ทดสอบ(formula) 1 Dec 2017
ซูซูกิ ซีอัซ/โตโยตา ยารีส เอทีฟ
คำจำกัดความของ “อีโคคาร์” ถูกท้าทายอีกครั้ง ด้วยซีดานร่างใหญ่ ออพชันอัดแน่น ภายใต้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร เน้นความประหยัดเชื้อเพลิงที่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของรถประเภทนี้ในบ้านเรา บวกกับตลาดที่มีความต้องการหลากหลาย ทั้งความคุ้มค่าในแง่ของราคา และคุณภาพโดยรวม เรานำอีโคคาร์สไตล์ซีดานมาประชันกันให้รู้ชัด กับ ซูซูกิ ซีอัซ และ โตโยตา ยารีส เอทีฟ เหล่าซีดานที่จะมาพิสูจน์ว่าอีโคคาร์ไม่จำเป็นต้องเล็กเสมอไป !
EXTERIOR ภายนอก
ซูซูกิ ซีอัซ รุ่นที่เรานำมาทดสอบ คือ รุ่นย่อย อาร์เอส มิติตัวถังโดยรวมมีความใหญ่โตเทียบเท่ารถยนต์ขนาด บี-เซกเมนท์ ด้วยความยาว 4,505 มม. และระยะฐานล้อถึง 2,650 มม. นับเป็นตัวถังที่มีขนาดตัวใหญ่โตที่สุดในบรรดาอีโคคาร์เทียบเคียงได้กับซีดานระดับ บี-เซกเมนท์ เลยทีเดียว ขณะที่เส้นสายโดยรวม คมเข้ม สปอร์ทในระดับหนึ่ง ฝากระโปรงที่ดูหนาสอดรับกับไฟหน้าทรงเหลี่ยม เส้นข้างตัวถังเป็นเส้นตรงตลอดความยาวของตัวถัง สำหรับรุ่น อาร์เอส เสริมความปราดเปรียวด้วยชุดตกแต่งรอบคันทั้งสปอยเลอร์หน้า/หลัง สเกิร์ทรอบคัน ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว ใหญ่สุดในบรรดาอีโคคาร์ที่ปกติแล้วจะให้ล้อแมกขนาด 15 นิ้วเท่านั้น จึงทำให้ซีอัซ มีรูปทรงที่ลงตัว แทบไม่รู้สึกถึงความเป็นรถเล็กและเน้นความประหยัดเชื้อเพลิง มีความภูมิฐานไม่แพ้รถยนต์ที่มีราคาสูงกว่า
สำหรับ โตโยตา ยารีส เอทีฟ อีโคคาร์ตัวถังซีดานรุ่นแรกของค่ายรถแห่งนี้ หลังจากที่เปิดตัวแฮทช์แบค ยารีส เกือบ 3 ปี แต่การกลับมาครั้งนี้เป็นมากกว่าการนำ ยารีส ทำตัวถังซีดาน โตโยตา ได้ปรับโฉมซีดานรุ่นนี้แบบใหม่หมดโดยสิ้นเชิง เส้นสายจึงมีความสดใหม่ ปราดเปรียว อย่างน่าพอใจ และเป็นอีโคคาร์ตัวถังซีดานอีกรุ่นที่มีมิติตัวถังใกล้เคียงรถยนต์ระดับ บี-เซกเมนท์ กับความยาวที่ 4,425 มม. และระยะฐานล้อ 2,550 มม. ขนาดตัวอาจเล็กกว่าคู่แข่งอย่าง ซีอัซ เล็กน้อย รุ่นที่นำมาทดสอบ คือ ตัวทอพ เอส ไฟหน้าทรงเรียว โคมรมดำ เสริมขอบดวงไฟสีแดงสด รวมถึงขอบล่างของช่องรับอากาศด้านหน้า และบริเวณกระจกมองข้าง แถมยังติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวันบริเวณมุมของกันชนหน้า ส่วนด้านท้ายเด่นด้วยไฟแอลอีดี แถวยาวในแนวขวาง ให้อารมณ์คล้ายรถหรู ราคาแพง และล้อแมกขนาด 15 นิ้ว
อีโคคาร์สไตล์ซีดานทั้ง 2 รุ่น มีความแตกต่างกัน ซีอัซ ให้ความรู้สึกภูมิฐาน ใหญ่โต ราวกับรถยนต์รุ่นใหญ่ อาจถูกใจผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่ “ดูแพง” จากการมองด้วยสายตา ภายใต้ราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม ในขณะที่ ยารีส เอทีฟ เน้นความทันสมัย ปราดเปรียว มาพร้อมความสดใหม่จากการเปิดตัวได้ไม่นาน ขนาดตัวที่ใหญ่ไม่แพ้ บี-เซกเมนท์ เช่นกัน ซึ่งตรงกับความต้องการของลูกค้าในบ้านเราที่ต้องการกับราคาเหมาะสม แต่ตัวถังต้องใหญ่โต เนื่องจากสเปคของอีโคคาร์ไม่ได้จำกัดเรื่องขนาดของตัวถังเอาไว้
INTERIOR ภายใน
มิติตัวถังภายนอกของ ซีอัซ ส่งผลดีถึงพื้นที่ห้องโดยสาร มีความกว้างขวางเหลือเฟือ ด้วยระยะฐานล้อที่ยาว นับเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ที่ให้มากกว่าอีโคคาร์รุ่นอื่น โดยเฉพาะพื้นที่ช่วงขาของผู้โดยสารด้านหลัง สามารถเหยียดขาได้สบาย วัสดุที่ใช้ภายในห้องโดยสารมีคุณภาพดี การประกอบแน่นหนาอย่างน่าพอใจ ทั้งบริเวณคอนโซลหน้า และแผงประตูด้านใน แม้ใช้วัสดุขึ้นรูป แต่สลับพื้นผิวสีเงินแวววาว ทำให้ห้องโดยสารโดยรวมมีความลงตัว รุ่น อาร์เอส ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังแท้ผสมหนังสังเคราะห์เสริมมาดหรูได้ดีพอสมควร
ทางด้าน ยารีส เอทีฟ มีห้องโดยสารที่กว้างขวางไม่แพ้กัน สะดวกสบายทั้งเบาะด้านหน้า/หลัง ทัศนวิสัยดี ช่วงขามีพื้นที่เหลือเฟือ (น้อยกว่า ซีอัซ เล็กน้อย) การประกอบโดยรวมทำได้ยอดเยี่ยม ในรุ่นทอพ เอส แผงข้างประตู พวงมาลัย และคันเกียร์ใช้วัสดุหนังแท้ เย็บด้วยด้ายสีแดงสด ให้อารมณ์หรู และสปอร์ทในตัวเบาะนั่งใช้วัสดุผ้า คอนโซลหน้าขึ้นรูป บริเวณขอบมีรูปทรงคล้ายการเย็บด้วยด้าย รูปทรงของคอนโซลหน้าถูกออกแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างจากยารีส รุ่นก่อนปรับโฉมโดยสิ้นเชิง
การเก็บเสียงจากภายนอกที่ความเร็ว 80 และ 100 กม./ชม. ซูซูกิ ซีอัซ มีตัวเลขที่ 65 และ 68 เดซิเบล ขณะที่ โตโยตา ยารีส เอทีฟ ทำได้ที่ 63 และ 67 เดซิเบล โดยรวมทั้ง 2 รุ่นมีห้องโดยสารที่เงียบอย่างน่าพอใจ แต่จุดเด่นอยู่ที่ ยารีส เอทีฟ จากการเสริมวัสดุดูดซับเสียงจากภายนอกหลายจุด เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนอย่างได้ผล ทั้งจากเครื่องยนต์ ล้อรถ และเสียงโดยรอบ แม้ในช่วงความเร็วสูงจะได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาบ้างก็ตาม แต่อยู่ในระดับที่รับได้สำหรับอีโคคาร
ENGINE เครื่องยนต์
เครื่องยนต์อีโคคาร์ตัวถังซีดานทั้ง 2 รุ่น อยู่ภายใต้มาตรฐานอีโคคาร์ เฟส 1 ทาง ซูซูกิ ซีอัซ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร (1,242 ซีซี) กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 12.0 กก.-ม. ที่ 4,800 รตน. ขณะที่ โตโยตา ยารีส เอทีฟ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร (1,197 ซีซี) กำลังสูงสุด 86 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 11.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. เกียร์อัตโนมัติซีวีทีทั้ง 2 รุ่น มาดูผลอัตราเร่งจากเครื่องมือวัดสมรรถนะดาทรอนกันเลย
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ซูซูกิ ซีอัซ ทำได้ 14.2 วินาที และ โตโยตา ยารีส เอทีฟ คือ 15.2 วินาที อีโคคาร์สไตล์ซีดาน ซูซูกิ อาศัยแรงม้า และแรงบิดที่ดีกว่าเล็กน้อย มีอัตราเร่งตีนต้นได้เปรียบทางฝั่ง โตโยตา ร่วม 1 วินาทีเลยทีเดียว แม้ตัวถังโดยรวมจะมีขนาดใหญ่กว่าก็ตาม
ส่วนอีโคคาร์ซีดานบแรนด์อื่น นั่นคือ ฮอนดา บรีโอ อเมซ เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบเรียง 90 แรงม้า ทำได้ 15.2 วินาที นิสสัน อัลเมรา เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบเรียง 79 แรงม้า คือ 16.4 วินาที และ มิตซูบิชิ แอททราจ เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบเรียง 78 แรงม้า อยู่ที่ 15.7 วินาที
อัตราเร่ง 0-1,000 ม. ซีอัซ ทำตัวเลขออกมาได้ที่ 35.7 วินาที (ความเร็ว 145.4 กม./ชม.) ส่วน ยารีส เอทีฟ คือ 36.2 วินาที (ความเร็ว 150.4 กม./ชม.) จะเห็นได้ว่าในช่วงตีนปลาย อีโคคาร์ซีดานของ ซูซูกิ ยังมีความได้เปรียบเรื่องอัตราเร่งเล็กน้อย จากการตอบสนองในช่วงตีนต้นที่ดี แม้ซีดานของ โตโยตา จะมีความเร็วที่มากกว่าในระยะ 1,000 ม. ทำอัตราเร่งขยับเข้ามาใกล้เล็กน้อย
สำหรับอีโคคาร์ซีดานรุ่นอื่นกับอัตราเร่งในส่วนนี้ ฮอนดา บรีโอ อเมซ ทำได้ที่ 36.5 วินาที (ความเร็ว 138.7 กม./ชม.) นิสสัน อัลเมรา คือ 37.4 วินาที (ความเร็ว 140.4 กม./ชม.) และ มิตซูบิชิ แอททราจ อยู่ที่ 37.1 วินาที (ความเร็ว 141.2 กม./ชม.)
อัตราเร่งยืดหยุ่นช่วงความเร็ว 60-100 และ 80-120 กม./ชม. ซีอัซ ทำได้ที่ 8.1 และ 10.6 วินาที ส่วน ยารีส เอทีฟ คือ 7.8 และ 10.3 วินาที แสดงให้เห็นว่าในแง่ของการเร่งแซง ยารีส เอทีฟ มีการตอบสนองที่ดีกว่า ซีอัซ เล็กน้อย อัตราเร่งสามารถนำหน้าได้ จากการปรับแต่งเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังที่ลงตัว ขณะกดคันเร่งสุดระบบปรับอากาศจะลดการทำงานลงชั่วขณะ
ทางด้านอีโคคาร์ซีดานรุ่นอื่นกับอัตราเร่งในส่วนนี้ บรีโอ อเมซ ทำได้ที่ 8.1 และ 10.2 วินาที อัลเมรา คือ 9.2 และ 12.1 วินาที และ แอททราจ อยู่ที่ 8.7 และ 11.5 วินาที
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ความเร็ว 60/80/100/120 กม./ชม. ซีอัซ ทำตัวเลขออกมาที่ 31.5/25.8/20.1/15.5 กม./ลิตร ขณะที่ ยารีส เอทีฟ อยู่ที่ 31.6/26.3/21.2/16.2 กม./ลิตร ในแง่ของการประหยัดเชื้อเพลิงทั้ง 2 รุ่น มีความสูสีกันมาก และทำได้ดีตามมาตรฐานอีโคคาร์ เฟส 1 โดยเฉพาะช่วงความเร็วต่ำประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ แม้ตัวถังจะมีขนาดใหญ่ก็ตาม
ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอีโคคาร์ซีดานรุ่นอื่น มีดังนี้ บรีโอ อเมซ 31.8/26.1/20.3/15.0 กม./ลิตร อัลเมรา 32.2/27.7/20.6/16.2 กม./ลิตร และ แอททราจ 28.9/23.9/19.9/15.5 กม./ลิตร
SUSPENSION ระบบรองรับ
อีโคคาร์ทั้ง 2 รุ่น มีระบบรองรับรูปแบบเดียวกัน นั่นคือ ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม การปรับแต่งโดยรวมมีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อย โดยทาง ซูซูกิ ซีอัซ เน้นความนุ่มนวล ผสมความหนึบ ทรงตัวดี ทั้งทางตรงและทางโค้ง พวงมาลัยเบาแรง แต่มีความหนักแน่นที่พอเหมาะ สมกับขนาดตัวของรถ ขณะที่ทาง โตโยตา ยารีส เอทีฟ ปรับแต่งเน้นความนุ่มนวลเช่นกัน ซึ่งเป็นปกติของอีโคคาร์ เน้นการใช้งานในตัวเมือง และใช้ความเร็วไม่สูงเกินไป อย่างไรก็ตามในช่วงความเร็วสูง ยารีส เอทีฟ มีความหนักแน่นมากกว่าเล็กน้อย รองรับการใช้งานทางไกลได้ดี พวงมาลัยเน้นความหนักแน่นเช่นกัน นิ่งในช่วงความเร็วสูง
ซีอัซ ให้ระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานอีโคคาร์ เฟส 1 นั่นคือ ระบบเบรค เอบีเอส ระบบเสริมแรงเบรค และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ผู้มาทีหลังอย่าง ยารีส เอทีฟ จัดเต็มเกินมาตรฐานได้แก่ ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า ด้านข้างม่านนิรภัย และบริเวณหัวเข่าของผู้ขับ) รวมถึงระบบป้องกันการลื่นไถล และควบคุมเสถียรภาพตัวรถ พร้อมระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องมองหลังมาให้ด้วยเทียบชั้นรถยนต์ราคาแพงกว่า
ในหัวข้อของประสิทธิภาพระบบเบรค ระยะเบรคที่ความเร็ว 60/80 และ 100 กม./ชม. ซีอัซมีระยะเบรคที่ 16.1/28.2/43.9 ม. ขณะที่ ยารีส เอทีฟ มีตัวเลขในส่วนนี้ที่ 15.2/27.1/42.9 ม. ถือว่ามีประสิทธิภาพของระบบเบรคที่ใกล้เคียงกัน แต่ทาง ยารีส เอทีฟ มีความได้เปรียบเล็กน้อย แม้จะใช้ล้อแมกขนาด 15 นิ้ว ก็ตาม โดยรวมแล้วทั้ง 2 รุ่นมีระบบบเบรคที่มั่นใจได้สำหรับรถยนต์ประเภทนี้ และทำตัวเลขได้ดีกว่าอีโคคาร์หลายรุ่นที่เคยทดสอบไปก่อนหน้านี้
อีโคคาร์ ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ราคาเอื้อมถึง เพราะความคาดหวังของลูกค้าก็ไม่น้อยไปกว่ารถยนต์ในเซกเมนท์อื่น ซึ่งทั้งคู่ทำได้ดีมาก ซูซูกิ ซีอัซ (ราคา 484,000-675,000 บาท) มาพร้อมรูปทรงที่ลงตัว ขนาดใหญ่ไม่แพ้รถยนต์ที่มีราคาสูงกว่า โออ่าเกินค่าตัว ห้องโดยสารกว้างขวางสุด คุณภาพการประกอบดี สมรรถนะอยู่ในระดับหัวแถว ขณะที่ โตโยตา ยารีส เอทีฟ (ราคา 479,000-635,000 บาท) เปิดตัวล่าสุด จึงจัดหนักแบบไม่ยอมใคร ภายในกว้างขวาง รูปทรงปราดเปรียว สดใหม่ ห้องโดยสารดูดีเกินราคา ออกแบบทันสมัย สมรรถนะน่าพอใจระบบรองรับหนักแน่น ระบบความปลอดภัยจัดเต็มเกินหน้ารถยนต์ราคาแพงกว่า นับว่าคุ้มค่ารอบด้านสำหรับผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอ แต่ต้องการประโยชน์รอบด้าน และความคุ้มค่ารอบตัว ภายใต้จุดเด่นที่ยังคงมีเหมือนเดิม นั่นคือการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ