณะที่คู่แข่งสำคัญ อีซูซุ ถึงแม้จะมีออร์เดอร์ตุนอยู่ในมือจำนวนมากมายมหาศาล แต่การส่งมอบให้ถึงมือลูกค้าอาจยังไม่เต็มกำลัง หรือเต็มกำลังแล้วก็ได้แค่นี้ ทำให้แค่เดือนแรกก็ตามหลังแชมพ์ไปแล้วหลายพันหน่วยอยู่ แถมยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าที่เคยทำได้ในเดือนมกราคม ปีที่แล้วเสียด้วย อีซูซุ มียอดจำหน่าย 9,147 คัน ลดลง 7.5 % ได้ส่วนแบ่งการตลาด 26.3 % อันดับที่ 3 ในเดือนนี้ยังอยู่ขั้นที่ถือได้ว่าเยี่ยมสำหรับ มิตซูบิชิ ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่ถือเป็นปีทองของ มิตซูบิชิ ก็ว่าได้ เปิดหัวปี 2555 มา มิตซูบิชิ มียอดจำหน่ายพิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อที่ 4,586 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม ปีที่แล้ว 74.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.2 % เชฟโรเลต์ เป็นอีกรายหนึ่งที่น่าจับตามองในปีนี้ เพราะพิคอัพ โคโลราโด ใหม่ ที่กำเนิดจากประสบการณ์ยาวนานกว่า 100 ปี เริ่มเป็นที่พูดถึงของนักเลงรถพิคอัพหนาหูขึ้น ถ้าใครไม่อยากเล่นรถตามกระแส และไม่ต้องรอนาน แถมหน้าตาและสมรรถนะไม่เป็นรองใคร น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีทางเลือกหนึ่ง และคงมีคนเลือกมากด้วยเหมือนกัน เพราะทำยอดจำหน่ายไปได้ถึง 1,686 คัน ในเดือนมกราคมเพิ่มสูงขึ้นถึง 131.6 % รับส่วนแบ่งตลาดไป 4.8 % จำหน่ายได้มากสุดเป็นอันดับที่ 4 ส่วนอันดับที่ 5 เป็นของ นิสสัน ขวัญใจนักเลงรถพิคอัพอีกรายหนึ่ง ถึงแม้ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนโมเดลใหม่แบบปรับยกชุดเหมือนรายอื่น แต่แค่การปรับเล็กน้อยบ้าง ก็เพียงพอที่จะรักษาสถานะความเป็นพิคอัพยอดนิยมเอาไว้ได้ เดือนมกราคม มียอดจำหน่ายอยู่ในอันดับที่ 5 จากตัวเลข 1,619 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 4.7 %
ส่วนประเภทขับเคลื่อน 4 ล้อ ของพิคอัพ 1 ตัน ตัวเลขยอดจำหน่ายเดือนมกราคมของทั้งตลาดรวมกัน เป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมาก จากที่เคยทำได้เพียง 1,370 คัน ในเดือนมกราคม ปี 2554 มาปีนี้ยอดจำหน่ายพุ่งขึ้นไปเป็น 3,683 คัน ยิ้มแย้มกันไปสำหรับบแรนด์ที่มีรถยนต์ประเภทนี้จำหน่าย โตโยตา ยังคงเป็นเสาหลักของตลาดนี้ แค่เปิดมาเดือนแรกก็กวาดยอดจำหน่ายไปถึง 2,299 คัน ส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 62.4 % เกินกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดทั้งหมดรวมกัน แต่ อีซูซุ ก็ออกสตาร์ทได้ไม่เลวเลยทีเดียวในตลาดเซกเมนท์นี้ เพราะปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วถึง 307.5 % ถึงแม้ตัวเลขจะเพียงแค่ 1,035 คันเท่านั้น แต่นี่ก็เกือบครึ่งหนึ่งของที่ทำได้ในปีที่แล้วทั้งปีรวมกัน มิตซูบิชิ อยู่ในอันดับที่ 3 มียอดจำหน่าย 150 คัน เพิ่มสูงขึ้น 150.0 % นิสสัน ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4 ในตลาดพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ มียอดจำหน่าย 104 คันส่วนแบ่งตลาด 2.8 % สำหรับ เชฟโรเลต์ ถึงจะมียอดจำหน่ายเพียง 70 คัน อยู่ในอันดับที่ 5 แต่เป็นการเติบโตที่สูงกว่าเดือนมกราคมปีที่แล้วถึง 1,066.7 % ขณะที่ ฟอร์ด กับ มาซดา ก็เติบโตเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน สรุปว่าตลาดนี้ทั้งตลาดทุกยี่ห้อมียอดจำหน่ายที่สูงกว่าที่เคยทำได้ในเดือนเดียวกันของปี 2554 ทั้งสิ้น
รถเอสยูวี ปี 2554 เป็นปีทองของ มิตซูบิชิ สามารถเบียดแชมพ์เก่า โตโยตา ขึ้นมาครองความเป็นเอสยูวีขวัญใจมหาชนได้ แต่ปี 2555 นี้คงจะเป็นงานยากสำหรับ มิตซูบิชิ ที่จะรักษาตำแหน่งแชมพ์เสียแล้ว เพราะแค่เริ่มออกสตาร์ทเดือนแรก โตโยตา ก็สามารถทวงแชมพ์ประจำเดือนไปครองได้แล้ว โดยมียอดจำหน่าย 2,871 คัน จากยอดรวมทั้งตลาด 5,962 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 48.2 % ส่วนแชมพ์เก่าปีที่แล้วหล่นไปอยู่อันดับที่ 2 มิตซูบิชิ มียอดจำหน่าย 2,137 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 35.8 % คงจะต้องว่ากันเป็นหนังยาวเสียแล้ว สำหรับการแข่งขันเพื่อครองความเป็นหนึ่งในตลาดนี้ของทั้ง 2 ยี่ห้อ อีก 11 เดือนที่เหลือ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขณะที่ เชฟโรเลต์ เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ทำเซอร์พไรส์เล็กๆ เบียด 2 ยี่ห้อดังขึ้นไปอยู่อันดับที่ 1 เปิดปีใหม่มาหล่นไปอยู่อันดับที่ 3 เสียแล้ว ทำยอดจำหน่ายได้ 711 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.9 % อันดับที่ 4 ของตลาดนี้เป็นของ ฟอร์ด จำหน่ายไป 84 คัน ลดลง 26.3 % ฮอนดา เหลือยอดจำหน่าย ซีอาร์-วี เพียง 40 คัน ในเดือนแรกของปี 2555 แต่ก็ยังดีที่ประคองตัวอยู่ในอันดับที่ 5 เป็นตัวเลขที่ลดลงจากเดือนมกราคม ปี 2554 ถึง 95.0 %
ในส่วนของรถเอมพีวี ยอดจำหน่ายรวมกันในเดือนมกราคม 1,341 คัน ทำให้เติบโตสูงขึ้น 30.8 % โตโยตา เพียงยี่ห้อเดียวก็เกือบจะกวาดส่วนแบ่งตลาดหมดแล้ว ยอดจำหน่าย 1,097 คัน ทำให้มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 81.8 % ทิ้งห่างอันดับที่ 2 ปโรตอน จากมาเลเซียไม่เห็นฝุ่น ปโรตอน จำหน่ายได้ 124 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.2 % อันดับที่ 3 ฮอนดา 61 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.5 % อันดับที่ 4 ซังยง จากสาธารณรัฐเกาหลี จำหน่ายได้ 20 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.5 % ส่วน เกีย ที่มาจากบ้านเดียวกัน จำหน่ายได้ 12 คัน ส่วนแบ่งตลาด 0.9 % อยู่ในอันดับที่ 5
จากตัวเลขยอดจำหน่ายทั้งหมด โตโยตา สามารถขึ้นไปอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของทุกตลาด เป็นการเปิดปีมังกรทองได้อย่างสวยสดงดงาม แต่จะเป็นอย่างนี้ไปทุกเดือนจนหมดปี 2555 หรือไม่ และ 1,000,000 คัน ในปี 2555 จะเป็นจริงหรือไม่ ต้องรอลุ้นกันอีกนาน
ABOUT THE AUTHOR
ข
ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์